'นก จริยา' เปิดใจหลังลูกสาวถูกคุกคามบนเครื่องบิน ขอบคุณฮีโร่ชาวลาวที่ช่วย

ก่อนหน้านี้นักแสดงมากความสามารถ นก-จริยา แอนโฟเน่ ได้โพสต์ลงอินสตราแกรมเล่าเหตุการณ์ลูกสาวถูกคุกคามบนเครื่องบิน จนโรคแพนิกที่เคยดีขึ้นแล้วกลับมาแย่ลง ล่าสุดเจ้าตัวเปิดใจครั้งแรกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ในรายการคุยแซ่บ SHOW

"ตอนนั้นมันเป็นช่วงที่โควิดซาใหม่ๆ เราเริ่มเดินทางกันได้ออกนอกประเทศ ลูกสาวอยากไปทำธุระเราอยากไปพักด้วยที่อังกฤษ เราก็จองตั๋วกันไป มีผู้โดยสารที่ต้องนั่งติด 3 ท่าน มีพี่ ลูกสาว และผู้โดยสารอีกท่านเป็นชาวต่างชาติ เราก็มองว่าลูกนั่งตรงนั้นเพราะมันก็มีระยะ เขาใส่เฝือกที่มือ-ที่ขา เรายังสะกิดบอกกับลูกวาสงสารเขาจังเลยเนอะ นั่งไปสักพักเครื่องออกลูกสาวก็ทำหน้าตกใจแล้วบอกว่า มี๊เขาเกาต้นแขนหนู เราก็ตกใจชะโงกไปดูกับลูกเหมือนเขากึ่งหลับกึ่งตื่น เราบอกเขาละเมอมั้งลูก อาจไม่ได้ตั้งใจ เรายังมองในแง่ดี นั่งไปอีกสักพัก ลูกบอกว่ามี๊้มือเขาไหลมาข้างหนูบ่อยมากเลย ไม่ดีละ เราก็ยังคิดว่าเขาไม่ตั้งใจ เราก็คิดว่าไปบอกพนักงานสายการบินกันมั้ยให้เขาเปลี่ยนที่หรือว่าดูแลเรามากขึ้น เพราะเรารู้สึกไม่สบายใจ เราก็เดินไปบอกพนักงานสายการบิน แต่พี่คงโชคไม่ดีไปเจอคนที่จัดการไม่ดี เป็นแอร์ผู้หญิง เรารู้สึกว่ามีความปลอดภัยที่จะบอกผู้หญิงด้วยกันให้ช่วยเดินไปดูหน่อย เขาก็ทำท่าแบบไม่ว่างมาก เขาต้องไปถามฟังความข้างเดียวไม่ได้ เราก็โอเคถ้าเขาจะไปถามซอฟๆ เขาก็ให้ลูกสาวเดินตามไปแล้วก็ไปถามผู้โดยสารที่เกาแขน คนนั้นเขาก็โวยขึ้นมาเลย เขาไม่สนใจหรอก เขาแต่งงานแล้วเห็นมั้ย มันกลายเป็นสถานการณ์มันแย่ขึ้นไปอีก เพราะไม่มีที่ให้พี่เปลี่ยนได้ไฟล์ทเต็มจริงๆ แต่เราต้องการการดูแลจากเขา แต่การดูแลและวิธีแก้ปัญหากลายเป็นว่าไปทำให้ผู้โดยสารคนนั้นโวยมาใส่พี่กับลูกสาวใหญ่เลย แอร์เลยบอกว่าคุณต้องนั่งที่เดิม เราก็โกรธไงสถานการณ์มันแย่ลง พี่เลยสลับที่กับลูกสาวเรานั่งกลางเอง ต้องนั่งอีกเกือบ 10 ชั่วโมง

พี่เริ่มตกใจละ เพราะว่าพี่มีภาวะแพนิกกำลังรักษาอยู่ แต่ว่ามันดีขึ้นแล้ว ณ วันนั้นเราเริ่มตกใจแต่เราจะไม่ยอมกินยา มีความรู้สึกว่ายามันทำให้ง่วง พี่ก็ไม่รู้สถานการณ์อีตาคนนี้ยังไง ก็เลยฝืนไม่กินยา หลังจากนั้นเขาก็ดื่มเครื่องดื่มไปเรื่อยๆเลยและก็หันมาสบถใส่เรา เราก็บอกพอหยุด ต่างคนต่างนั่งไป ก่อนมีคนมาช่วยมันพีคขนาดที่เขาปัดแก้ววิสกี้ราดพี่หมดเลย เลยไปเรียกหัวหน้าที่อยู่ไฟล์ท ก็มากันเลยทุกคน มาแค่พูดขอโทษ เราก็บอกว่าไม่นั่งแล้วตรงที่นั้นมันไม่ปลอดภัยจะทำยังไงให้ดูแลเราได้มากกว่านี้ ควรแก้ไขด้วยวิธีให้เรารู้สึกปลอดภัยด้วย เราสองคนแม่ลูกโกรธการจัดการที่มันแย่มาก น้ำตาไหลอะ มันไม่ควรเกิดขึ้น

สุดท้ายแทนที่จะเป็นการแก้ไขจากสายการบิน กลายเป็นผู้โดยสารที่นั่งถัดจากพี่ไป 2 แถว เดินมาบอกว่าถ้าต้องการเปลี่ยนที่บอกผมนะครับ ผมยินดี พี่แบบขอบคุณมาก แต่เราก็เกรงใจเพราะที่นั่งเราเปียกวิสกี้หมดเลย เขาก็พยายามเดินมาบอกว่าไม่เป็นไร เราก็รับความช่วยเหลือจากเขา เขามากับครอบครัว คุณแม่ แล้วก็ภรรยาเขา เขาย้ายไปนั่งของพี่ 2 ที่ เขาเป็นคนลาว ตอนแรกพี่คิดว่าเป็นคนไทย น่ารักมากๆเลย เดินเข้ามาบอกว่าผมยินดีนะครับ ผมมีลูกสาวผมเข้าใจ แล้วมันไม่ควรเกิดขึ้น"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง