'ต๊ะ บอยสเก๊าท์' เผยพัฒนาการลูกสาว-ให้เกียรติลูกแม้จะยังเป็นเด็ก

ต๊ะ บอยสเก๊าท์ ควงภรรยาคนสวย บุ๋ม มินตยา เปิดพัฒนาการของลูกสาวตัวน้อย น้องปิ๊งปิ๊ง ตื่นเต้นเรียกพ่อเป็นครั้งแรกกลางรายการ พร้อมย้อนเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้เกือบเลิกกับคุณภรรยา ในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ บูม สุภาพร เป็นพิธีกร

ตอนนี้ลูกสาวกี่ขวบแล้ว ?
ต๊ะ : ตอนนี้ 1 ขวบ 10 เดือนกับอีก 17 วัน

ตอนนี้พัฒนาการน้องเป็นยังไงบ้าง ?
บุ๋ม : เป็นพัฒนาการที่ค่อนข้างดี เรียนรู้ได้เร็ว เหมือนน้องโตกว่าอายุ เราคุยกันรู้เรื่อง
ต๊ะ : น่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่เราปูมาตั้งแต่อยู่ในท้อง ตั้งแต่เป็นไข่เลยจะเล่นดนตรีให้ฟังตลอด คุณแม่ก็จะอ่านนิทานตั้งแต่อยู่ในท้อง เด็กตั้งแต่เกิดจนถึง 3 ปีเป็นช่วงสำคัญที่สุดของชีวิตเค้า เวลาเค้าใช้มือหยิบจับจะทำให้เครือข่ายในสมองกระจาย ถ้าเราห้ามเค้าไม่ให้หยิบจับ จะเป็นการขวางกั้นพัฒนาการ

ลูกเรียกอะไรได้ก่อน ?
ต๊ะ : เรียก ต๊ะ ตั้งแต่ประมาณ 9-10 เดือน พอได้ยินก็ดีใจ น่าจะเป็นเพราะว่าเค้าได้ยินตั้งแต่เกิดแล้ว ปกติแล้วยังไม่เรียกพ่อ ผมตื่นเต้นมากเพิ่งจะมาเรียกพ่อวันนี้แหละ ปกติเรียกต๊ะกับปะป๊า

นอกจากคุณแม่ที่ต้องให้นมแล้ว พี่ต๊ะก็มีภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงเหมือนกันคืออะไร ?
ต๊ะ : ล้างตูด ล้างอึ อาบน้ำ เป็นหน้าที่ของคุณพ่อ เรื่องอุ้ม แล้วก็รู้สึกภูมิใจ อยากทำ ก่อนมีลูกเวลาไปสนามบินแล้วเจอพ่อที่เอาลูกไปเปลี่ยนแพมเพิร์สในห้องน้ำ เหม็นอ่ะ อึเด็กโคตรเหม็นเลย แต่พอมีลูกแล้วเป็นเรื่องเล็กมากเลย แต่อย่างเรื่องอาบน้ำคุยกับแม่ค้าว่าจะอาบถึงแค่เค้า 3 ขวบก็พอ ต่อไปก็ให้อาบกับแม่ละ เพราะตอนนี้เค้าเริ่มรู้ เริ่มเห็นอะไรที่มันประหลาดๆในตัวเราแล้ว

เวลามีใครวิ่งมาจะเล่นกับลูกเค้าอุ้มลูกวิ่งหนีเลย ?
บุ๋ม : มีครั้งนึงเค้าโมโหจริงจังมากเลย ไปทานอาหาร พนักงานก็มารับออเดอร์เป็นสาวสอง แล้วก็จะมาจับน้องปิ๊ง แล้วพ่อก็แสดงท่าทางอาการออกเลย เราก็ต้องส่งสายตา พอเค้าไปก็บอกพี่ต๊ะว่าใจเย็นๆ เค้าก็เอ็นดูเด็กเค้าไม่มีลูกเค้าไม่รู้ว่าต้องระวังอะไรบ้าง เหมือนตอนที่เรายังไม่มีลูก แล้วเราจะไปเล่น แล้วพ่อเค้าตาแข็งใส่ พอเจอกับตัวเองเข้าใจเลย

นอกจากจะหวงลูกแล้ว พี่ต๊ะยังสปอยล์ลูกด้วย ลูกชอบดูสัตว์พาไปเลยอาทิตย์ละ 3 วัน ?
ต๊ะ : คือก่อนจะมีลูกเราเป็นคนชอบเที่ยวอยู่แล้ว ภาพที่เราเห็นเวลาไปสวนสัตว์ พ่อแม่จะเอาลูกเล็กๆไป เราเคยคุยกับบุ๋มว่า จะไปรู้เรื่องอะไร ตัวแค่นี้ แต่พอมีลูกปุ๊ป ไปซาฟารี ก่อนที่จะไปสวนสัตว์ผมจะมีการ์ดรูปสัตว์เล่นกับเค้าก่อนนอนทุกวัน พอไปสวนสัตว์เห็นม้าปุ๊ปร้องเสียงม้าเลย

ดูเหมือนพ่อแม่จะไม่ดุเลย
บุ๋ม : เคยลองดูแล้วแต่เค้าไม่กลัวบุ๋ม เค้าคิดว่าบุ๋มเล่นด้วย
ต๊ะ : เลยเปลี่ยนไปให้เหตุผลซะมากกว่า

มีการตกลงกันมั้ยว่าถ้าลูกถึงตรงนี้จะต้องมีคนที่รับบทโหด ?
บุ๋ม : ตั้งแต่ตอนท้องก็มีการคุยว่าใครจะเป็นคนตีลูก พี่ต๊ะก็บอกว่า “เดี๋ยวต๊ะจัดการเอง ต๊ะเป็นผู้ชายเดี๋ยวต๊ะตีเอง” แล้วเป็นยังไง
ต๊ะ : ตีไม่ลง คือมันย้อนกลับไปคิดถึงตัวเราด้วย ผมแอนตี้ รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี คือมันเหมือนกับว่าเราเอาแต่ตัวเองเราไม่ได้เห็นเค้า การตีวันนี้เค้าอาจจะหยุดซนเพราะความกลัวความเจ็บ แต่ถ้าวันนึงเค้าโตกว่านี้ถ้าเค้าไม่กลัว เค้าไม่เจ็บล่ะ มันจะอีกแบบนึง เราจะเอาเค้าไม่อยู่เลย สิ่งที่พยายามทำคือคุยกับเค้าและให้เหตุผลมากกว่า สิ่งที่เค้าตอบรับมาค่อนข้างดี เวลาเราคุยเหตุผลกับเค้า เค้าจะมองตาเรา แล้วเค้าประมวลผลคิดตามเรา

มีอยู่เรื่องนึงที่พี่บุ๋มชื่นชมในตัวพี่ต๊ะมาก นั่นก็คือในการให้เกียรติลูกสาว ถึงแม้จะวัยเพียงขวบ สองขวบ ?
บุ๋ม : คือตอนที่เราท้อง เพื่อนๆผู้ชายเค้า คือพี่ต๊ะบอกว่าเค้ากลัวจิ๊มิลูก เค้ากลัวจิ๊มิของเด็ก เค้าไม่กล้าดูหรอก เพื่อนผู้ชายทุกคนที่มีลูกเค้าก็บอกว่าคอยดูเถอะพอออกมาจะฟัด แต่พอปิ๊งปิ๊งออกมา พี่ต๊ะก็ทำอย่างนั้นจริงๆ ให้เกียรติลูกสาวไม่มองโดยตรง แต่บุ๋มก็จะสอนเค้าว่าถ้าบุ๋มเป็นอะไรไปก่อนแล้วมีแต่เค้า ก็ต้องทำให้ลูกนะ ทำความสะอาดของผู้หญิงทำอย่างนี้นะ

แต่มีอยู่เรื่องนึงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพี่ต๊ะ เป็นเรื่องที่ต้องทะเลาะกันจริงจัง ?
บุ๋ม : เป็นเรื่องตัดผมค่ะ ตัดผมครั้งแรกของน้องปิ๊ง คือน้องปิ๊งตั้งแต่เกิดมาไว้ผมทรงแรกเกิดมาตลอด เราก็หาข้อมูลว่าเด็กเล็กต้องตัดผมร้านทำผมของเด็ก เพราะจะมีคนช่วยเซฟด้วย เค้าต้องเชี่ยวชาญพิเศษ คนนี้ก็ไม่รู้หงุดหงิดอะไร หวงผมลูก พอถึงร้านก็หงุดหงิด แต่พอตัดเสร็จก็บอกว่าน่ารักดี

เพิ่งผ่านประสบการณ์ติดโควิดทั้งครอบครัว เห็นว่าตอนนั้นยากลำบากเหมือนกัน ?
ต๊ะ : ผมจะออกไปทำงานแต่ละทีต้องผ่านการพูดเยอะ แต่มันต้องไปทำงาน สุดท้ายคนที่เอามาคนที่ติดคือคนนี้(ภรรยา)
บุ๋ม : คือจะทำแบรนด์เสื้อผ้าเด็ก ไปเลือกผ้าเอง ก็เลยไปติดเชื้อโควิดกลับมาบ้าน
ต๊ะ : โหดร้ายมาก เพราะว่าแม่ต้องแยกไปอยู่อีกห้องนึง ต๊ะต้องดูลูกอีกห้องนึง เป็นห้องกระจกขวาง แล้วลูกติดนมแม่ร้องเรียกหาแม่ตลอด แต่เอาแม่ออกมาให้นมไม่ได้ พ่อต้องอยู่แทนแม่
บุ๋ม : วันที่ไปตรวจที่โรงพยาบาล ลุ้นว่าให้ปิ๊งติดด้วยเหอะ ปรากฏว่าติดกันหมด แต่พอเด็กติดจริงๆแล้วมันแย่มากมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลย
ต๊ะ : ไข้ขึ้น 39.8 ถ้าเป็นผู้ใหญ่อาจช็อกไปแล้ว แต่ปิ๊งไม่มีร้องไห้งอแงเลย ไม่มีกวนทำให้พ่อแม่แย่ไปใหญ่ ไม่มีเลยคืนที่ไข้ขึ้นสูงอยู่ดีๆลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มให้แม่ จนแม่เข้าใจผิดว่าผีเข้าหรือเปล่า

เห็นว่าตอนอยู่โรงพยาบาลก็มีเรื่องไม่เข้าใจกัน ?
ต๊ะ : เกือบเลิกกันเหมือนกัน เรื่องของเรื่องคือผมให้บุ๋มเค้ากินยาให้ตรงเวลา ถ้ากิน 6 โมงเย็น ต้องกินอีกที 6 โมงเช้าแล้วเค้าเหมือนไม่สนใจในสิ่งที่เราพยายามจะบอกเค้า แล้วมีเรื่องสะสม เลยรุนแรงกัน จนบุ๋มก็พูดว่าเลิกกันเถอะบุ๋มไม่ไหวแล้ว ผมก็อยากเลิกแล้ว แต่พอเราหันหน้ามาคุยจะเลิกกัน หันหน้าไปเห็นลูก ผมเลยต้องยอมันไปบอกเมียว่า แยกไม่ได้ เพราะไม่ต้องการให้ลูกได้รับผลกระทบจากการที่พ่อแม่ทะเลาะกัน ซึ่งถ้าเป็นปกติทั่วไป เคสนี้เคลียร์หลายวันแน่นอน แต่พอมีลูกวันรุ่งขึ้นทุกอย่างหายหมด ที่เค้าบอกว่าลูกเป็นโซ่ทงอคล้องใจพ่อแม่ อันนี้เรื่องจริงมากๆ

บ้านนี้เห็นแบบนี้ขาเตียงสั่นนะ เค้าไม่ยอกทำการบ้านกัน ?
ต๊ะ : บุ๋มเค้าเลี้ยงลูกแล้วไม่ค่อยทำการบ้าน เลยตัดสินใจเดี๋ยวส่งข้อความเลยว่า ที่เค้าออกไปมีเมียน้อยกันมันก็เพราะแบบนี้แหละ แต่ยังไม่ทันส่งครับ เราเห็นภาพเค้า เค้าก็ไม่ได้ไปไหนวันๆเลี้ยงลูก อยู่กับเรา อยู่กับลูกทั้งวัน เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้ มันก็เห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว มันไม่ใช่ว่าเค้าไปเที่ยวแล้วละเลย แต่เค้าเลี้ยงลูกทั้งวัน

บุ๋ม : ในมุมของความเป็นแม่ เราเลี้ยงลูกทั้งวัน เวลาตอนที่จะเป็นของเราคือตอนที่เค้าหลับเราถึงจะได้เข้าห้องน้ำแบบเต็มที่ ไถมือถือดูชีวิตคนอื่นบ้าง คนนี้ก็รอคิวต่อ มีอยู่คืนนึงเค้าอาบน้ำรอเลย เราก็แบบปิ๊งกินนมแม่นานๆเลยนะ พี่ต๊ะเค้าเหนื่อยมากเค้าก็หลับไป ลูกก็หลับ ซักพักโผล่หัวขึ้นมาดูว่าลูกหลับหรือยัง (หัวเราะ)

มีอะไรอยากจะบอกลูกสาวมั้ย ?
ต๊ะ : ขอบคุณลูกสาวมากที่ให้โอกาสผมได้เป็นพ่อคน ผมรู้ตัวเองว่าตั้งแต่มีลูกผมเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างและผมพร้อมที่จะทำทุกำอย่างเพื่อให้เค้ามีความสุข
บุ๋ม : อยากบอกว่าน้องปิ๊งปิ๊งเป็นเหมือนของขวัญ ของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตแม่เลย แม่จะดูแลรักษาน้องปิ๊งเอาไว้ให้ดีที่สุด ให้อนาคตและจะอยู่เป็นเพื่อนของน้องปิ๊งตลอดไปค่ะ คุณแม่รักหนูนะคะ