'กระติ๊บ-ปั่น' เปลือยชีวิตรักมาราธอน 12 ปี เผยพร้อมแต่งแล้ว

นักแสดงสาว กระติ๊บ-ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล ควงแฟนหนุ่มคู่รักมาราธอน "ปั่น พจศกร" ที่คบหากันมายาวนานถึง 12 ปี เล่าเส้นทางความรักสุดฮา แถมยังมาปรับจูนกันเยอะเพราะความต่างกันสุดขั้ว ด้านฝ่ายสาวเผยพร้อมแต่งกับคนนี้อยู่แล้ว ในรายการคุยแซ่บSHOW ออกอากาศทางวัน 31 ที่มีชมพู่ ก่อนบ่าย และเป็กกี้ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

คบกันมา 12 ปี?
กระติ๊บ : ถ้าจะเอาจริงๆ 2 ปีแรกคุยๆกัน เลิกกันไปรอบนึง ถ้าคบจริงจัง 10 ปีค่ะ มันเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตเหมือนกันนะที่วันนั้นไปให้เบอร์เขาจนยาวมาถึงวันนี้

คิดว่าผู้ชายโขมยโทรศัพท์?
กระติ๊บ : เป็นปาร์ตี้ของ 2 มหาวิทยาลัย ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้อยู่มหา'ลัยเหล่านั้น เราก็เต้นๆกินน้ำเก๊กฮวยไปเยอะ เห็นคนนี้นั่งอยู่หน้ากระเป๋าเรา เขาใช้กระเป๋าตังค์เหมือนเรา โทรศัพท์เหมือนเราทุกอย่างเลย เราก็คิดว่าเขาโขมย
ปั่น : คิดว่าอะไรวะคนนี้ งงครับ อยู่ดีๆเดินมาชี้หน้าเราเลย แล้วพูดว่าเธอมาโขมยของเรา ผมบอกป่าวนี่ของผม เขาก็เถียงบอกไม่ใช่นี่ของเราเอามานี่

พอเห็นว่าไม่ใช่ของเราเป็นยังไง?
กระติ๊บ : คือเขาตัวสูงกว่าหนูก็คว้าเอาแล้วเปิดภาพหน้าจอเป็นหมาเหมือนของเรา กระเป๋าตังค์รุ่นเดียวกัน เราเลยแก้เก้อดูสิว่าฟังเพลงแนวไหน ฟังเพลงเดียวกับเรา คิดในใจพรหมลิขิตแน่ๆเราก็เลยสะบัดหน้ากลับไป ไม่คิดจะขอเบอร์เราเหรอ
ปั่น : กดให้เองเลยนะ

ประทับใจมั้ยเจอกันครั้งแรก?
ปั่น : ไม่ว่าใครเจอผมว่าก็ต้องจำคนนี้ได้ เขามาขนาดนี้ หลังจากนั้นเราไปกินข้าวกับเพื่อน ยังไม่ได้ติดต่อเขาไปโดยตรง เพื่อนก็ถามจำคนวันนั้นได้มั้ย ได้โทรไปหรือยัง

คืนนั้นเขาสวยมั้ย?
ปั่น : เขาเด่นครับ เพราะว่าเขาใส่ชุดราตรีไป แล้วไม่มีใครใส่ชุดราตรี

ไม่รู้ด้วยว่าเป็นดารา?
ปั่น : ไม่รู้ครับ หลังจาดนั้นพอคุยๆไปสักพัก เขาก็บอกว่าทำงานอะไรอยู่
กระติ๊บ : อวดไง ดารานะเว้ย

ใครเป็นคนจีบใครก่อน?
กระติ๊บ : หนูแค่ให้เบอร์ ถ้าจีบจริงๆเขาหรือเปล่า เขาเป็นคนโทรหาหนูนะ
ปั่น : ผมโทรวันที่ไปทานข้าวกับเพื่อน เขาพูดว่าทำไมเพิ่งโทรมาละ หลังจากนั้นก็นัดเจอที่ร้านอาหาร เป็นร้านที่นั่งคุยได้เรื่อยๆ ยาวๆเปิดจนถึงเช้า
กระติ๊บ : คุยปัญญาอ่อนเลยตอนนั้น ชอบสีอะไร ปั๊ปปี้เลิฟ มหาลัยอ่า

ตอนนั้นหุ่นผู้ชายแซบมาก ชอบเลย ต้องคุยต่อเนื่อง?
กระติ๊บ : พอฟังหลายๆอย่างเขาค่อนข้างตรงสเป๊คที่ติ๊บเคยคิดเอาไว้หลายอย่าง เราชอบคนตัวสูง เล่นกีฬา พูดได้หลายภาษา

ชอบอะไรในตัวกระติ๊บ?
ปั่น : เขามีความอาร์ตติสเยอะมาก ผมเรียนทางสายศิลป์ และเรียนด้านการเมือง เราจะชินคนแวดวงปกติ แต่เขามาไม่เหมือนคนอื่น

ต่างขั้วมาก ต้องปรับจูนยังไง?
กระติ๊บ : จูนเยอะเหมือนกันเพราะติ๊บเป็นคนคิดเร็วทำเร็ว แล้วขี้โมโห แต่ว่าเขาเป็นคนที่มีอะไรไม่ค่อยพูด วุฒิภาวะดีกว่าเยอะ เวลาทะเลาะอะไรเขาจะไม่ค่อยพูดแล้วเราเป็นคนที่ชอบคำตอบ เขาก็จะเงียบ
ปั่น : ติ๊บเป็นคนใจร้อน แต่ถ้าอะไรที่เกี่ยวกับศิลปะเขาจะเป็นคนใจเย็นทันที ถ้าไปเที่ยวกันคือเผื่อไว้เลย 1 วัน เราไม่เข้าใจแต่เขาจะพยายามอธิบายว่าคืออะไร

เอาแต่ใจมั้ย?
ปั่น : เขาเป็นคนเลือกมากกว่า เลือกเก่ง เขาเป็นคนละเอียด
กระติ๊บ : เขาเป็นคนอะไรก็ได้ จนบางทีเรารู้สึกเหมือนคุยคนเดียว

เคยเลิกกันไปแล้วกลับมบกันอีก?
กระติ๊บ : ตอนนั้นที่เริ่มรู้จักกันช่วงจบมหาลัย เขาไปเรียนต่อที่นิวยิร์ก ไปเจอสาวเกาหลี เขาก็หายไปเลย
ปั่น : เราไม่ได้คุยกันตั้งแต่ก่อนไป
กระติ๊บ : แต่ก่อนเขาเป็นคนเจ้าชู้มาก ไม่ใช่นิสัยอย่างนี้เลย สาเหตุที่เลิกกันตอนแรก มันมีอยู่ครั้งนึงที่เขาโทรมาบอกว่ามาบ้านเรามั้ยวันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่เดี๋ยวเราทำสปาเกตตี้ให้กิน หนูเลยแบบมันมาทรงไม่ดีแล้วคิดไม่ดีแน่ๆ ตอนนั้นคุยกันประมาณครึ่งปี หนูก็ตอบกลับไปถึงเวลาต้องไปกินเส้นกันแล้วเหรอ แล้วนางก็คงตกใจพูดตรงมาก ตกใจแล้วหายไปเลย
ปั่น : เขาไม่ได้พูดกินเส้น เขาพูดอีกคำนึง
กระติ๊บ : หนูเป็นคนพูดตรง ถ้าคุณต้องการอะไรหรือคุณคิดอะไรพูดกันตรงๆ หนูไม่ชอบคนซับซ้อนหรือเล่นละคร
ปั่น : ก็งง เลยเว้นระยะห่างก่อน หลังจากนั้นไปเรียนนิวยอร์ก

แล้วไปรู้ได้ไงว่าเขาจีบสาวเกาหลี?
กระติ๊บ : นางกลับมาเล่าให้ฟัง เหตุผลที่กลับมาคบกัน เพราะปั่นมีเพื่อนของเพื่อนมาคุยๆกับเรา อารมณ์หวงก้าง เลยขอเบอร์เพื่อนเขาที่จีบหนูโทรมาเอง หนูไปกดไอจีเขาด้วยเพื่อนเขาด้วย สุดท้ายเลยนัดหนูมาคุยกัน

โกรธมั้ยชวนไปกินเส้นแล้วไม่ไป?
ปั่น : ไม่โกรธแต่ว่าเสียหน้า
กระติ๊บ : ที่เขาหายไปเราก็ไม่โกรธ ช่วงนั้นวัยกำลังเที่ยว หนูจำได้แม่เคยสอนคำนึงว่า จะคุยกี่คนก็ได้นะ แต่จะใส่อะไรเข้าไปในตัวเองดูให้ดีก่อน หนูก็เซฟตัวเองถ้ายังไม่ใช่ก็จบๆไป

ทำไมถึงกลับมาหากระติ๊บ ?
ปั่น : แวบแรกเรายังชอบในความเป็นอาร์ตติสของเขาอยู่ อีกอย่างนึงคืออยากเอาชนะกลายๆด้วย

วิธีการง้อคือหลอกจูบ?
ปั่น : ก่อนหน้านั่นคือชวนไปร้านเดิม
กระติ๊บ : ยันเช้าเหมือนเดิม แต่คราวนี้เราเห็นทัศนคติเขาที่โตขึ้น ไปอยู่ที่โน่นลำบากทำงานรับผิดชอบตัวเอง

ที่เขาเล่าว่าไปกินรามยอนมาไม่จี๊ดหรอ?
กระติ๊บ : เรารู้สึกว่าเป็นไงมันไม่แซ่บเท่าพริกขี้หนูใช่มั้ย
ปั่น : ตอนนั้นเล่าฉันเพื่อน

ลึกๆยังคิดถึงกันมั้ย?
กระติ๊บ : คนนี้ก็ยังติดอยู่ในใจ เพราะเป็นคนที่ตลกด้วย
ปั่น : ก็คิดเพราะว่าไม่ได้คุยกับใคร

ขอจูบเพื่อลืมแฟนเก่า?
กระติ๊บ : เขาอยู่ๆก็เสล่ออีกละ เปิดกระเป๋าตัง เราคุยกับผู้หญิงคนนี้อยู่นะ เรากำลังเลือกอยู่ระหว่างเธอกับคนนี้จะเลือกใครดี ตอนนั้นพูดว่าอะไร
ปั่น : เธอมาจูบกันหน่อยมั้ย วัดใจด้วย
กระติ๊บ : ไม่เคยเจอคนแบบนี้มาจีบเราอ่ะ มันตลก เราก็ให้ กล้าขอก็กล้าให้ หลังจากนั้นก็พูดว่า ให้คิด 5 นาทีพอ เป็นแฟนเราก็เป็นไม่เป็นก็ไม่ต้องเป็น พอเรามานั่งคิดถ้าไม่เจ้าชู้เขาเป็นคนที่น่ารัก แต่พอได้คุยเขาคงเปลี่ยนแล้วจริงๆก็เลยโอเค

ทำไมถึงให้เวลา 5 นาทีตัดสินใจ?
ปั่น : เรารู้จักคนนี้มานานแล้วด้วย ถ้าเป็นแฟนไม่จำเป็นต้องจีบเพราะเรารู้จักกันมานานแล้ว ถ้าเป็นก็เป็นเลย

คบกันมานานทำไมยังไม่ถึงจุดแต่งงาน?
กระติ๊บ : การแต่งงานของติ๊บ ผู้ใหญ่ก็ถามว่าจะเมื่อไหร่ ติ๊บไม่ได้ติดว่าแต่งเมื่อไหร่ แต่ติ๊บรู้สึกว่างานแต่งมันไม่ได้สำคัญ มันสิ้นเปลืองมากเลย งานแต่งในอุดมคติจะเขียนในการ์ดเลยไม่ขอรับซองใดๆ แต่งโบสถ์เล็กๆ
ปั่น : ถ้าเกิดเราจะแต่งเป็นการที่เราบอกกับพระเจ้าว่าเราจะอยู่ด้วยกันแล้วนะ จะใช้ชีวิตไปด้วยกันจนแก่

หรือรอเบบี๋?
กระติ๊บ : ใช่ค่ะ หนูรู้สึกว่าถ้าแต่งมีลูกเลย

ขอแต่งงาน?
ปั่น : คิดไว้ 1-2 ปีนี้
กระติ๊บ : เมื่อวานก็ไปคุยเรื่องฝากไข่กับคุณหมอมาค่ะ