'อิงฟ้า วราหะ' ย้อนเล่ามรสุมชีวิต ไม่มีเงินซื้อข้าว ท้อหนักจนคิดสั้น

อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 เจ้าของแฮชแท็ก #อิงฟ้ามหาชน ที่วันนี้พลิกชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือที่การตอบรับจากแฟนคลับอย่างล้นหลาม พร้อมเล่าเรื่องราวชีวิตที่หลายคนยังไม่รู้ และวินาทีสูญเสียคุณพ่อที่ทำเอาชีวิตเครียดหนักถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31

ตอนนี้ชีวิตแดดดี๊เปลี่ยนไปแค่ไหน?
อิงฟ้า : หน้ามือเป็นหลังมือเลย จากคนที่ว่างงานมาเยอะในช่วงโควิด ตอนนี้ก็กลายเป็นว่างานแน่นเลย

เรียกว่าแทบไม่ได้นอนเลย?
อิงฟ้า : นอนน้อย แต่นอนนะ

ตอนนี้มีพ่อยก แม่ยก สายเปย์มาก ได้อะไรมาบ้าง?
อิงฟ้า : หลักๆ ก็เป็นพวงมาลัยที่เราออกคอนเสิร์ต มีทองคำ ที่ดินในประเทศและต่างประเทศ?

รู้สึกยังไงบ้างอยู่ดีๆ มีคนมาเปย์ให้เราเยอะขนาดนี้?
อิงฟ้า : มันเกินความคาดหมายมากๆ หนูไม่คิดว่าตัวเองจะมาอยู่จุดนี้ได้เหมือนกัน เราไม่คิดว่าคนที่เขารัก เขาจะซัพพอร์ตเรามากขนาดนี้ มันเยอะมากจริงๆ

แค่ไปกินข้าวแล้วตั้งไลฟ์สด แล้วแฟนคลับโทรเข้าที่ร้าน มื้อนี้หนูขอจ่าย อิงฟ้าบอกไม่เอา?
อิงฟ้า : ใช่ๆ สรุปวันนั้นเขาไม่ได้จ่าย

ทำไมเวลามีคนมาขอจ่ายให้เราถึงปฎิเสธ?
อิงฟ้า : เกรงใจ เพราะว่าร้านที่ทานก็รู้จักกันอยู่แล้ว ก็ช่วยอุดหนุนคุณป้าเขาไป

ถ้าตีเป็นมูลค่าของที่ได้ตอนนี้เท่าไหร่?
อิงฟ้า : โอ้ว...ถ้าหนูตีคร่าวๆ ก็น่าจะประมาณหลักล้านค่ะ

กว่าจะประสบความสำเร็จทุกวันนี้ย้อนไปช่วงประกวด มีช่วงแอบท้อเยอะเลย?
อิงฟ้า : เยอะมากค่ะ เพราะว่าการเก็บตัวมันค่อนข้างที่จะเหนื่อย ช่วงระยะเวลาการเก็บตัวมันก็จะมีกลุ่มแฟนนางงามที่เขาจะคอยแบบนู่นนี่นั่น ซึ่งนางงามทุกคนก็จะรับรู้ตลอด บางทีเราจะเจอกระแสดราม่า นู่นนี่นั่น มันก็จะทำให้เราเหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ ช่วงที่เราท้อก็มี ก็มีหลายคนที่เป็นเหมือนกัน

อะไรที่ทำให้เราสู้แล้วผ่านตรงนั้นมาได้?
อิงฟ้า : ก็ถามตัวเองว่าเรามาอยู่ตรงนี้เพราะอะไร เรามีเป้าหมายของเราชัดเจนว่าเราอยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิตเราต่อยอดชีวิตครอบครัวของเราให้ดีขึ้น ก็ต้องสู้ กำลังใจจากด้อมก็สำคัญมาก ส่วนใหญ่ด้อมหนูจะไม่ใช่แฟนนางงามตั้งแต่แรกเริ่ม มาจากกลุ่มร้องเพลง การทำขวัญนาค หรือว่าคนที่มาจากกระแสการจิ้น หรือว่าการที่เรามีจุดยืนของเรื่อง LGBTQ เขาก็จะมาตามเราตรงนี้ เขาจะไม่เข้าใจบริบทของนางงามว่ามันจะต้องมีดราม่าเยอะขนาดนี้เลยเหรอเป็นกำลังใจให้น้องนะ มันก็เลยเกิดแรงซัพพอร์ตที่มันค่อนข้างมาก

คุ้มค่าไหมกับการที่น้องต้องเหนื่อยแล้วมาถึงจุดนี้?
อิงฟ้า : คุ้ม หายเหนื่อยเลยค่ะ วันที่ได้มงฯ คือไม่เล่นโซเชียลอะไรเลย นอน อิ่มแล้วก็หลับเลย หายเหนื่อย

กว่าจะสำเร็จแบบนี้เห็นว่าครอบครัวอิงฟ้าต้องย้ายถิ่นฐานค่อนข้างเยอะ?
อิงฟ้า : เหมือนโดนคำสาป เวลาอยู่ที่ไหนไม่เคยเกิน 3 ปี หนูต้องย้ายตลอด ตั้งแต่เด็กก็อยู่อุทัย ย้ายไปศรีสะเกษศรีสะเกษ กลับมาอุทัย อุทัยกลับมาสุพรรณ สุพรรณไปราชบุรี ราชบุรีกลับมาอุทัย อุทัยกลับมากรุงเทพฯ อย่างนี้

เคยถามครอบครัวไหม ทำไมเราต้องต้องย้ายบ้านบ่อยขนาดนี้?
อิงฟ้า : มันจะมีคำตอบในแต่ละปีเลย เหมือนพ่อหนูด้วยความที่เขาเป็นศิลปิน เขาจะค่อนข้างที่แบบถ้าเราอยู่ตรงนี้แล้วไม่โอเค ไม่รุ่ง เราย้ายกันดูไหม เพราะเราก็ไม่ได้มีสมบัติติดตัวอะไรกันอยู่แล้ว

พ่อหนูเป็นสายติสท์ อยากย้ายไปที่ใหม่ๆ?
อิงฟ้า : เหมือนเวลาเราทำอาชีพขายของ เวลาขายแล้วไม่ค่อยเวิร์กหรือว่าเจ๊งเราก็ย้าย เราไม่ได้มีสมบัติอะไร ไม่ได้มีบ้าน

ในวัยเด็กเราย้ายบ่อยๆ แบบนี้ เรามีเพื่อนทันไหม?
อิงฟ้า : มีนะคะ แต่ไม่รู้เป็นอะไร ตอนเด็กๆ หนูไม่เคยติดเพื่อนเลย อาจจะด้วยความที่เราย้ายบ่อย เราเลยไม่ติดเพื่อนจะติดพ่อกับแม่มากกว่า

ครอบครัวย้ายบ่อย ขยันทำงานก็จริง เห็นบอกว่ามีช่วงที่ไม่มีเงินเลยก็มี ไม่มีเงินซื้อข้าวกินเลยก็เคยเกิดขึ้น?
อิงฟ้า : มีค่ะ ตอนนั้นจำได้ขึ้นใจเลย ตอนนั้นอยู่ที่สุพรรณ มีข้าวแต่เราไม่มีเงินที่จะไปซื้อกับข้าวกิน เพราะเหมือนว่าเงินมันหมุนไม่ทัน เราก็เดินออกไปเด็ดผักบุ้งที่มันอยู่ตามคลอง เด็ดมาก็มาผัดกินกันในครอบครัว ตอนนั้นหนูไม่ได้รู้สึกซีเรียสอะไร เพราะว่าเรารู้ว่าถ้าแม่ทำกับข้าวนั่นคืออร่อยแล้ว

มีช่วงหนึ่งที่รู้สึกถึงความลำบาก เพราะคุณพ่อป่วย?
อิงฟ้า : เราไม่รู้มาก่อนเลย เพราะอาจจะด้วยความที่เรายากจนกันด้วย เวลาเป็นอะไรคุณพ่อก็จะไม่บอก กลัวว่าต้องไปรักษา ก็ต้องเปลืองเงิน จะเป็นคนที่เก็บอาการเก่งมาก เก็บรักษาความเจ็บปวดมาตลอด จนมีอยู่วันหนึ่งที่เขาเริ่มผอมลงๆ ครอบครัวก็เริ่มสังเกตแล้วว่าแปลกๆ แล้วเขาก็ปวดท้องหนักมาก เราเรารู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ต้องไปตรวจ พอไปตรวจคุณหมอก็ถามว่าไปอยู่ไหนมา ทำไมเพิ่งมาตรวจนี่คือเข้าขั้นระยะที่4 แล้ว

พ่อป่วยเป็นอะไร?
อิงฟ้า : มะเร็งตับ ด้วยตอนที่เป็นศิลปิน ช่วงที่เขาวัยรุ่น เขาดื่มเหล้า ดูดบุหรี่บ่อย

ณ ตอนที่ตรวจเจอ ตอนนั้นคุณพ่ออายุเท่าไหร่?
อิงฟ้า : 43 ค่ะ ส่วนฟ้าอายุ 17 คาบ 18

พ่อเคยสัมภาษณ์ในรายการ ถ้าลูกผมเป็นศิลปิน ผมนี่แหละจะเป็นคนดูแลลูกให้อยู่ในสังคม อยู่ในวงการให้ดีที่สุด ณตอนนั้นคือรู้ว่าเป็นหรือยัง?
อิงฟ้า : ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเป็น แต่ตอนนั้นเป็นช่วงที่ซูบลง ผอมลง

หลังจากที่เรารู้มีเวลาทำใจนานแค่ไหน?
อิงฟ้า : คุณหมอแจ้ง ถ้ากำลังใจดี เต็มที่ก็ 4 เดือน เขาก็สู้ของเขาเต็มที่มากๆ ก็ 4 เดือนจริงๆ

ครอบครัวเรามีกันกี่คน?
อิงฟ้า : ปกติจะอยู่กัน 5 คน มีคุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว 2 คนแล้วก็ฟ้า มีลูกสาวทั้งหมด 5 คน

ขาดหัวหน้าครอบครัว ขาดกำลังหลัก หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
อิงฟ้า : ก็แตกแขนงออกไปหมดเลย หลังจากที่คุณพ่อเสีย คุณแม่ก็ขอไปบวชประมาณ 2 ปี ตัวฟ้าเองก็ย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพ พี่คนกลางทำงานอยู่ที่กรุงเทพ แต่ว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน พี่คนโตแต่งงานมีครอบครัว มีลูก อยู่ที่ราชบุรี

ที่บอกว่าไปเช่าห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ เล็กกว่าห้องน้ำ อันนั้นอยู่รวมกันก่อนเข้ากรุงเทพใช่ไหม?
อิงฟ้า : ใช่ค่ะ ตอนนั้นหนูอยู่ที่สุพรรณ จะอยู่กัน 4 คนพี่คนกลางอยู่กับคุณย่า ก็จะมีพี่คนโต พ่อแม่ แล้วก็ฟ้า ซึ่งห้องมันเล็กมาก ทุกวันนี้หนูกลับไปดูห้องเช่านี้ยังอยู่นะคะ ก็ยังเกิดคำถามกับตัวเองว่า ณ ตอนนั้นเราอยู่กันได้ยังไง แต่ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกว่าแคบ

เห็นว่าก่อนคุณพ่อจะเสีย คุณพ่อมีความใฝ่ฝันและมุ่งมั่นมากๆ อยากให้อิงฟ้าเป็นนักร้อง แต่ช่วงที่เซ็นสัญญาเป็นช่วงที่คุณพ่อไม่สบายแล้วก็เสียชีวิตพอดี?
อิงฟ้า : เราก็จะรับรู้มาตลอดตั้งแต่เด็กว่าเขาสนับสนุนเราในเรื่องของการร้องเพลง ความฝันของเขาแน่นอนคืออยากเห็นเราเป็นศิลปินเต็มรูปแบบ ณ ตอนนั้นก็เหมือนมีเรื่องบังเอิญจริงๆ ที่มีค่ายเพลงติดต่อเรามาในช่วงที่คุณพ่อรักษาตัวอยู่เป็นระยะที่4 ประมาณเดือนที่3 ที่4 ละ โอเคเราก็ไป จุดประสงค์ของเราตอนนั้นอยากจะเอาความฝันของพ่อให้สำเร็จ เพราะเราคิดว่านี่แหละคือกำลังใจที่ดีที่สุด เผื่อเป็นปาฏิหาริย์ บอกพ่อต้องหายนะ เราจะได้ไปอยู่กรุงเทพด้วยกัน พอหลังจากที่เราเซ็นสัญญาเสร็จปุ๊บ กลับมาไม่นานคุณพ่อก็เสียชีวิต

เหมือนชีวิตกำลังมีแสงสว่าง แล้วเสาหลักก็จากไป ตอนนั้นชีวิตเป๋ไปจนาดไหน?
อิงฟ้า : เป๋มากค่ะ ร้องไห้แทบทุกวัน ทำใจไม่ได้เลย

ณ ตอนนี้เราสำเร็จแล้ว เคยพูดไหม พ่อหนูทำได้แล้ว?
อิงฟ้า : เคยค่ะ จริงๆ ก็คิดว่าเขาน่าจะรับรู้ได้ตลอดอยู่แล้ว

ถ้าคุณพ่อดูอยู่ ณ ตอนนี้อยากบอกอะไรคุณพ่อ?
อิงฟ้า : อยากบอกว่าไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว ตอนนี้สำเร็จทุกอย่างแล้ว ในเรื่องของคุณแม่ ครอบครัวตอนนี้ทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว

ช่วงนั้นลำบากมาก ห้องก็เล็ก เงินก็ไม่มี คุณแม่เริ่มป่วย เป็นหวัด เป็นเบาหวาน ยังไม่มีเงินพาคุณแม่ไปหาหมอเลย?
อิงฟ้า : ใช่ค่ะ มันมีช่วงหนึ่งที่เราออกมาทำงานด้วยตัวเอง คุณแม่จะป่วยเป็นเบาหวาน ความดัน หัวใจ หลายโรครุมเร้า เขาต้องไปตรวจเช็กร่างกายตลอดทุกเดือน จะมีช่วงนึงที่เขาขอค่ารถไป ซึ่งเราก็เงินไม่พอจะทำยังไงก็มีช่วงที่หนักหน่วงอยู่พอสมควร

เห็นว่าอิงฟ้ามีช่วงที่หมดกำลังใจ เห็นบอกว่าแย่มากๆ ถึงขั้นไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้?
อิงฟ้า : ใช่ค่ะ ก็คิดสั้นค่อนข้างที่จะบ่อยเหมือนกัน เหมือนกับว่าเรามองข้ามความเจ็บปวดยังไม่ได้ แค่กลัวว่าถ้าสมมติเราทำแล้วเราไม่ตายเนี่ย คนข้างหลังเราจะเดือดร้อน คิดแค่นั้น แต่ตอนช่วงที่เราคิดสั้น ณ โมเมนต์ตอนนั้น ไม่ดีนะคะไม่ควรทำ เหมือนเราคิดว่าชีวิตเราวนลูปอยู่แค่ตื่นมา ทำงาน แล้วก็นอน แล้วมันก็มีเรื่องทำให้กดดันแล้วเครียดทุกวันเราเลยรู้สึกว่าเร่อยากหยุดไว้แค่นี้แล้วกัน ไม่อยากมีลมหายใจต่อแล้ว

มันเป็นพรสวรรค์ของอิงฟ้าในเรื่องของการร้องเพลง แต่ตอนนั้นหมดแพชชั่นไปเลย?
อิงฟ้า : ใช่ค่ะ ตลอดเวลาที่เราร้องเพลงมา เราจะเห็นคุณพ่อคอยให้กำลังใจตลอด เพราะว่าหนูไม่เคยประกวดชนะเลยตั้งเด็ก เป็น 10 ปี เขาจะคอยให้กำลังใจ คอยหาข้อดีของเราตลอด เราก็เลยมีกำลังใจทุกครั้งที่เราจะขึ้นเวที แต่พอวันนึงที่เขาหายไปแพชชั่นในการร้องเพลงของเรามันก็ค่อยๆ ลดลงๆ จนคอนที่ทำงานออฟฟิศ คุณแม่ทักว่าจะหยุดความฝันของเราจาิงๆ เหรอ แน่ใจแล้วนะ เราก็เลยฉุดคิด ก็ประจวบเหมาะกับตอนนั้นมีประกวดร้องเพลงรายการหนึ่งระดับประเทศ

อิงฟ้าทำมาหลายอาชีพมาก?
อิงฟ้า : ถ้าตั้งแต่เด็กเลยก็เยอะมาก ถ้าเป็นแม่ค้าก็ขายมาทุกอย่างแล้ว พอเริ่มโตมา แคดดี้ก็เคย ตอนนั้น 13 ปีเอง เป็นนักร้อง หมอทำขวัญนาค นางแบบ พิธีกร และเป็นพนักงานออฟฟิศทั่วๆ ไป

จากนักร้องไปเป็นหมอทำขวัญนาคได้ยังไง?
อิงฟ้า : ตอนเด็กหนูถูกปลูกฝังกับคุณตา คุณยาย คุณแม่ชอบพาหนูไปดูลิเก เรารู้สึกว่าหมอทำขวัญนาคและลิเก เป็นสิ่งที่เราอยากจะเป็นตั้งแต่เด็ก พอเราอยากเป็นปุ๊บ โตมาเราเริ่มร้องเพลงเป็น ตอนเรียน ม.ปลาย ก็มีครูบอกว่าลองไปแข่งขับเสภาดูไหม เป็นตัวแทนของโรงเรียน เราก็ไปกับเขา พอหนูเรียนจบ ม.ปลาย ปุ๊บก็มีครูที่เขาทาบทามไปทำขวัญนาคดูไหม เราก็ไปฝึกกับเขา

พอไปทำขวัญนาค แม่ของนาคจีบหมอทำขวัญ?
อิงฟ้า : มีบ่อยค่ะ จะเป็นฟิวแบบขอไลน์ส่วนตัวเราไว้สำหรับถ้าลูกเขาสึกแล้ว เราก็บอกว่าแม่ติดต่อผ่านไลน์ที่ให้งานได้เลยเหมือนกัน

เรื่องความรัก เรายอมรับว่าอยู่ในกลุ่ม LGBTQ?
อิงฟ้า : จริงๆ ยอมรับมานานแล้วก่อนเข้าวงการนางงามอีก แต่ตอนนั้นมันไม่ได้เป็นกระแส เราไม่ได้ดัง คนก็เลยไม่รู้

เคยมีแฟนแบบว่าผู้หญิงหรือยังไง?
อิงฟ้า : มีค่ะ

เห็นว่าแฟนคนแรกก็เป็นผู้หญิงเลย?
อิงฟ้า : ไม่เชิงเป็นแฟนคนแรก แต่ ณ ตอนนั้นเป็นเหมือนช่วงที่ใกล้จะเรียนจบ ก็เป็นแฟนผู้หญิงที่เรารู้สึกว่าเราเปิดใจ

เจอผู้หญิงแบบไหนที่รู้สึกทำให้เราละลายได้?
อิงฟ้า : จะชอบคนมีเสน่ห์ แต่ถ้าเป็นสเปคจริงๆ จะชอบคนฟันสวยและตัวหอม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นางงามแฮปปี้ พัทยาต้อนรับยิ่งใหญ่สมฐานะ 'Miss Grand International 2024'

ตั้งแต่เดินทางมาเก็บตัวประเทศไทย ไม่มีวันไหนที่ไม่มีความสุข กินหรู อยู่สบาย สไตล์แกรนด์ ที่ บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เน้นย้ำให้นางงามผู้เข้าประกวด Miss Grand International 2024 ต้องสนุกและมีความสุขกับการเก็บตัวครั้งนี้มากที่สุด ทุกอย่างเต็มที่ แม้จะมีเวลาเตรียมงานน้อยแต่บอกเลย ผู้สนับสนุนเสกให้ไม่มีพร่อง

'อุ้ม ลักขณา' บอกใบ้? Road to... ชาวเน็ตถาม จะลงประกวดนางงามจริงไหม!?

สวยแบบพร้อมมงลง! กับดาราสาว “อุ้ม-ลักขณา วัธนวงส์ศิริ” ที่เพิ่งอัพโหลดรูปภาพในอินสตาแกรมส่วนตัวในลุคนางงามตัวแม่ เหมือนกำลังบอกใบ้ชาวเน็ตพร้อมแคปชั่นที่เปรยให้แฟนคลับและแฟนนางงามลุ้นกันแบบไม่ติดเก้าอี้ว่า Road to... ทางด้านชาวเน็ตแห่ตั้งคำถามว่านี่ใช่การประกาศ ว่าดาราสาวกำลังมีแพลนที่จะร่วมลงประกวดในเวทีนางงามหรือไม่!?

'อิงฟ้า' ร่วมสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเหล่าสัตว์ในพื้นที่น้ำท่วม

การเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของภาคเอกชนยังคงดำเนินต่อเนื่อง ด้านเหล่าคนดังก็ยังมีการช่วยบริจาคเงินเพื่อสมทบมูลนิธิหรือองค์กรที่เข้าไปสถานที่ประสบภัยอยู่ไม่ขาดสาย

หนังคนละม้วน! 'แม่ปุ้ย' ลั่น 'เพชร' ยังไม่คืนมงกุฎ หลังสั่งปลดฟ้าผ่าเซ่นคลิปฉาว

ประกาศปลดจากตำแหน่งกลางดึกเลยทีเดียวสำหรับเวที Universe is U ที่ล่าสุดมีคำสั่งปลด เพชร กมุทมาศ หรือ เพชร ปากปลาร้าหน้าเป๊ะ ออกจากตำแหน่งรองอันดับ 4 UIU 2024 จากการที่เจ้าตัวมีคลิปมีเพศสัมพันธ์โดยปิดไฟแม้จะไม่เห็นภาพแต่เสียงชัดมาก

'เจฟ-อิงฟ้า' เปิดฉากฟาดฟัน หวังขึ้นครองบัลลังก์ในวิมาน!

เตรียมพบกับความสนุกเข้มข้นรสชาติใหม่ เมื่อค่าย จีดีเอช ร่วมกับ ใจ สตูดิโอ จัดงาน กาล่าพรีเมียร์ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง วิมานหนาม กับการถ่ายทอดเรื่องราวของความไม่เท่าเทียมสู่การแย่งชิงเพื่อครอบครองวิมานในฝัน ซึ่งเป็นการประชันบทบาทครั้งสำคัญของนักแสดงสุดฮอต เจฟ ซาเตอร์ ที่งานนี้ขอมาเปิดศึกฟาดฟันกันแบบถึงพริกถึงขิงกับนักแสดงสาวเจ้าบทบาท อิงฟ้า วราหะ

'สีดา พัวพิมล' กลับมาเล่นหนังในรอบ 20 ปี

โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ สีดา พัวพิมล ล่าสุดคัมแบ็กสู่วงการหนังในรอบ 20 ปี กับหนังเรื่อง วิมานหนาม พร้อมประชันฝีมือทางการแสดงกับ อิงฟ้า วราหะ และ เจฟ ซาเตอร์ งานนี้ แม่สีดา เตรียมเผยความร้ายในบท แม่แสง ซึ่งเป็นการแสดงที่ท้าทายตัวเองขั้นสุด เพราะต้องเข้าฉากที่แสดงอารมณ์สุดดุเดือด รวมถึงต้องฝ่าอุปสรรค ทั้งเรื่องโลเคชันที่ยากลำบาก และฝนฟ้าอากาศที่ไม่ค่อยเป็นใจ แต่แม่สีดา ก็พร้อมเล่นทุกบท สู้ทุกหยดแบบสุดใจ