รายการ เป็นเรื่องใหญ่ ออนแอร์ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.05 น. ทางช่อง JKN 18 ดำเนินรายการโดย “อั๋น-ภูวนาท คุนผลิน” ได้สัมภาษณ์ “ครูชลธี ธารทอง” และ “ครูปุ้ม-ศศิวิมล ทองมา” หลังได้ย้อนชีวิตรักและจุดเริ่มต้นแตกหัก วันนี้ในวันที่ครูชลธีสำนึกได้แล้ว ภรรยาให้อภัยสามีได้อย่างไร
ก่อนที่จะครูชลจะสำนึก ก็ไปไกลถึงส่งหมายศาลมา วันที่เรารับหมายศาล ความรู้สึกของครูปุ้มเป็นยังไง?
ปุ้ม : “ก็วันนั้น 19 พ.ค. 62 8 โมงกว่า พี่สาวบอกว่าเฮ้ยดูข่าวช่อง workpoint เราก็ถามว่าทำไม เขาก็บอกว่าครูชลฟ้องหย่าเธอ เราก็ดูเลยให้พี่แม่บ้านไปซื้อหนังสือพิมพ์ เราก็อยากรู้ว่าเขาฟ้องหย่าเราเรื่องอะไร มูลเหตุอะไรที่มาฟ้องหย่าเรา”
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราก็พยายามใช้ชีวิตปกติ?
ปุ้ม : “ปกติ พี่ไม่เคยระราน เคยพยายามติดต่อ เตือนสติเขาก็ไม่หวนกลับ”
ณ วันนั้นกระบวนการทางศาลมันมีเดินหน้ามั้ยครับ หรือว่าเจรจาแล้วจบนอกศาลได้?
ปุ้ม : “ครั้งแรกครูฟ้องไกล่เกลี่ยเมื่อ 2 ก.ค. 2562 คุณครูยอมถอนฟ้อง พี่ปุ้มฟ้องผู้หญิงไป 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อ 30 ธ.ค. 63 ล่าสุดเพิ่ง 4 เม.ย พี่ฟ้องเรื่องครอบครัวแตกแยก พี่ชนะหมด แล้วศาลก็ให้เต็มเพดาน”
ก่อนที่จะไปถึงตรงนั้น ตอนนั้นใจเราคิดจะไปแน่นอนไม่มีความลังเลเลยเหรอ คิดว่าจะไปอยู่อีกบ้านนึงแน่ๆ?
ชลธี : “คิดว่าอย่างนั้น ไม่รู้เป็นอะไรด้วย ไม่รู้ผีอะไรมาเข้าสิง”
เราไปอยู่บ้านของเขา หรือเราไปซื้อบ้านใหม่ หรือว่ายังไง?
ชลธี : “ ซื้อใหม่”
แล้วพอไปอยู่ด้วยกันแล้ว 4 ปี พอไปอยู่ด้วยกันจริงๆ มันเหมือนหรือต่างกับที่เราคิดยังไงครับ?
ชลธี : “โอ้โห ป่านนี้คงไม่ได้มายืนพูดนั่งพูดอยู่อย่างนี้ เป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ เพราะว่าพฤติกรรมหลังๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวผมในชีวิตประจำวันไม่มีความสุขเลย มีแต่อะไรก็ไม่รู้ เข้ามาแทนที่จะพูดกันดีๆ หน้าหงิกหน้างอ จนกระทั่งคิดว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น เราเป็นใครแล้วเขาเป็นใคร เขาทะเลาะกับผมใช้สรรพนามเรียกผมว่าไอ้ชลธี ก็ว่าทำไมเรียกเราอย่างนั้น เราเป็นศิลปินแห่งชาตินะ ศิลปินแห่งชาติมีอะไรเหรอคนเหมือนกันแหละเขาบอก กำลังดูหมื่นพระบรมอยู่นะ ท่านพระราชทานตำแหน่งให้ เพราะฉะนั้นให้เกียรติกันหน่อย”
ทะเลาะกันถึงขั้นเป็นกิจวัตรเลยมั้ย ถึงขั้นความหวานหายไปเลย?
ชลธี : “ หายไปเลย”
ปุ้ม : “ยิ่งคืนก่อนกลับ ขออนุญาตนะ เห็นครูเล่าว่าทะเลาะกันตั้งแต่เย็น แล้วคืนวันที่ 14 ไม่ได้นอนทั้งคืนเลย วันที่ 15 เลยกลับมาหาครูปุ้ม”
ทำไมเขาถึงเลือกทะเลาะกับเรา ทั้งๆ ที่เราเป็นคนดูแลบ้านเงินทองทุกอย่างเลย ถ้าสมมติผมหลอกผู้ชายมาคนนึงที่ผมเชื่อว่าเขามีเงินแล้วเขาจ่ายผมทุกอย่างเลย ผมก็จะหลอกต่อไง ทำไมอยู่ดีๆ เขาถึงเปลี่ยนแนว?
ชลธี : “ประมาณนั้นหรือเปล่า ผมเดาอะไรไม่ถูกคาดเดาอะไรในตัวเขาไม่ถูกเลย ผู้หญิงคนนี้อ่านยากมาก ทั้งการกระทำ ทั้งวิธีปฏิบัติ ทั้งความคิด คิดไกลมาก แล้วอาฆาตมาดร้ายมาก”
จุดที่ทำให้เราได้สติกลับมาว่าไม่ใช่แล้ว ฉันคิดผิดแล้ว อะไรคือจุดเปลี่ยน?
ชลธี : “นี่แหละ เรื่องนี้แหละ เรื่องที่เขาใช้คำแย่ๆ กับผม การใช้คำที่ก้าวร้าว ไม่รู้ต่ำรู้สูง”
ณ ตอนนั้นเงินของเราหมดไปกับเรื่องอะไรบ้าง?
ชลธี : “โอ้โห หลายล้าน เรื่องค่าใช้จ่าย ไปจ่ายหนี้ให้เขา แล้วก็รถที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ผมก็เป็นคนโอนผ่อน บ้านที่เขาใช้ผมก็เป็นคนซื้อให้ ไม่ได้เป็นชื่อผมเลย เขาพูดว่าอะไรรู้มั้ย อย่าเอาเป็นชื่อคุณเลยเดี๋ยวเมียเก่าคุณก็มาทวงคุณอีก”
ตอนนั้นเราก็เห็นด้วย?
ชลธี : “ใช่ เหมือนคนโง่ แล้วก็โง่จริงๆ นั่นแหละ”
เอาจริงๆ ถ้าเป็นคนในบางยุค เขาจะบอกว่าเหมือนโดนเสน่ห์บังตา เหมือนโดนทำของใส่ มันดูหลงมากเลยนะ?
ปุ้ม : “หลงมาก ใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง”
ตอนนั้นครูปุ้มซึ่งเป็นภรรยาที่ถือสินสมรสอยู่ เราไม่มีสิทธิหรือส่วนในการเข้าถึงการเงินของสามี?
ชลธี : “เขาไม่รู้หรอก บัญชีผมเขาไม่รู้”
ปุ้ม : “อย่างที่แกรมมี่เขามีรายได้อยู่ โทรไปบอกเลยนะถ้าครูปุ้มโทรมาไม่ต้องบอกอะไรนะ คิดดูขนาดพี่เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายพี่ควรจะรู้ว่าเงินสามีพี่คืออะไร ทางโน้นเขาก็เกรงใจก็ไม่พูดอะไร เวลาพี่โทรไปเขาก็อึกอัก”
ณ ตอนนั้นครูชลถึงขนาดบอกว่าชีวิตเหมือนคนตายทั้งเป็น ถึงขนาดอยากฆ่าตัวตายเลย?
ชลธี : “คือหาทางออกไม่ได้ไง ตอนนั้นกำลังมืด ชีวิตมันมืดมาก”
เราเลิกแล้วเดินออกจากบ้านมาเลยมั้ยได้เหรอ เงินก็อยู่กับเรา ทำไมเราไม่ทำแบบนั้น?
ชลธี : “ผมไม่มีเงินแล้วตอนนั้น”
ตลอดทางครูปุ้มอยู่เฉยๆ เพื่อที่จะรออะไร รอเลิกมั้ย มีคิดมั้ยว่าเดี๋ยวก็หย่าให้มันจบๆไป?
ปุ้ม : “ไม่ ตอนนั้นมีหลายคนบอกว่าทำไมพี่ไม่หย่า ที่บอกว่าพี่ไม่หย่าเพราะพี่ต้องการรักษาชีวิตครู เพราะพี่รู้ว่าอะไรคืออะไร”
แปลว่าพี่รู้ว่าเขาจะกลับมามั้ย?
ปุ้ม : “คำว่าที่พี่รู้คือ พี่รู้ว่ายังไงคนๆ นี้ก็ไม่เอาครู พี่คิดว่าวันสุดท้ายพี่จะเป็นคนทำศพครู พี่คิดแค่นี้ ครูจะกลับไม่กลับไม่รู้แต่วันสุดท้ายครูจะอยู่ตรงไหนพี่จะดูแลศพครูแค่นั้นเอง ถ้าครูตายก่อนพี่”
ชลธี : “มันมีอะไรบางอย่างที่บอกผมอยู่ตลอดเวลาว่าเขายังรอผมอยู่ รอที่จะให้อภัย เขารับผิดชอบลูกเต้าบ้านช่อง”
ปุ้ม : “พี่ดูแลด้วยตัวเองหมดเลย แม้แต่ลูกเขาป่วยผ่าตัดเป็นแสนโทรไปเจอเลขาเลขายังไม่บอกเลย”
มันไม่มีความแค้นเลยเหรอ?
ปุ้ม : “อารมณ์นั้นมันมีบ้างค่ะ ทำไมทำกับเราขนาดนี้ พี่เชื่อในเรื่องของความดี ทำดีย่อมได้ดี แต่พี่ก็ไม่เชื่อหรอกว่าวันนี้จะเป็นวันที่ครูกลับมา พี่คิดว่าวันที่ครูกลับมาน่าจะเป็นศพมากกว่าพี่คิดถึงตรงนั้น”
สุดท้ายแล้วเริ่มต้นจากครูชลเป็นคนติดต่อกลับมามันเริ่มต้นยังไง?
ชลธี : “ผมโทรหา ผมเคยมาครั้งนึงแล้ว แล้วก็กลับไป”
ปุ้ม : “เคยมีครั้งนึงค่ะก็มีปัญหาแบบนี้เขาโทรมาหาพี่บอกว่าตอนนี้พ่ออยู่ที่พระแท่น แล้วเขาก็กลับไปอีก เพราะว่าพอถึงบ้านหลังนั้นผู้หญิงคนนั้นก็โทรกลับมาหาพี่ แล้วพอมาวันที่ 15 ที่ผ่านมา เบอร์พี่โดนบล็อกหมดเลยนะ เขาก็ฉลาด เขาโทรหาพ่อของอิสรพงษ์ ดอกยอ ที่เป็นเพื่อนสนิทกันบอกขอเบอร์ปุ้มหน่อย เป็นวันที่ครูกลับมาหาพี่”
จริงๆ แล้วเราเหมือนกึ่งๆ ถูกตัดจากโลกภายนอกเลยมั้ยตอนนั้น?
ชลธี : “ใช่ๆๆ ปิดหมดเลย โทรศัพท์โทรหาใครก็ไม่ได้ ช่วงนั้นที่ผมอยากตาย”
ปุ้ม : “สื่อมวลชนรู้ดีค่ะ ช่วงที่ครูมีปัญหาเยอะๆ โทรไปก็จะเป็นเลขารับโทรไปก็จะไม่ได้คุยกับครูเลย บางครั้งต้องสูญเสียงาน ครูหมดโอกาสตรงนั้น แม้แต่ลูกทั้งสองคนไม่สามารถติดต่อพ่อได้เลย”
ครูชลรู้มั้ยว่าเรากำลังถูกกีดกันออกจากโลกภายนอก เคยพยายามหนีออกจากบ้านมั้ย?
ชลธี : “รู้ครับ ผมเคยพยายามออกแล้ว เขาก็ตาม”
ปุ้ม : “อย่างครั้งล่าสุดก็ตาม โทรตาม”
สุดท้ายแล้วอะไรที่ทำให้ตามก็ตามฉันไม่กลับแล้ว?
ชลธี : “ทะเลาะกันครั้งสุดท้ายอย่างที่ผมเคยพูด สรรพนามที่ใช้กับผมต่ำมาก เปลี่ยนหน้าผม ไอ้หน้านั่นไอ้หน้านี่ มีอย่างที่ไหนคนอายุ 30 มาด่าคน 85 แบบนี้ ผมเคยถามว่านี่พ่อแม่ได้สั่งสอนบ้างหรือเปล่า เขาบอกอย่ามาพูดถึงพ่อแม่ฉันนะ พอพูดเสร็จผมก็บอกว่า เอาอย่างนี้ กูไปแล้ว ผมพูดคำว่ากูเลยนะ มันบอกเชิญเลย อยากไปไหนเชิญเลย มันโยนกุญแจรถให้ผม ผมก็โอเคไปแล้ว ผมไม่ได้เอาอะไรออกมาเลยครับ เงินก็ไม่มีติดตัว”
วันที่เขากลับบ้านมาครูปุ้มรู้สึกยังไงครับ?
ปุ้ม : “ก็เป็น 3 ความรู้สึกนะ ตกใจ ดีใจ เสียใจ ตกใจว่าทำไมครูกลับมา ดีใจคือเขากลับมาแล้ว เสียใจคือ เราไม่เหลืออะไรเลย แล้วสภาพครูก็เป็นแบบนี้ ที่เห็นอยู่ ครูที่ไปจากพี่ครูเดินครูวิ่งได้ มีทุกอย่างทั้งสุขภาพทั้งเงิน กลับมาไม่เหลืออะไรเลย เราก็มีคำตอบให้ตัวเองว่าทำไมเขาถึงยอมปล่อยผู้ชายคนนี้มาหาพี่”
ในใจเราตอนนั้นเราให้อภัยเลยทันทีมั้ย?
ปุ้ม : “ถ้าได้เห็นภาพครูที่พี่ลงวันนั้น ที่เขาเดินน้ำตาคลอมา พี่ลืมทุกเรื่องไปหมดเลยที่เขาทำกับพี่ พี่คิดว่าพี่ต้องดูแลเขา เพราะยังไงก็ไม่รู้จะเอาเขาไปไว้ไหน ก็เชื่อว่าไม่มีใครดูแลครูได้ดีเท่ากับพี่”
แล้วลูกๆ มีโกรธบ้างมั้ยครับตอนนั้น?
ปุ้ม : “ไม่มีเลยค่ะ ทั้งสองคนน่ารักมาก วันนั้นพี่พ่อมาถึง พี่ก็วิดีโอคอล เขาก็ดีใจมาก มาหาพ่ออยากกอดพ่อ แล้วเขาก็มา”
วันที่กลับมาครูชลได้มีอะไรที่พูดกับครุปุ้มกับลูกๆกับสิ่งที่เกิดขึ้นมั้ยครับ?
ชลธี : “นาทีแรกที่เจอเขาบอกกับเขาว่าพ่อกลับมาแล้วนะ กลับมาหาปุ้มแล้ว แล้วจะไม่กลับไปอีกแล้ว”
มีสักนิดมั้ยครับที่เรารู้สึกว่าเขาไม่อยากได้เราแล้ว?
ชลธี : “ผมเชื่อว่าเขาต้องให้อภัยผม เพราะเขาเป็นคนที่มีความอ่อนโยนในตัว เขาไม่เคยอาฆาตมาดร้าย ยิ่งกับผมเขาไม่เคยเลย ได้แต่ห่วง ผมรู้เขาห่วงผม แต่ผมก็ทำไม่ดีอยู่ดี มันบาปนะผมบอกกับตัวเองว่าบาปมาก”
เห็นว่าเรากลับมายกมรดกให้ลูกก่อนตาย มรดกที่ว่าคือลิขสิทธิ์เพลงมั้ยครับ หรือว่ามันคืออะไร?
ชลธี : “ลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมด 5 พันเพลงที่ผมแต่ง ให้ลูก 2 คน ส่วนบ้านให้เขา(ครูปุ้ม)”
ครูปุ้มมีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้เราก้าวข้ามปมในใจนี้ได้?
ปุ้ม : “พี่ตั้งมั่นว่า การให้อภัยคือทานบารมีที่ยิ่งใหญ่ และการไม่อาฆาตแค้น บวกกับพี่เป็นคนที่จิตฝึกธรรมะตลอด พี่ได้เรียนรู้ว่าการอาฆาตแค้นมันไม่ได้มีผลดีกับตัวเราเลย กับผู้ชายคนหนึ่งที่ 30 ปีเขาก็ดูแลเรา ถึงแม้เขาจะผิดพลาดไปบ้าง ถึงจะเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ทำไมจะอภัยไม่ได้ ช่วงชีวิตหนึ่งครูจะอยู่กับเราถึงกี่ปี 5 ปี 10 ปี เต็มที่ พี่ปุ้มเองจะขอดูแลครูค่ะ”
ครูชลอยากเตือนสติอะไรกับใครหลายๆ คนกับสิ่งที่ผิดพลาดไป เราเรียนรู้อะไรบ้างครับ?
ชลธี : “อยากจะบอกสังคมทั่วไปนะ ว่าสิ่งที่ผมทำเป็นตัวอย่างที่เลว อย่าไปเอาอย่างเลยนะครับ อย่าคิดทำเลย มีภรรยาคนเดียวก็พอแล้ว เลี้ยงเขาให้ดีๆ มีหลายคนมันไม่มีประโยชน์ปวดหัวอย่างนี้แหละ ขอให้ลูกผู้ชายทุกคนดูแลครอบครัวให้ดีครับ”
ปุ้ม : “ก็อยากจะบอกแฟนๆ ว่าพี่ปุ้มเองมีเหตุผล พี่ปุ้มเองคิดว่าคนหนึ่งคนเราจะทิ้งเขาไปได้อย่างไร ถ้ามองอนาคตแล้วเขาไม่มีใครเลี้ยง อยากบอกกับผู้หญิงทุกคนว่าเราตั้งมั่นในความดี หากเกิดปัญหาอย่างครูปุ้มกับครูชลให้ตั้งสติแล้วก็เอาความดีมาคุยกัน วันนึงสิ่งดีๆ จะกลับมา แล้วสำหรับลูกผู้ชายทุกคน ไม่มีใครรักเราเท่ากับภรรยาของเราที่อยู่ที่บ้านหรอก”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เลียม นีสัน’ สาบานว่าจะไม่ขอรักใครอีกแล้ว
เลียม นีสัน สาบานว่าจะไม่ขอรักใครอีกแล้ว หลังจากที่นาตาชา ริชาร์ดสัน ภรรยาของเขาเสียชีวิตในสถานการณ์ที่น่าเศร้าเ
'เจ๊อ้วน' ขอโทษยอมรับกรรม! บอกผ่านลูกกรง ห้ามญาติประกันตัว-ไม่อุทธรณ์
ความคืบหน้ากรณีตำรวจจับกุม นางวันเพ็ญ ธัญญาพงศ์พานิช อายุ 62 ปี หรือ “เจ๊อ้วน” จ้างวาน นายสมชัย รัตนะ อายุ 62 ปี กับพวกอุ้มฆ่า นายขนบ สมหวัง อายุ 65 ปี หรือ “โกหมาด”
'กวาง' เปิดใจจุดระเบิดเลิก 'น้ำหวาน' แทบไม่เคยอยู่ 2 คน แม่ฝ่ายหญิงอยู่ตลอด
“กวาง เอบี นอร์มอล” หรือ ศิริศิลป์ โชติวิจิตร เปิดใจครั้งแรก หลังสาเหตุเลิก “น้ำหวาน ซาซ่า” หรือ พิมรา เจริญภักดี พร้อมประกาศขายเรือนหอ 16 ล้าน เผยหมดเปลือกสาเหตุเกิดจากแม่ฝ่ายหญิงจริงหรือไม่ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ เป๊กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
อธิบดี สวธ.ร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ครูชลธี ธารทอง ศิลปินแห่งชาติ ที่วัดไร่ขิง
ชลธี ธารทอง ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะ การแสดง ประจำปี 2542 และได้รับฉายา "เทวดาเพลง" ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังหาใครเทียบได้ยาก
อาลัย'ครูชลธี' จัดพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดไร่ขิง
22 ก.ค.2566 - นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า นายสมนึก ทองมา (ชลธี ธารทอง) ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักแต่งเพลงลูกทุ่ง) พุทธศักราช 2542 ถึงแก่กรรมอย่างสงบ เมื่อวันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2566 เวลา 17.57 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช สิริรวมอายุ 85 ปี