บอร์ดกพฐ. มอบ สพฐ. ทำแผนเปิดโอกาส รร. เขตพื้นที่นวัตกรรม ที่มีความพร้อมทดลองใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะ

3ม.ค.65-นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวภายหลังการประชุม กพฐ.ว่า ที่ประชุมมีการหารือถึงการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน และร่างหลักสูตรฐานสมรรถนะ ซึ่งที่ประชุมมีความเห็น ว่า หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ได้ถูกนำมาใช้มาอย่างยาวนานแล้ว และควรมีการปรับปรุงหลักสูตรใหม่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ได้มีการยกร่างหลักสูตรฐานสมรรถนะเพื่อใช้แทนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมีการนำร่องการใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะไปแล้วในโรงเรียนเขตพื้นที่นวัตกรรม จำนวน 467 แห่ง และในจำนวนนี้มีโรงเรียนสมัครใจเข้าร่วมทดลองใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะ จำนวน 224 แห่ง ซึ่งในกลุ่มโรงเรียนเขตพื้นที่นวัตกรรมสามารถนำไปใช้ทดลองนำร่องได้เลยทันที เพราะโรงเรียนในเขตพื้นที่นวัตกรรมมีกฎหมายรองรับที่จะนำหลักสูตรดังกล่าวไปใช้ได้ทันที


ทั้งนี้ที่ประชุมมอบให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปจัดทำแผนการเปิดโอกาสให้โรงเรียนที่มีความพร้อมแต่อยู่นอกเขตพื้นที่นวัตกรรมสามารถนำหลักสูตรฐานสมรรถนะได้ และแผนมาเสนอที่ประชุม กพฐ.ในครั้งถัดไป ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้ตั้งข้อสังเกตุ ว่า หากจะนำหลักสูตรฐานสมรรถนะมาใช้ให้ทันในปีการศึกษา 2565 คงไม่ทัน เพราะอาจติดขัดข้อกฎหมายต่างๆ ที่จะนำมาใช้ไม่ทัน อีกทั้งหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ใช้อยู่ในปัจจุบันครูผู้สอนสามารถประยุกต์สอนตามหลักสูตรฐานสมรรถนะได้อยู่แล้ว

“นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือถึงการพัฒนาครูโดยใช้ศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (Human Captial Execellence Center) หรือ HCEC ซึ่งได้มีการจัดอบรมครูไปแล้วกว่า 1 แสนคน โดยเมื่อครูเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมไปแล้วอยากให้มีโอกาสฝึกทักษะ เพื่อนำไปสู่การจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Active Learning ในชั้นเรียน โดยที่ประชุมมอบให้ สพฐ. ไปปรับปรุงขยายผลให้ครูที่เข้ารับการอบรมไปใช้สอนในชั้นเรียน เพื่อไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ต่อไป”ประธาน กพฐ.กล่าว

เพิ่มเพื่อน