อว.จับมือ 3 องค์กรเศรษฐกิจ 'สภาอุตฯ-สภาหอฯ-สมาคมธนาคารไทย'ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค

31 ม.ค.64-นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) เป็นประธานในพิธีลงนาม “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนระดับภูมิภาค” ระหว่าง อว. และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาค นำงานด้าน อว. สนับสนุนภาคเอกชน เพิ่มขีดความสามารถยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่

โดยนายเอนก กล่าวว่า การจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนระดับภูมิภาคซึ่ง อว. และ กกร. จะร่วมกันจัดทำขึ้นนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญ และเป็นมิติใหม่ของการพัฒนา โดยในการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ระดับต่างๆ อว. มีหน่วยปฏิบัติการส่วนหน้าของ อว. หรือ “อว. ส่วนหน้า” ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นหน่วยประสานงานระหว่างจังหวัดกับสถาบันการศึกษา และหน่วยงานในสังกัด อว. ให้เกิดการพัฒนาและแก้ปัญหาในระดับพื้นที่ ด้วยการบูรณาการศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ที่ผ่านงานวิจัยและพัฒนาจนเกิดนวัตกรรมหลากหลายของสถาบันการศึกษามาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในระดับชุมชน/ท้องถิ่น ตำบล อำเภอ และจังหวัด

“เมื่อ 70 ปีที่แล้ว ประเทศไทยเริ่มพัฒนาชาติโดยมุ่งพัฒนาส่วนกลางเป็นหลัก ต่อไปนี้เราต้องเริ่มพัฒนาภูมิภาคและท้องถิ่น อว. จะต้องช่วยให้คนในท้องถิ่นรู้เรื่องท้องถิ่นของตนให้มากที่สุด โดยมีทุกภาคส่วนมาร่วมมือกัน โดยเฉพาะภาคเอกชน เพื่อทำให้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ทั้ง 17 แผน จะสำเร็จตามเป้าหมายภายใน 6 เดือน และให้เห็นภาพการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” รมว.อว.กล่าว

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแรงร่วมกันของ อว. และ กกร. ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระดับภูมิภาค ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล รวมไปจนถึงแผนพัฒนาประเทศต่างๆ อาทิ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 และฉบับที่ 13 ที่กำลังเริ่มใช้ในเร็วๆนี้ เป็นต้น รวมทั้งแผนในระดับภูมิภาค อาทิ แผนพัฒนาภาค/กลุ่มจังหวัด/จังหวัด เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการดำเนินการที่มีส่วนร่วมระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับภาคเอกชน เพื่อให้มีการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ด้านเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับพื้นที่ ภายใต้ “แผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนระดับภูมิภาค” ในระดับต่าง ๆ ทั้งระดับภาค ระดับกลุ่มจังหวัด และระดับจังหวัด

ด้านนพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. กล่าวว่า หลังจากการลงนามร่วมกันในครั้งนี้ ภายใน 6 เดือน จะได้แผนสำหรับภาคเอกชนนำไปใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ 17 แผน ประกอบด้วยแผนระดับภาค 5 แผน (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้) ระดับกลุ่มจังหวัด 6 แผน (กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ภาคเหนือตอนล่าง 1 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออก 2 และภาคใต้ฝั่งอันดามัน) และระดับจังหวัด 6 แผน (จังหวัดลำปาง ตาก อุดรธานี ลพบุรี จันทบุรี และกระบี่) และตั้งเป้าหมายจะมีแผนครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศภายในระยะเวลา 2 ปี โดย อว. จะสนับสนุนข้อมูล องค์ความรู้ งานวิจัยพัฒนา เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงบุคลากรที่มีศักยภาพ เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์ต่อยอดในภาคธุรกิจ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หอการค้าฯปลื้ม FTA ไทย-EU สำเร็จ เชื่อดึงบริษัทข้ามชาติย้ายฐานผลิต

หอการค้าฯมั่นใจ FTA ไทย-EU ดึงบริษัทข้ามชาติย้ายฐานผลิตมายังภูมิภาคที่มั่นคงสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจไทยคาดลงนามได้เดือน ม.ค.68

รัฐบาลตีปี๊บยอดส่งออกข้าวไทย 10 เดือน

'อนุกูล' เผย สถานการณ์ส่งออกข้าวไทยช่วง 10 เดือน ปี 2567 (ม.ค.-ต.ค.) ปริมาณ 8.35 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 20.32% มูลค่า 191,031 ล้านบาท คาดทั้งปีส่งออกสูงถึง 9 ล้านตัน มูลค่า 230,000 ล้านบาท