'จ.ส.อ.รอด อาสนพรรณ' ทหารผ่านศึกเกาหลีคนแรกที่ได้บรรจุอัฐิในสุสานอนุสรณ์สถานแห่งสหประชาชาติในเกาหลี

สำนักงานบริหารสุสานอนุสรณ์สหประชาชาติในเกาหลี กำหนดจัดพิธีบรรจุอัฐิทหารผ่านศึกเกาหลีชาวไทย ในวันที่ 11 พฤศจิกายน เวลา 12.00 น. หลังจากพิธีรำลึกถึงทหารผ่านศึกสงครามเกาหลี Turn Toward Busan เสร็จสิ้น ทหารผ่านศึกชาวไทยที่ได้รับการบรรจุอัฐิที่สุสานในครั้งนี้คือ จ.ส.อ. รอด อาสนพรรณ ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2465 และจากไปอย่างสงบในวัย 100 ปีเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2566 โดยท่านจากไปก่อนวันเกิดครบรอบ 101 ปีเพียง 2 เดือนเท่านั้น

โดยในพิธีมีผู้เข้าร่วมประมาณ 100 คน ประกอบด้วยบุตรสาวของ จ.ส.อ. รอด (นางสมทรง เจริญพงศ์อนันต์) และหลานสาว (นางสาวจิรัชญา เจริญพงศ์อนันต์) นางคังจองเอ รัฐมนตรีกระทรวงรักชาติและกิจการทหารผ่านศึก เกาหลีใต้ นายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐเกาหลี รวมถึงทหารผ่านศึกและครอบครัวที่เดินทางมาเข้าร่วมโครงการเยือนเกาหลี และนักศึกษาจากคณะอาสาสมัครสันติภาพสหประชาชาติ

จ.ส.อ. รอด เป็นทหารผ่านศึกชาวไทย สังกัดกองพัน “พยัคฆ์น้อย” ซึ่งเป็นชื่อของทหารไทยที่เข้าร่วมสงครามเกาหลีที่ขึ้นชื่อในเรื่องความกล้าหาญและความว่องไว

จ.ส.อ. รอด อาสาเข้าร่วมรบในสงครามเกาหลีระหว่างวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2495 ถึง 28 ตุลาคม พ.ศ. 2496 เพื่อปกป้องอิสรภาพและสันติภาพของเกาหลีใต้ และได้รับเหรียญชัยสมรภูมิจากรัฐบาลไทยถือเป็นเกียรติแก่ทหารที่ปฏิบัติราชการสงคราม

ท่านเคยเดินทางไปเกาหลีเมื่อปีที่ผ่านมาในโครงการเยี่ยมเยียนเกาหลีของทหารผ่านศึกเกาหลี (Revisit Program) และได้แสดงความปรารถนาที่จะบรรจุอัฐิของตนในสุสานอนุสรณ์สถานแห่งสหประชาชาติแห่งนี้ หลังจากได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการจัดการนานาชาติเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ครอบครัวของ จ.ส.อ. รอด มีความรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในโอกาสนี้

ครอบครัวกล่าวถึงความมีระเบียบและความตรงไปตรงมาของ จ.ส.อ. รอด  ว่าท่านให้ความสำคัญกับระเบียบวินัย ความซื่อสัตย์ และความยุติธรรมเป็นอย่างมาก

ท่านอาศัยอยู่บ้านที่ใกล้กับค่ายทหารสุรนารี และมักจะตื่นแต่เช้าตามเสียงแตรในค่าย จากนั้นท่านจะเริ่มวันด้วยการจัดเตียง สวดมนต์ และรับประทานอาหารเช้า หลังจากนั้นท่านจะดูแลต้นกล้วยในสวนของท่านอย่างใส่ใจ และมักจะแบ่งกล้วยให้กับผู้อื่นในชุมชน

ด้วยเหตุผลที่ท่านเติบโตมาในวัดโดยปราศจากพ่อแม่ ทำให้ท่านมีจิตใจเมตตา ชอบช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการบริจาคเงินให้กับโรงเรียน และช่วยจ่ายค่าข้าวกลางวันให้กับเด็กนักเรียนยากไร้ใกล้บ้าน ท่านให้ความสำคัญกับการแบ่งปันความสุขให้กับครอบครัวและผู้อื่นรอบตัวเสมอ

ครอบครัวระลึกถึงความทรงจำที่มีร่วมกันกับท่าน  โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ครอบครัวมารับประทานอาหารร่วมกันและการฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปีของท่าน เมื่อท่านไปทานอาหารกับครอบครัว ท่านมักจะสั่งเป๊ปซี่และยกนิ้วโป้งให้หลังจากดื่มเสร็จ พร้อมพูดกับครอบครัวว่า “ฉันยังแข็งแรงดี!”

ในการฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปี ครอบครัวได้จัดงานวันเกิดที่อบอุ่นและมีความหมายให้กับท่าน โดยได้ใส่บาตรในตอนเช้า และอยู่ร่วมกันพร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข

จ.ส.อ. รอด เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงสงครามเกาหลี ให้ครอบครัวฟังเสมอ

เขาเล่าถึงการเดินทางทางเรือที่ลำบากและยาวนาน อากาศที่หนาวเย็น และความลำบากในการใช้ชีวิตในสนามรบ ความโหดร้ายของสงครามที่ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำของท่าน เสียงปืนและระเบิดที่เขาได้ยินเป็นประจำ รวมถึงเพื่อนร่วมรบที่สูญเสียไป

เมื่อเวลาผ่านไปครอบครัวจึงตระหนักได้ว่าการเสียสละที่ท่านและเพื่อนทหารได้ทำยิ่งใหญ่เพียงใด รวมไปถึงรู้สึกภาคภูมิใจในวีรกรรมของท่าน

นายซอ จองอิน ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารฯ กล่าวว่า “ในฐานะอดีตเอกอัครราชทูตอาเซียน ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติที่ทางเราจะได้บรรจุอัฐิทหารผ่านศึกเกาหลีชาวไทยท่านนี้ และสำนักงานบริหารฯ จะให้การดูแลท่านอย่างดีที่สุดเพื่อให้ครอบครัวมั่นใจว่าท่านได้รับการดูแลอย่างสมเกียรติ”

ด้วยการบรรจุอัฐิของ จ.ส.อ. รอด อาสนพรรณ ทำให้สุสานอนุสรณ์สถานแห่งสหประชาชาติแห่งนี้มีทหารผ่านศึกทั้งหมด 2,330 นายจาก 14 ประเทศ

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ที่มีการบรรจุศพทหารผ่านศึกชาวฝรั่งเศส เรย์มงด์ เบอนาร์ด จนถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้ มีทหารผ่านศึกทั้งหมด 27 นายที่ถูกบรรจุในสุสานทหารผ่านศึกในเกาหลี และ จ.ส.อ. รอด อาสนพรรณ เป็นทหารผ่านศึกคนที่ 28.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เวลาผ่านไปนานแล้ว 'อดีตสหายใหญ่' คุมกลาโหมไม่ใช่ปัญหา แต่ต้องไม่ทำสิ่งนี้

อดีตคอมมี่นั่งกระทรวงกลาโหมไม่ใช่ปัญหา เพราะเวลาเขาคงจะปรับเปลี่ยนจุดยืนเกี่ยวกับลัทธิคอมมี่ไปแล้ว