20 ม.ค.65- จากกรณีคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5เตรียมเสนอความ คืบหน้าในการปลดล็อกกัญชา-กัญชงออกจากรายชื่อยาเสพติดให้โทษต่อคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ที่มีนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)เป็นประธานฯซึ่งเลื่อนการพิจารณาจากวันที่ 19 ม.ค. 2565 มาเป็นบ่ายวันนี้ (20 ม.ค.2565) นั้น
นพ.บัณฑิต ศรไพศาล นักวิจัยในโครงการวิจัยสังเคราะห์และทบทวนเพื่อพัฒนามาตรการ นำสารสกัดกัญชาใช้ทางการแพทย์สำหรับประเทศไทยมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) กล่าวว่า การตัดกัญชาออกจาก รายชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผล 5 ประการ คือ 1.การอ้างเหตุผลว่าไม่มีคำว่ากัญชาในประมวลกฎหมายยาเสพติด กัญชาจึงไม่ใช่ยาเสพติด แล้วจะให้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดตัดชื่อกัญชาออกจากรายชื่อยาเสพติดให้โทษ เป็นการตรรกะที่ไม่ถูกต้อง การที่ตัวประมวลกฎหมายยาเสพติดระบุตัวอย่างสารเสพติดในประเภทนั้นๆได้เพียงบางชนิด เพราะจำนวน สารเสพติดมีมากมาย เช่นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 มีถึง 75 ชนิด แต่ประมวลกฎหมายยาเสพติดได้ระบุเพียง เฮโรอิน เพียงตัวอย่างเดียวในตัวกฎหมาย
“หากใช้ตรรกะเดียวกันว่า อ้างว่าไม่ได้ระบุคำว่ากัญชาในประมวลกฎหมายยาเสพติด แสดงว่ากัญชาไม่เป็นยาเสพติดจะหมายถึงว่าขณะนี้ ยาบ้า (Methamphetamine) หรือ เฟนทานิล(Fentanyl) ซึ่งไม่ได้ระบุในประมวลกฎหมายยาเสพติดเช่นกันก็ไม่ใช่ยาเสพติดในประเทศไทยแล้วกระนั้นหรือ”นพ.บัณฑิตกล่าว
นักวิจัย กล่าวต่อว่า 2.กัญชายังเป็นยาเสพติดและเป็นประตูสู่การเสพติดอื่นที่ร้ายแรงกว่ากัญชาก่อให้เกิดการเสพติดและ การเจ็บป่วยจากการเสพติดที่ชัดเจน แม้จะมีสารบางส่วนของกัญชา ที่มีประโยชน์ทางการแพทย์ การสนับสนุนให้ใช้ประโยชน์จากกัญชาในทางการแพทย์ โดยยังกำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดเป็นทางออกสายกลาง ที่ดีที่สุดในระหว่างสองทางเลือกสุดโต่ง คือ การกำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดโดยไม่ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เลยหรือการกำหนดให้กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดเลย
3.กระทรวงสาธารณสุขต้องการกำหนดให้กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดหรือ ช่อดอกกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด แต่กำหนดให้สารสกัดกัญชาเท่านั้นที่เป็นยาเสพติด โดยยกเว้นสารสกัดกัญชาที่มี THC น้อยกว่าร้อยละ 0.2โดยน้ำหนักเท่านั้นที่ไม่เป็นยาเสพติด เป็นตรรกะที่ผิดและการควบคุมกระทำได้ยากในทางปฏิบัติ เช่น หากเยาวชนนำช่อดอกซึ่งระบุว่าไม่ใช่ยาเสพติดไปสูบจะถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะช่อดอกกัญชาไม่ใช่ ยาเสพติดหากกระทรวงสาธารณสุขต้องการให้สารสกัดกัญชาที่มี THCน้อยกว่าร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก ไม่เป็นยาเสพติดเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ได้นั้นยังคงสามารถกำหนดให้กัญชาเป็นสาร เสพติดได้แต่ยกเว้นสารสกัดกัญชาที่มี THC น้อยกว่าร้อยละ 0.2โดยน้ำหนักไม่เป็นยาเสพติดได้ ทำเพียงแค่นี้ประชาชนก็จะเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ได้มากแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องปลดกัญชาออกจากการเป็นสารเสพติด
4.การกำหนดให้สารสกัดกัญชาที่มี THC มากกว่าร้อยละ 0.2โดยน้ำหนักเป็นยาเสพติด จะมีความ ยากมากในทางปฏิบัติที่จะควบคุมเพราะเป็นการยากที่จะตรวจสอบว่า ยาหรืออาหารหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาดหรือตามบ้าน จะมีระดับ THC ไม่เกินปริมาณดังกล่าวหากเยาวชนนำช่อดอกไปต้มดื่มใครจะ ทราบว่ามีปริมาณ THCเกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนักหรือไม่หากร้านอาหารผสมช่อดอกในอาหารให้ รับประทานใครจะไปตามตรวจสอบอาหารทุกจานว่ามีปริมาณเกินร้อยละ 0.2โดยน้ำหนักหรือไม่
5.กัญชาก่อให้เกิดผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมองของเยาวชนและก่อให้เกิดผลกระทบต่อ ครอบครัวและสังคมวงกว้างดังที่เห็นเป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ เช่น “หลอน!!ลูกพี้กัญชาจนผวาเกรงคน มาฆ่าแทงพ่อแม่เจ็บ” “สลด! พ่อบังคับลูกวัย 13ให้คนข่มขืนแลกกัญชา” “พ่อทาสกัญชาประสาทหลอน ฆ่าลูก ในไส้ 1ขวบ” เป็นต้น หากในอนาคตประชาชนและเด็กและเยาวชนเสพใช้กัญชาโดยเข้าใจว่ากัญชาไม่ใช่ ยาเสพติดสังคมไทยจะหายนะขนาดไหน
“ทางออกสำหรับสถานการณ์ปัจจุบันจากเหตุผล 5 ประการในข้างต้นที่ประจักษ์ชัดว่า ต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบครอบทั้งผลประโยชน์ด้านบวกที่ต้องการ เช่น ประโยชน์ทางการแพทย์ทางเศรษฐกิจ และความนิยมทางการเมืองและผลกระทบด้านลบที่จะตามมา เช่นการเสพติดและผลกระทบต่อเยาวชน ครอบครัวและสังคมตลอดจนต้องมองในมิติของการควบคุมในทางปฏิบัติด้วย เช่น จะควบคุมการใช้ผิดวัตถุประสงค์ได้อย่างไร จึงควรชลอการกำหนดว่าจะตัดคำว่ากัญชาออกจากรายชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท5 ไว้ก่อน โดยจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านจากกระทรวงมหาดไทยกระทรวงยุติธรรม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดฝ่ายการแพทย์และจิตแพทย์ ฝ่ายครอบครัวของเด็กและ เยาวชนฝ่ายการศึกษา ฝ่ายศาสนา ฝ่ายตำรวจและกระบวนการยุติธรรมต่าง ๆและอื่น ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจในนโยบายซึ่งจะชี้อนาคตระยะยาวของประเทศไทยไม่มีเหตุผลใดที่ทำให้ต้องเร่งรัดกระบวนการตัดสินใจนี้” นพ.บัณฑิต กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีมติจากที่ประชุมในวันนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขจะเสนอ (ร่าง) ประกาศดังกล่าวต่อคณะกรรมการ ป.ป.ส. ที่มี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 29 วรรค 2แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติดต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุ่มสมุทรปราการโร่แจ้งความ มือมืดปาถุงเลือดใส่หน้าบ้าน
นายปริญญา ไกรกิจธนโรจน์ อายุ 24 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่า เมื่อเวลา 00.20 น. ได้มีผู้ก่อเหตุมาขว้างปาถุงเลือดสด
จับตา 'ภท.' รุกคืบ! สัญญาณแข็งข้อกับ 'พท.' ชัดขึ้นเรื่อยๆ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ภูมิใจไทยงดออกเสียง พ.ร.บ.ประชามติ สัญญาณการแข็งข้อกับเพื่อไทย
เลขาฯปปส. เผยร่างกฎกระทรวง เพิ่มความเข้มข้นสกัดกั้นลักลอบขนกัญชาไปต่างประเทศ
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามกยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้เปิดเผยถึงมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตผลิต
'อนุทิน' ยันรัฐบาลแพทองธาร เดินหน้า พ.ร.บ.กัญชา ภท. หนุน 'กาสิโน'
'อนุทิน' ยันรัฐบาลแพทองธาร 1 สานต่อนโยบายกัญชา เดินหน้า พ.ร.บ.ควบคุมใช้เฉพาะทางการแพทย์ หนุน 'เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์' สร้างรายได้ให้คนไทย
นายกฯ ยันนโยบายส่วนใหญ่สานต่อยุคเศรษฐา!
นายกฯ เผยได้ข้อสรุปนโยบายส่วนของเพื่อไทยวันนี้ ขณะพรรคร่วมฯทยอยส่งนโยบายรัฐบาลแล้ว เชื่อปมกัญชาไม่เป็นปัญหาคุยกันได้ ส่วน 'เพื่อไทย' ยังเหมือนเดิม แต่ปรับรายละเอียดดิจิทัลวอลเล็ตเล็กน้อย
ปิดดีล! 'กัญชา' จบแล้ว 'อนุทิน' เผย 'เศรษฐา' บัญชาออกพ.ร.บ.ควบคุม
ที่ทำเนียบ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังประชุมครม. ก