นายศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัด อว. กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน การแบ่งกลุ่มมหาวิทยาลัยเป็นไปตามมาตรา 23 และ 24 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การอุดมศึกษา พ.ศ.2562 เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริม สนับสนุน ประเมินคุณภาพและจัดสรรงบประมาณให้แก่สถาบันอุดมศึกษา โดยการแบ่งกลุ่มตามประกาศดังกล่าวไม่กระทบต่อมาตรฐานการศึกษาของมหาวิทยาลัย เพราะทุกมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของอุดมศึกษา ซึ่งมีทั้งมาตรฐานหลักสูตร มาตรฐานการดำรงตำแหน่งทางวิชาการ และยังมีระบบประกันคุณภาพการศึกษาที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน และจะเป็นการเสริมให้มหาวิทยาลัยยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้นในด้านที่ถนัดอีกด้วย นอกจากนี้การดำเนินการดังกล่าวยังเป็นการส่งเสริมพัฒนากำลังคนขั้นสูง และความเป็นเลิศในด้านต่างๆ ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยมีจุดแข็ง บริบทและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน การแบ่งกลุ่มจะนำไปสู่การพัฒนากำลังคนและความเป็นเลิศที่มีความหลากหลาย เช่น กลุ่มพัฒนาการวิจัยระดับแนวหน้าของโลก จะมุ่งพัฒนากำลังคนด้านงานวิจัยชั้นแนวหน้าและความเป็นเลิศในองค์ความรู้และวิทยาการใหม่ๆ หรือกลุ่มพัฒนาชุมชนท้องถิ่นหรือชุมชนอื่น จะมุ่งที่สร้างคนเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาพื้นที่ เป็นต้น ในลักษณะแบ่งกันทำงานในด้านที่ตนถนัด ไม่มาแข่งกันเองในทุกๆ ด้านอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า การแบ่งกลุ่มจะไม่กระทบต่องบประมาณประจำที่มหาวิทยาลัยได้รับ เพราะใน พ.ร.บ.การอุดมศึกษาฯ ระบุว่าให้มีงบประมาณอยู่ 3 ส่วน คือ 1.งบบุคลากร 2.งบดำเนินการและงบรายจ่ายอื่นๆ ซึ่งเป็นงบประจำ ทั้งสองส่วนนี้มหาวิทยาลัยก็ยังได้รับตามภารกิจของมหาวิทยาลัยตามปกติ ส่วนการแบ่งกลุ่มจะมาเกี่ยวข้องกับงบส่วนที่ 3 ซึ่งเป็นงบที่จัดทำเพิ่มเติมเพื่อการพัฒนาความเป็นเลิศของสถาบันอุดมศึกษาและผลิตกำลังคนของประเทศ ซึ่งงบส่วนนี้จะจัดสรรไปตามกลุ่มมหาวิทยาลัยตามภารกิจของแต่ละกลุ่มและแผนการดำเนินการเพื่อพัฒนากำลังคนและความเป็นเลิศของแต่ละแห่ง และตอบโจทย์ของประเทศ อีกทั้งการแบ่งกลุ่มมหาวิทยาลัยตามที่ประกาศไปเป็นไปตามความเห็นชอบของสภามหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง ทางสำนักงานปลัด อว. ไม่ได้เป็นผู้กำหนดโดยตรง การเสนอเข้ากลุ่มของแต่ละมหาวิทยาลัยนั้น ทางมหาวิทยาลัยจะทำการวิเคราะห์ตนเองว่ามีศักยภาพและประสิทธิภาพที่สอดรับกับกลุ่มใด
นอกจากนี้ การเลือกเข้ากลุ่มเป็นความสมัครใจของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยจะไม่เลือกสังกัดกลุ่มใดก็ได้ ส่วนกลุ่มพัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนาที่ยังไม่มีมหาวิทยาลัยใดอยู่ในกลุ่มนี้นั้น เนื่องจากยังไม่มีสถาบันอุดมศึกษาใดแสดงความประสงค์ที่จะเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ ซึ่งสำนักปลัด อว. จะดำเนินการหารือร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ต่อไป
“การแบ่งกลุ่มไม่ใช่เป็นการแบ่งเกรดมหาวิทยาลัย ถ้าเปรียบกับนักกีฬา ไม่ใช่เป็นการแบ่งลีกฟุตบอลให้แข่งตามดิวิชั่น แต่เป็นการแบ่งตามประเภทกีฬาที่แต่ละคนแต่ละทีมถนัด เช่น ใครเก่งฟุตบอลก็ไปเล่นฟุตบอล ใครเก่งว่ายน้ำก็ไปว่ายน้ำ หากเก่งฟุตบอลแล้วไปแข่งว่ายน้ำก็ไม่มีโอกาสได้แชมป์เพราะไม่ถนัด”รองปลัด อว. กล่าว