'เท่อย่างไทย' สู่' Thailand Soft Power' ในความคิดเยาวชนรุ่นใหม่

การประกวดโครงการ “เท่อย่างไทย โดย ไฟ-ฟ้า ทีทีบี” ประจำปี 2565  ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 50 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลทุนการศึกษา ได้มีการประกาศผลการตัดสินรอบชิงชนะเลิศเรียบร้อยแล้ว โดยวัตถุประสงค์หลักของโครงการ คือ การจุดประกายเยาวชนให้ตระหนักรู้ถึงคุณค่าในเอกลักษณ์ไทย ไม่ว่าจะเป็นการพูด และมารยาทอันดีงามของไทย  รูปแบบการประกวดในปีนี้จะเป็นแบบไฮบริด คือ มีการประกวดในรูปแบบออนไลน์ในรอบคัดเลือก และรูปแบบออนไซต์ในรอบชิงชนะเลิศ  โดยในปีนี้มีโรงเรียนทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการมากถึง 1,276 โรงเรียน และเยาวชนกว่า 8,933 คน ซึ่งเพิ่มมากขึ้นกว่าปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19  ที่มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการ 2,146 คน

นางสาวมาริสา จงคงคาวุฒิ หัวหน้ากิจกรรมสังคมเพื่อความยั่งยืน ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี กล่าวว่า ทีเอ็มบีธนชาต มุ่งมั่นสานต่อกิจกรรมสังคมเพื่อความยั่งยืน ผ่านโครงการไฟ-ฟ้า (fai-fah) ซึ่งหวังจุดประกายเยาวชนและชุมชนเสริมสร้างสิ่งดี ๆ คืนสู่สังคมไทย สร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย ตอกย้ำปรัชญา Make REAL Change โดยได้จัดการประกวดโครงการ “เท่อย่างไทย โดย ไฟ-ฟ้า ทีทีบี” ครั้งที่ 50 ประจำปี 2565 เพื่อเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนแสดงความสามารถของตัวเองได้อย่างเต็มที่ มุ่งส่งเสริมให้เยาวชนร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ชาติ พร้อมส่งต่อสำนึกรักความเป็นไทยสู่สังคมอย่างยั่งยืน ตลอดจนได้รับการยอมรับในระดับสากล หรือเป็นการผลักดัน Soft Power ของไทยสู่เวทีโลก

มาริสา จงคงคาวุฒิ

“ปีนี้ได้มีการจัดการประกวดในรูปแบบไฮบริด คือ การประกวดในรูปแบบออนไลน์ในรอบคัดเลือก เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียน และ เยาวชนทุกภาค ทุกพื้นที่ทั่วประเทศสามารถเข้าถึงการประกวดได้อย่างเท่าเทียม และประกวดรูปแบบออนไซต์ในรอบชิงชนะเลิศ  ยังคงแบ่งการประกวดออกเป็น 3 ประเภท คือ ประกวดมารยาทไทย ประกวดอ่านฟังเสียง และประกวดวาดภาพดิจิทัล  การประกวดทั้ง 3ประเภทนี้ ทำให้เรามีโอกาสได้เห็นถึงมุมมองของเด็กไทยยุคใหม่ที่เติบโตท่ามกลางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ว่าเขาเห็นคุณค่าของ ‘ความเป็นไทย’ ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร  กิจกรรมนี้ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดัน Soft Power ศิลปวัฒนธรรมไทย” นางสาวมาริสากล่าว

การเดิน ยืน นั่ง และไหว้  เป็นวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของไทย ที่กำลังจะถูกแทนที่ด้วยภาพลักษณ์แบบสากล แต่สำหรับน้อง ๆ ทีมชนะเลิศระดับมัธยมต้น ตัวแทนชมรมมารยาทไทย โรงเรียนจตุรมิตรวิทยา จังหวัดขอนแก่น เชื่อว่า มารยาทไทยเป็นเอกลักษณ์ที่เด็กรุ่นใหม่ต้องช่วยกันรักษา “สำหรับพวกเรามารยาทไทยสำคัญมาก ๆ เพราะสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ เวลาที่เราวางตัวดี ดูอ่อนน้อม เวลาเข้าหาผู้ใหญ่ก็จะเอ็นดู ต้องฝึกฝนมาก ๆ”

ชนะเลิศประกวดมารยาทไทย ม.ต้น

เช่นเดียวกับทีมชนะเลิศการประกวดมารยาทไทย ระดับมัธยมปลาย โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี ที่มีทั้งคนที่เคยประกวดมาแล้วหลายปีและน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าประกวดเป็นปีแรก แต่ก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือ แสดงพลังเท่ ๆ ของคนรุ่นใหม่ผ่านมารยาทไทย
“มารยาทไทยเป็นอะไรที่เท่มากสำหรับพวกเรา โดยเฉพาะการไหว้มีแค่ประเทศไทยประเทศเดียวที่มีวัฒนธรรมแบบนี้ ขนาดต่างชาติยังชื่นชม เลยอยากให้คนรุ่นเราช่วยกันรักษาวัฒนธรรมนี้เอาไว้ และคนที่มีมารยาทดี รู้จักการไหว้ที่ถูกต้อง ยังปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทำให้บุคลิกภาพดี ดูสง่า เป็นที่จดจำ อนาคตไปสมัครงานหรือไปเวทีระดับโลกจะต้องเป็นที่จดจำแน่นอน”ตัวแทนชนะเลิศประระดับม.ปลายกล่าว

ชนะเลิศประหวดมารยาทไทย ม.ปลาย

อีกหนึ่งเอกลักษณ์ไทย  “การอ่านฟังเสียง” เด็กชายภูริวัชญ์ สมานรัตนเสถียร โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ รางวัลชนะเลิศประกวดอ่านฟังเสียงระดับ ระดับมัธยมต้น มองว่า การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องเป็นเรื่องที่ดี เพราะการใช้คำในปัจจุบัน บางอย่างมีความกำกวม ถ้าเราใช้คำพูดได้อย่างถูกต้อง พูดชัดถ้อยชัดคำ จะทำให้การสื่อสารเข้าใจง่ายและไม่คลาดเคลื่อนครับ


“ผมคิดว่าในฐานะที่ผมเป็นเยาวชน ก็ทำสิ่งนี้ต่อไปเรื่อย ๆ และทำให้ดีที่สุด อย่างการฝึกอ่านออกเสียงและเรียนรู้วิธีการพูดให้ถูกต้อง คนทั่วไปอาจจะคิดว่ามันน่าเบื่อ แต่สำหรับผมคิดว่ามันน่าสนุก ได้ท้าทายตัวเอง แล้วก็ชวนเพื่อน ๆ ให้มาลองทำด้วยกัน ก็จะช่วยให้วัฒนธรรมคงอยู่ต่อไปได้ครับ”เด็กชายภูมิวัชญ์กล่าว

เด็กหญิงนุชวรา วัฒนศิริ โรงเรียนศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี รางวัลชนะเลิศประกวดอ่านฟังเสียงระดับมัธยมต้น เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของเด็กรุ่นใหม่ที่คิดว่า แสดงความคิดเห็นว่า การอ่านภาษาไทยให้ชัดถ้อยชัดในความเห็นส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องที่เท่มาก ปกติเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ชอบเขียนไดอารี่ เลยเข้าใจว่าการใช้ภาษาให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของไทย ทุก ๆ ภาษามีคุณค่าในตัวเองอยู่แล้ว เวลาเห็นคนพูดชัด อ่านถูกต้อง เขียนถูกต้อง ทำให้ภาษามีคุณค่ามากยิ่งขึ้น

นางสาวพรรธน์ชนัน ทิพชัยวรภัทร์ โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล จังหวัดอุดรธานี รางวัลชนะเลิศประกวดอ่านฟังเสียง ระดับมัธยมปลาย ที่เคยผ่านการประกวดมาแล้วหลายครั้ง มาประสบความสำเร็จในปีนี้ บอกว่า กว่าจะคว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศใช้เวลากว่า 4 ปี ฝึกฝน ลงแข่ง และฝึกฝนซ้ำ ๆ จนในที่สุดก็ทำสำเร็จ ทุกครั้งที่ฝึกอ่าน ก็พบเทคนิคใหม่ ๆ อยู่เสมอ ยิ่งทำให้เราเห็นเสน่ห์ของภาษาไทย แค่เปลี่ยนจังหวะหรือเว้นวรรค อารมณ์ความรู้สึกก็เปลี่ยน

ชนะเลิศอ่านฟังเสียงม.ปลาย


“อยากให้เพื่อน ๆ ที่คิดว่าตัวเองมีความสามารถด้านนี้ หรืออยากลองท้าทายตัวเอง มาสมัครแข่งขันกันเยอะ ๆ รับรองว่าจะตกหลุมรัก”  นางสาวพรรธน์ชนันกล่าว

ด้านเด็กหนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน นายทรอย วินน์ ฮอร์ตัน โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ ชนะเลิศการประกวดอ่านฟังเสียง ระดับมัธยมปลาย พูดด้วยความมั่นใจว่าชอบภาษาไทยมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าจะพูดได้สองภาษา แต่กลับรู้สึกตกหลุมรักภาษาไทยมากกว่า


“ผมรักความเป็นไทย มันมีเสน่ห์ และมีประวัติศาสตร์ที่ผมอยากให้คนรุ่นผมหรือน้อง ๆ ภูมิใจ ส่วนตัวมองว่าเท่นะ ยิ่งถ้าพูดถูกต้อง ทำให้ดูเป็นคนที่มีบุคลิกภาพดี เวลาที่ผมคุยแชต ผมจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่พิมพ์ว่ามันถูกต้องหรือเปล่า ถูกต้องหมายถึงพิมพ์ถูกและเลือกใช้คำได้ถูกด้วย”

ในการประกวดวาดภาพดิจิทัล ที่เริ่มจัดเป็นครั้งแรกในปี 2021 เนื่องจากต้องการเชื่อมต่อกับรุ่นใหม่ และเปิดโอกาสให้เด็กกลุ่มนี้ ได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะในรูปแบบใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับยุคสมัย  แต่ยังสามารถสะท้อนให้เห็นถึงความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ความเป็นไทย ภายใต้หัวข้อ ” Thailand Soft Power ปลุกพลังความเป็นไทย ให้ก้าวไกลสู่สากล”   เด็กหญิงปวริศา อนันตศิริ โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ จังหวัดกาญจนบุรี รางวัลชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จากผลงานวาดภาพดิจิทัล ‘สุดเท่เสน่ห์ไทย’ ต้องการนำเสนอ Soft Power ผ่านโซเชียลมีเดียจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยใช้แสงให้เป็นจุดเด่น สื่อถึงการท่องเที่ยวในเวลากลางคืน (Night Life) และ สตรีทฟู้ด (Street Food)  ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นจุดเด่นของเมืองไทย สำหรับการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยสามารถทำได้หลายวิธี


“ส่วนตัวคิดว่าการวาดรูปที่สื่อถึงความเป็นไทยและโพสต์รูปลงในโซเชียลมีเดีย เนื่องจากจะอยู่ในนั้นตลอดไปและเพื่อน ๆ จะได้เห็น  ที่สำคัญทุกคนจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้”น้องปวริศาบอกความในใจ

ด้านนายจิรายุ ทองจันทร์ โรงเรียนศรีสงครามวิทยา จังหวัดเลย รางวัลชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มองว่า ‘Soft Power’ คือสิ่งที่ช่วยผลักดันประเทศไทยให้ก้าวหน้านำไปสู่คอนเซปต์ของผลงาน ‘เยาวชนรวมพลัง’ พร้อมกับมองว่าตอนนี้ประเทศไทยมีเยาวชนที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศเยอะมาก ๆ เช่น มิลลิ ที่เอาข้าวเหนียวมะม่วงไปโชว์บนเวทีระดับโลก การอนุรักษ์วัฒนธรรมไม่ใช่เรื่องล้าสมัย อยู่ที่ว่าเราจะนำเสนออย่างไร ส่วนตัวก็เลือกนำเสนอผ่านภาพวาดดิจิทัล หาวิธีเล่าเรื่องให้แปลกใหม่จะทำให้ดูน่าสนใจมากขึ้น

นี่คือมุมมองของเด็กรุ่นใหม่ที่เชื่อว่า ‘เท่อย่างไทย ๆ ก็เป็น Soft Power ได้’ ใครมีความสามารถด้านไหนก็ช่วยกันอนุรักษ์ตามวิถีของตัวเอง  สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมสังคมเพื่อความยั่งยืนโดยทีทีบี ด้านการจุดประกายความเป็นไทยดูเพิ่มเติมได้ที่ www.เท่อย่างไทย.com และกิจกรรมสังคมอื่น ๆ ได้ที่  www.ttbfoundation.org

  ชนะเลิศการประกวดวาดภาพดิจิทัล ระดับมัธยมต้นและปลาย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตัดวงจรความรุนแรง เลิกให้โอกาสที่ 2

เรื่องราวของจีจี้ - นางสาวสุพิชชา ปรีดาเจริญ เนตไอดอลชื่อดัง ซึ่งถูกคู่รักทำร้ายหลายครั้ง แต่จีจี้ยื่นโอกาสให้กับฝ่ายชาย สุดท้ายเธอต้องจากไปด้วยน้ำมือของคนที่รัก ก่อนแฟนหนุ่มจบชีวิตตัวเองตาม  ถูกหยิบยกนำมาเป็นบทเรียนราคาแพงเตือนสติคนในสังคมออกจากความสัมพันธ์