สช.ความรุนแรง-อาวุธปืนถกแก้ปัญหา'อนุทิน'เผยเด็กไทยถูกรังแกในรร.อันดับ2ของโลก

ที่ประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ครั้งที่ 6/2565 เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2565 ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธาน คสช. เป็นประธาน มีมติรับทราบแนวทางการพัฒนานโยบายสาธารณะ เรื่อง การป้องกันและลดปัญหาความรุนแรงในสังคมไทย โดยเฉพาะความรุนแรงจากอาวุธปืนและอื่นๆ และมอบให้สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ชวนเครือข่ายใช้กระบวนการจัดสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น หรือสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เป็นเครื่องมือในการพัฒนานโยบายและขับเคลื่อนแก้ปัญหาเชิงระบบอย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อเสนอเบื้องต้นเป็นแนวทางในการลดความรุนแรงของสังคมไทย อาทิ การกำหนดนโยบายวาระเร่งด่วนแห่งชาติ (National Policy Agenda) การลดปัจจัยอันเป็นสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรง การสร้างมาตรการความร่วมมือระหว่างเครือข่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ การจัดทำฐานข้อมูลอย่างจริงจัง รวมไปถึงการเสนอให้มีการพัฒนาพื้นที่เมืองต้นแบบที่ปลอดภัย ปราศจากความรุนแรง เป็นต้น


นายอนุทิน กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมไทยกำลังประสบกับปัญหาความรุนแรงในหลายมิติ ทั้งในความรุนแรงที่ปรากฎเด่นชัดต่อสาธารณะ เช่น อาชญากรรมการปล้น ฆ่า การสังหารหมู่ การทะเลาะตีกันของวัยรุ่น สถานการณ์ความรุนแรงในสถานศึกษามีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดจนการฆ่าตัวตาย และยังมีความรุนแรงที่ไม่ค่อยปรากฏต่อสาธารณะที่ซ่อนเร้นอยู่ในสังคมอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะความรุนแรงต่อเด็ก สตรี คนชรา และความรุนแรงในครอบครัว โดยพบว่า เด็กไทยถูกรังแกในโรงเรียนเป็นอันดับที่ 2 ของโลก พบเด็กที่ตกเป็นเหยื่อเฉลี่ย 6 แสนคนต่อปี หรือจากสถิติการฆ่าตัวตายของประเทศต่างๆ ทั่วโลกในปี 2562 พบว่าประเทศไทยยังอยู่ในอันดับ 32 มีอัตราการฆ่าตัวตาย 14.4 คน ต่อประชากรแสนคน

“จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญกราดยิงที่โคราช จนถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจังหวัดหนองบัวลำภู ได้สร้างความตื่นตระหนก หดหู่ใจจากการใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธร้ายแรง ภายใต้สังคมที่เต็มไปด้วยอาวุธและยาเสพติดที่หาได้ไม่ยาก ซึ่งการแก้ปัญหาต้องแก้ที่รากเหง้าของความคิด ความเชื่อ วัฒนธรรมและระบบของสังคม และอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อกำหนดแนวทางในการขจัดความรุนแรงในมิติต่างๆ ในสังคมไทย รวมทั้งแนวทางในการป้องกันและช่วยเหลือเหยื่อที่ได้รับผลกระทบ” นายอนุทิน กล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุม คสช. ได้รับทราบผลการติดตามและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่ผ่านมา ซึ่งหลายมติได้ถูกนำไปกำหนดเป็นแผนหรือนโยบายในระดับชาติ รวมถึงมีการนำไปขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ โดยที่ประชุมยังได้มอบหมายให้ สช. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ประกอบด้วย มติ 10.1 การส่งเสริมให้คนไทยทุกช่วงวัยมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น มติ 12.1 ทบทวนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน มติ 14.1 การสร้างเสริมสุขภาวะสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนในวิกฤตโควิด-19
ที่ประชุม คสช. ยังได้รับทราบและชื่นชมความคืบหน้าการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 15 พ.ศ. 2565 ซึ่งกำหนดจัดระหว่างวันที่ 21-22 ธ.ค. 2565 ณ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการ คอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ประธานคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) เปิดเผยว่า สำหรับการเตรียมงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 15 ขณะนี้มีความพร้อมทุกด้านแล้ว ขณะเดียวกันในการเตรียมประเด็นเข้าสู่การพิจารณาของสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 16 ปี 2566 มีหลายประเด็นที่มีความสำคัญระดับชาติที่จะถูกหยิบยกเข้าสู่ที่ประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งหน้า เช่น 1. การจัดการทรัพยากรน้ำ จากเหตุน้ำท่วมหลายครั้งที่ผ่านมา 2. การลดความรุนแรงในสังคมไทย จากเหตุการณ์ที่ จ.หนองบัวลำภู และ 3. ยุติธรรมชุมชน เป็นการจัดการความขัดแย้งตั้งแต่ระดับฐานราก 4.การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของไทย ที่เข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ และเด็กเกิดใหม่ลดลงอย่างรวดเร็ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเปิดมาตรการรับมือน้ำท่วม พร้อมแผนเผชิญเหตุตลอดหน้าฝน

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.)

ปูดดีลใหญ่พลิก! จับตาสอย 'เศรษฐา' ดัน 'อนุทิน' นายกฯ

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก

'อนุทิน' ปัดพัลวัน 'สว.สีน้ำเงิน' โอดโดนให้ร้าย 'บิ๊กเกรียง' แค่เพื่อน พี่เนวินยังตกรอบ

'อนุทิน' พ้อโดนให้ร้ายอยู่เรื่อย หลัง สว.หลายคนโยง 'ภูมิใจไทย' ยันพรรคการเมืองยุ่งเกี่ยวไม่ได้ รับ 'บิ๊กเกรียง' คือเพื่อน ยันไม่รู้จักคนขับรถ 'ปู่ชัย'

'อนุทิน' ย้ำขึ้นค่าแรง 400 นโยบายรัฐบาล รอ 'บอร์ดไตรภาคี' ชี้ขาด

'อนุทิน' ย้ำขึ้นค่าแรง 400 บาท ทั่วประเทศ นโยบายรัฐบาล ชี้ผลสุดท้ายขึ้นอยู่ 'คกก.ไตรภาคี' มั่นใจ 'รมว.แรงงาน’ ดันสุดความสามารถ