'คนกรุงเทพ' เป็นเบาหวานมากที่สุดในประเทศ ค่าเฉลี่ย 17 ต่อ 100 คน

14 พ.ย.2565- เนื่องในวาระวันเบาหวานโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี สมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ (IDF: International Diabetes Federation) ได้มีการรณรงค์ในประเด็นต่าง ๆ ให้ประชาชนรับทราบ สมาคมโรค เบาหวานแห่งประเทศไทยและภาคีเครือข่าย อาทิ สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร, กรมควบคุมโรค, เครือข่าย คนไทยไร้พุง, เครือข่ายชมรมเบาหวาน, ศูนย์บริการสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มูลนิธิส่งเสริมโภชนาการฯ, สมาคมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทยฯ ได้ร่วมมือกันจัดกิจกรรมภาคประชาชน ที่ให้ความรู้ในรูปแบบ Walk-Rally และเปิดเวทีเสวนา ภายใต้แนวคิด “Education to Protect Tomorrow” “พรุ่งนี้ไม่สาย ถ้าเรารู้ทัน” #ให้เบาหวานเป็นเรื่องต้องรู้ รวมถึงออกบูธ กิจกรรมต่างๆ เพื่อรณรงค์ในเรื่อง Healthy Lifestyle ทั้งด้านอาหารการออกกำลังกายและการดูแลอารมณ์ จิตใจ เป็นการป้องกันโรคอ้วน เบาหวาน และลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เพื่อส่งเสริมสุขภาพผู้ที่เป็นเบาหวาน ให้ได้เข้าถึงความรู้ที่ถูกต้องในการดูแลตัวเอง เพื่อให้สามารถควบคุมเบาหวานได้ตามเป้าหมายและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ ตลอดจน หาแนวทางที่จะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้น ผลักดันนโยบายเพื่อยกระดับการเข้าถึงความ รู้ยาและอุปกรณ์ในการดูแลติดตามระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังมุ่งผลักดันให้โรค เบาหวาน ซึ่งเป็นวาระด้านสุขภาพของโลกและประเทศไทยที่ต้องร่วมมือกันดูแลและ ป้องกันเพื่ออนาคตที่ดีของประชาชน

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงวรรณี นิธิยานันท์ นายกสมาคมโรคเบาหวานแห่ง ประเทศไทย เผยในการเสวนา “กรุงเทพ เดินได้” ว่า “โรคเบาหวาน” เป็นโรคที่พบได้บ่อย และเป็นภาระด้าน สาธารณสุขของประเทศ จากการสำรวจสุขภาพคนไทยอายุ 15 ปี ขึ้นไปเมื่อ ปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา พบว่ามีคนไทยเป็นโรคเบาหวานมากถึง 5.3 ล้านคน ซึ่งจำนวนคนที่เป็นโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นทุกปี และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือคนในกรุงเทพเป็นเบาหวานมากกว่าจังหวัด อื่นๆ เกือบเท่าตัว โดยเฉลี่ย คนไทย 100 คน เป็นเบาหวาน 10 คน แต่สำหรับคนกรุงเทพฯ เป็นเบาหวานถึง 17 คนจาก 100 คนเลยทีเดียว สอดคล้องกับที่เห็นคนกรุงเทพจำนวนมากมีภาวะ อ้วนและเกิดปัญหาสุขภาพมากกว่าคนในจังหวัดอื่น ๆ

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานมีหลายอย่าง แต่ที่สำคัญและมักถูกละเลยคือ “กินอยู่ไม่ดี” หรือ “กินดีอยู่ดีเกินไป” หมายถึง ภาวะโภชนาการเกิน กินไม่ถูกต้อง ไม่ออกกาลังกายหรือมีกิจกรรมออกแรง ไม่เพียงพอ นอกจากนี้ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น ความเครียด การนอนหลับไม่เพียงพอ การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และมลภาวะในอากาศรอบตัว รวมถึงอายุที่มากขึ้นและพันธุกรรม ก็เป็นปัจจัยเร่งเพิ่มเติม

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงวรรณี กล่าวเน้นถึงความสำคัญของการเดินอีกว่า เป็นส่วนหนึ่งของการออกกำลังกายหรือการมีกิจกรรมออกแรงทางกายที่สามารถทำได้ง่ายที่สุดและประหยัดที่สุด เพราะไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากนัก และก็เหมาะกับผู้คนทุกช่วงวัย รวมถึงผู้ป่วยเบาหวานด้วย

รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในการเสวนา ภายใต้หัวข้อ “กรุงเทพ เดินได้” ว่า กรุงเทพมหานคร นอกจากจะเป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่มีจำนวนผู้คนอยู่ อาศัยสูงสุดในประเทศแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคด้วยซึ่ง เป้าหมายของทุกคน โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ก็คือ การพัฒนาเมืองกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองที่ดี โดยที่เรามีนโยบายพัฒนามหานครของเราให้เป็นเมืองที่ดีในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างดี เศรษฐกิจดี เดินทางดี หรือแม้แต่ปลอดภัยดี และแน่นอน เพื่อให้กรุงเทพ เป็นเมืองที่ดีครบในทุกมิติอย่างแท้จริง หนึ่งในความ มุ่งหวังของกรุงเทพมหานคร และนโยบายที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง คือการทำให้คนในกรุงเทพ มีสุขภาพที่ดี โดยที่กรุงเทพมหานคร มีโครงการและกิจกรรมต่างๆ ที่ลงลึกในระดับเขตที่ส่งเสริมให้คนใน กรุงเทพมหานคร มีสุขภาพที่ดี รวมถึงนโยบายสิ่งแวดล้อมดีและการเดินทางดี เพื่อให้ท้ายสุดผู้คนมีสุขภาพ ที่ดีอย่างเป็นรูปธรรม จึงอยากเชิญชวนให้ คนกรุงเทพฯ ใส่ใจดูแลสุขภาพ และ เดินให้มากขึ้น

สำหรับบรรยากาศ ของการจัดกิจกรรมวันเบาหวานโลก Walk Rally Theme: Access to Diabetes Care ในหัวข้อ “Education to protect tomorrow” “พรุ่งนี้ไม่สาย ถ้าเรารู้ทัน” #ให้เบาหวานเป็นเรื่องต้องรู้ มีความคึกคักตั้งแต่เริ่มงาน นอกจากนี้ภายในบริเวณการจัดงาน เต็มไปด้วยบูธให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานต่าง ๆ มากมาย อาทิ การเข้าถึงอาหารสุขภาพ และการออกกำลังกาย, นิทรรศการศิลปะเบาหวานเด็ก จัดแสดงภาพวาด ภาพถ่าย VDO รณรงค์ เรื่อง Diabetes awareness, อาหารเพื่อสุขภาพ จำหน่ายพืชผักผลไม้ สินค้าปลอดสารพิษ, ประเมินความเสี่ยงเบาหวานด้วยตนเอง, ตรวจน้ำตาลในเลือดเจาะปลายนิ้ว, ฉีดวัคซีน ไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น นับว่าประทับใจผู้มาร่วมงานถ้วนหน้าเพราะได้ทั้งสารอาหารดีต่อร่างกายแล้ว ยังได้องค์ ความรู้ดีๆ นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง โดยงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ สวนอุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ผ่าตัดกระเพาะอาหาร’ ทางเลือกสำหรับผู้ป่วย โรคอ้วน และ ‘เบาหวาน’

หลายท่านเข้าใจว่า ‘การผ่าตัดกระเพาะ’ เป็นวิธีการรักษาสำหรับผู้ที่ป่วยที่เป็นโรคอ้วนเพื่อการลดน้ำหนักเท่านั้น แท้จริงแล้วการผ่าตัดกระเพาะยังสามารถรักษาโรคเบาหวานได้ ซึ่งเป็นโรคร่วมอันดับต้น ๆ

ห้ามพลาด รัฐบาลเชิญชวนประชาชนตรวจเบาหวานฟรีตั้งแต่ 1 มิ.ย. 66 - 31 ธ.ค.67 

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความห่วงใยปัญหาสุขภาพของประชาชน ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ห่างไกลจากโรค ป้องกันการเจ็บป่วยเรื้อรัง ซึ่งจากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข

'หมอธีระ' เปิดผลวิจัยจีน ชี้ชัดติดโควิดเสี่ยงเบาหวาน

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 203,628 คน ตายเพิ่ม 373 คน รวมแล้วติดไป 643,034,979 คน เสียชีวิตรวม 6,625,861 คน

“ปานเทพ” งัดงานวิจัย ม.ขอนแก่น เรื่องกัญชา ตอบ แพทย์จุฬาฯ พบช่วยบรรเทา เบาหวาน มะเร็ง อย่างมีนัยยะสำคัญ

นายปานเทพ พัวพงศ์พันธุ์ โฆษกคณะกรรมาธิการ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ส่วนหนึ่งที่โพสต์ระบุว่า เรื่องงานวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบการเปิดกัญชาเสรีกับประชาชน

หมอธีระวัฒน์ เปิดผลวิจัย 'กินเนื้อแดง' เสี่ยงเกิดโรคเพียบ

นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ชอบกินเนื้อ..ถึงกับเสี่ยงตาย?