4 พ.ย.2565 – ที่โรงแรมเคพี แกรนด์ จังหวัดจันทบุรี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนนโยบายการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ในระดับพื้นที่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมีปลัด ศธ. ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ผู้ตรวจราชกา ศธ. ศึกษาธิการภาค ศึกษาธิการจังหวัดทั่วประเทศ และผู้บริหารการศึกษาในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เข้าร่วมประชุม ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาการศึกษาของชาติ เน้นแนวทางการพัฒนาระบบบริหารงานราชการให้มีความคล่องตัว รวดเร็ว โปร่งใส ,เน้นการกระจายอำนาจสู่ระดับภูมิภาค เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและให้การบริหารราชการประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย ซึ่ง ศธ.ได้นำมากำหนดเป็นนโยบาย และจุดเน้นหลัก ที่ต้องการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการศึกษา โดยการส่งเสริม สนับสนุนสถานศึกษาให้มีความเป็นอิสระและคล่องตัว มีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาโดยใช้จังหวัดเป็นฐาน รวมถึงการจัดโครงสร้างหน่วยงานให้เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ
รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ 19 / 2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งการแก้ไขกฎหมายนี้ จะมีผลในการถ่ายโอนภารกิจงานด้านการบริหารงานบุคคลไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และมีผลต่อการปรับบทบาทของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) และสำนักงานศึกษาธิการภาค(ศธภ.) สู่บทบาทใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญต่อการกำหนดนโยบาย จัดทำแผนงาน และการส่งเสริมสนับสนุนด้านการศึกษา รวมถึงการติดตาม และประเมินผลสำเร็จของการปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นการปรับบทบาทหน้าที่ ให้มีความเข้มข้นในการยกระดับคุณภาพทางการศึกษา เป็นการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่จัดการศึกษาในจังหวัด โดยเครื่องมือหนึ่ง ที่สามารถนำมาใช้สำหรับการแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้อย่างชัดเจน คือ การจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาในระดับภาค และระดับจังหวัด ที่สอดคล้องกับบริบทในพื้นที่ โดยกำหนดทิศทางการศึกษาร่วมกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดว่าทิศทางการศึกษาจังหวัดของตนจะเป็นอย่างไร ก็จะทำให้ตอบโจทย์การศึกษานำไปสู่เป้าหมายที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ศธภ. ต้องแสดงบทบาทนำของตนอย่างแข็งแรง เพื่อเป็นกำลังสำคัญในฐานะผู้แทนของกระทรวงในพื้นที่ รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ในการติดตาม และตรวจสอบการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อวัดผลความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เพราะฉะนั้นวันนี้ ศธจ. และ ศธภ. จะเป็นเหมือนเข็มทิศการศึกษา หาทิศทางการศึกษาของแต่ละพื้นที่โดยไม่เดินหน้าไปแบบไร้ทิศทาง ตลอดจนติดตามผลว่ามีปัญหาอะไร และจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
นางสาวตรีนุช กล่าวด้วยว่า นโยบายสำคัญที่ยังต้องเดินหน้าเพื่อการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส และความเสมอภาคทางการศึกษา ซึ่งท่านศึกษาธิการจังหวัด สามารถเป็นผู้แทนของ ศธ. ในการทำงานร่วมกับหน่วยงานในจังหวัด เพื่อผลักดันให้นโยบายสำคัญประสบความสำเร็จ ได้แก่ โครงการพาน้องกลับมาเรียน โดยนำข้อมูลการสำรวจเด็กนักเรียนมาจัดทำข้อเสนอ เพื่อบูรณาการความช่วยเหลือเด็ก โดยเฉพาะเด็กกลุ่มเสี่ยงที่ประสบปัญหาขาดแคลน เพื่อป้องกันเด็กนักเรียนต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา , โครงการความปลอดภัยในสถานศึกษา รวมถึงการติดตามเฝ้าระวังปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการฉีดวัคซีนในเด็ก แม้จะมีการปรับให้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และ การแก้ไขปัญหาภาวการณ์เรียนรู้ถดถอย ซึ่งสามารถนำรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เป็น Best Practice มาแลกเปลี่ยน และแบ่งปันระหว่างสถานศึกษาได้ รวมถึงการนำผลงานเด่น ๆ ด้านการศึกษาของนักเรียน มาพัฒนาและต่อยอดให้เป็นนวัตกรรมด้าน Soft Power ของจังหวัดหรือพื้นที่ของตนเอง
“ เมื่อมีการแก้ไขกฎหมายคำสั่ง คสช. กระทรวงศึกษาธิการ ต้องเตรียมความพร้อมในการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง บทบาทหน้าที่ และปรับเปลี่ยนตัวบุคคล โดยดิฉันพร้อมที่จะสนับสนุนเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ที่จะรองรับภารกิจหลักได้อย่างเต็มที่ หวังว่าทุกส่วนราชการในสังกัด ศธ. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ที่ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ร่วมมือร่วมใจกันในการนำนโยบายและจุดเน้นการจัดการศึกษา ไปขับเคลื่อนให้เกิดผลผลิตและผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม เป็นคนกลางในการประสานความร่วมมือกับส่วนราชการอื่นๆ เพื่อยกระดับการบริหารจัดการศึกษาให้เป็นวาระสำคัญในแต่ละพื้นที่ ตลอดจนให้ความสำคัญกับกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายข้างต้น” รมว.ศธ. กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เทพไท’ ฟันธงรัฐบาลพร้อมทำตามนโยบาย ‘พ่อนายกฯ’ แน่นอน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" ทักษิณ คือ เจ้าของรัฐบาลตัวจริง ถ้าใครได้ติดตามความเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
'สรวงศ์' วางเป้าผลักดันท่องเที่ยวไทยสู่ระดับโลก
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งประกาศนโยบายสำคัญที่จะผลักดันการท่องเที่ยวและกีฬาไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก
นายกฯ หัวโต๊ะถกหัวหน้าส่วนราชการนัดแรก รับผิดเองเข้าไม่ถึง
'เศรษฐา' หัวโต๊ะถกหัวหน้าส่วนราชการนัดแรก บอกผิดเองเข้าไม่ถึง จากนี้เปิดช่องหารือ - ทำความรู้จักเพิ่ม นัดประชุมบ่อยขึ้น
“อนุทิน” มอบนโยบายแรงงาน เน้นทักษะทันโลก หนุนสวัสดิการฟรีแลนซ์ เข้าใจนิวเจน
10 มกราคม 2567 ที่กระทรวงแรงงาน กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมามอบนโยบาย พร้อมด้วยพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยมีคณะผู้บริหาร
ป.ป.ช. เปิดกรุสมบัติ 'อิทธิพล-ตรีนุช' กรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรี
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายอิทธิพล คุณปลื้ม กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม โดยนายอิทธิพล แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 81,162,381 บาท มีหนี้สินทั้งหมด 543,016 บาท
'บิ๊กต่อ' สั่งลุย Quick Win 5 ด้าน คืนตำรวจให้ประชาชน
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้สามารถดำเนินการได้ทันที เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว สร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม โดยตลอดปีงบประมาณ พ.ศ.2567 นี้ จะมี Quick Win ลักษณะนี้เป็นระยะ