1 พ.ย. 2565 – สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.)จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท ไอริส คอนซัลติ้ง จำกัด (ไบร์ทเทอร์บี)ในโครงการแพลตฟอร์มพัฒนาทักษะแห่งอนาคตรองรับการลงทุนภาคการผลิตและบริการ โดยมี ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการ สอวช. และ นางสาวเพ็ญสุดา เหล่าศิริพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอริส คอนซัลติ้งจำกัด เป็นผู้ร่วมลงนาม และได้รับเกียรติจาก ศาตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นผู้กล่าวเปิดงาน
ดร.เอนก กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นมิติใหม่ในการยกระดับทักษะบุคลากรที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศตามความต้องการของภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม โดยขณะนี้ในแพลตฟอร์มมีองค์ความรู้ที่ผ่านการยอมรับจากบริษัทและองค์กรชั้นนำ ที่นิสิตและนักศึกษาทั่วประเทศสามารถเข้าไปเรียนรู้เพื่อยกระดับทักษะตนเอง ทั้ง Hard Skill และ Soft Skil lได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากกว่า 250 หลักสูตร รองรับผู้ใช้งานได้มากกว่า2 ล้านคน นับเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาในมหาวิทยาลัย บุคลากรทุกช่วงวัยรวมถึงผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสายงานให้สอดคล้องกับอาชีพที่หลากหลายและตำแหน่งงานใหม่ ๆเพื่อยกระดับทักษะให้พร้อมเข้าสู่การทำงานในตำแหน่งพรีเมี่ยมของบริษัทชั้นนำในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือเร่งให้ประเทศไทยมีจำนวนบุคลากรที่มีทักษะสมรรถนะสูงสามารถดึงดูดการลงทุนจากบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการจัดเวทีบรรยายพิเศษร่วมแลกเปลี่ยนในหัวข้อ“มุมมองผู้บริหารในการเตรียมความพร้อมเพื่อความสำเร็จในอนาคต” Executive Viewpoints on Future CriticalCapabilities for Success Perspectives of HR Strategy x YOU as a Talent! โดยมีผู้เข้าร่วมเสวนาทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ นายวันจักร มนตรีวรรณ รองกรรมการ บริษัท เอสซีจี เอชอาร์ โซลูชั่นส์ จำกัด นางสาวพัชมน วงศ์ฝาย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านพัฒนาบุคลากร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด นางสาวหทัยรัตน์ ตรรกนิพนธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส และผู้บริหารฝ่ายการเรียนรู้และภาวะผู้นำ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด นางสาวอุษณี อภิรัตน์ภิญโญผู้อำนวยการฝ่ายบุคคล บริษัท แกล็กโซสมิทไคลน์ (ประเทศไทย) จำกัด และ ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสอวช.
ดร.กิติพงค์ กล่าวถึงความท้าทายที่ธุรกิจและองค์กรต้องรับมือในปัจจุบัน ในมุมของ สอวช. ที่ทำงานด้านนโยบายต้องพยายามมองดูว่าโลกปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างไร ในเรื่องการศึกษา พัฒนาอาชีพพัฒนาคนให้มีคุณภาพต้องทำอย่างไร นี่จึงไม่ใช่แค่เพียงความท้าทาย แต่ถือเป็นโอกาสด้วยซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนคือการเปลี่ยนผ่านจากการใช้ชีวิตแบบ 3 ขั้น (Three-stage Life)คือเริ่มจากการเรียน ทำงาน และเกษียณ เป็นชีวิตแบบหลากหลายขั้น (multi-stage life) ที่สามารถเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย หรือทำงานแล้ว สามารถออกมาพัฒนาทักษะ ปรับเปลี่ยนทักษะการทำงาน (upskill/reskill)และเปลี่ยนอาชีพไปอีกได้
ดร.กิติพงค์ กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จึงตอบโจทย์การพัฒนาทักษะแห่งอนาคตรองรับการลงทุนภาคการผลิตและบริการซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบการพัฒนาบุคลากรของประเทศจากการทำงานร่วมกันระหว่างภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาส่งผลให้สถาบันอุดมศึกษาสามารถปรับตัวในการจัดการศึกษา และรองรับการเรียนรู้ตลอดชีวิตมากขึ้นรวมถึงภาคเอกชนจะสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะของบุคลากรโดยการจัดการเรียนรู้รูปแบบการร่วมดำเนินการ ระหว่างภาคการศึกษาและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมากขึ้น ส่งผลให้บุคลากรของประเทศ ได้รับการพัฒนาให้มีทักษะที่ตอบโจทย์อนาคต
“โครงการนี้นอกจากจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านหลักสูตรการเรียนการสอนแล้วยังเป็นโอกาสให้นักศึกษาสามารถรู้ถึงความต้องการของผู้ประกอบการ รู้ว่าตัวเองมีจุดอ่อนจุดแข็งอะไรต้องพัฒนาอะไร นำไปสู่การจับคู่กับสายงานที่สนใจ เป็นโอกาสเชื่อมโยงไปสู่การทำงานได้ทันทีหลังเรียนจบและหากต้องการสะสมหน่วยกิต ในอนาคตก็มีแนวทางนำชั่วโมงการเรียนมารวมอยู่ในธนาคารหน่วยกิต (creditbank) เพื่อโอนไปเป็นหน่วยกิตในสถาบันการศึกษา และเปลี่ยนเป็นประกาศนียบัตรหรือใบปริญญาได้” ดร.กิติพงค์กล่าว
ด้านนางสาวเพ็ญสุดา กล่าวว่า แพลตฟอร์มนี้มุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนและตอบโจทย์คนใน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) มหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษา 2) นิสิต/นักศึกษาและบุคคลทั่วไป 3) องค์กรเอกชนและรัฐวิสาหกิจ เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยในการเตรียมและพัฒนาคนเก่ง ที่ตอบโจทย์ตามความต้องการของตลาดโดยในแพลตฟอร์มจะมีสมรรถนะในการทำงานที่สำคัญต่อทุกๆ บทบาทและสายอาชีพ ให้เรียนรู้รวมอยู่ 40 สมรรถนะ สมรรถนะในหน้าที่งานที่สำคัญต่อทุกๆ บทบาทและสายอาชีพ รวม 6 สมรรถนะ และสมรรถนะในหน้าที่เฉพาะเจาะจงกับแต่ละบทบาทและสายอาชีพ รวม 40 กลุ่มอาชีพให้สามารถเลือกเรียนรู้ได้ตามความสนใจ ซึ่งขั้นตอนการสรรหาคนเก่ง จะมีไลฟ์แนะนำงานและโอกาสในสายอาชีพไลฟ์เลิร์นนิ่งหัวข้อสมรรถนะที่ต้องการ กำหนดโปรไฟล์สำหรับตำแหน่งงาน ประเมินสมรรถนะที่จำเป็นตามโปรไฟล์ ประเมินศักยภาพผ่านผลงานจริง ตั้งโจทย์ประเมินหลังไลฟ์เลิร์นนิ่ง ตามด้วยการสัมภาษณ์พร้อมด้วยผลประเมิน ก่อนจะเข้าสู่การหาแนวทางการเรียนรู้ พัฒนาทักษะที่ตรงกับตัวบุคคลต่อไป
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าใช้งานแพลตฟอร์มนี้ได้ผ่าน QR Code หรือเว็บไซต์https://www.brighterbee.co/ โดยจะเริ่มเปิดให้ใช้งานในเฟสแรก สำหรับนิสิต/นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 และเปิดให้ใช้งานในเฟสสอง สำหรับทุกคน จะเข้าใช้งานได้ในวันที่ 1 มกราคม2566 เป็นต้นไป โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้งานตามเป้าหมาย 2 ล้านคนภายในปี 2566