12 ต.ค.2565-นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า ในการที่ตนรับตำแหน่งเลขาธิการกช.นั้นตนมีแนวทางการทำงานที่จะขับเคลื่อนการศึกษาเอกชนโดยยึดนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการใน 3 มิติ คือ มิติที่ 1 ผู้เรียน ส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นคนเก่ง คนดี มีคุณภาพ โดยเน้นการส่งเสริม พัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนการวัดและประเมินผล การสร้างคุณลักษณะที่พึงประสงค์ พัฒนาทักษะอาชีพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน มิติที่ 2 สถานศึกษา ส่งเสริมสถานศึกษาให้มีคุณภาพ มีความเข้มแข็ง โดยผลักดันการแก้ไขพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชนฯ เพื่อให้สอดคล้องกับร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ..ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร์
รักษาการเลขา กช.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังทบทวนและปรับลดกฎระเบียบที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการส่งเสริมการศึกษาเอกชนตามหลักการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ศึกษาแนวทางการอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำหรับผู้เรียน ศึกษาแนวทางการขอรับการสนับสนุนเงินอุดหนุนอาหารกลางวัน สำหรับนักเรียนโรงเรียนเอกชนเพิ่มเติม ส่งเสริมสิทธิประโยชน์ และการลดหย่อนภาษีให้แก่สถานศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้สถานศึกษาได้รับทราบแนวทางที่ชัดเจน และมุ่งเน้นการจัดการศึกษาเพื่อความปลอดภัยต่อผู้เรียน และมิติที่ 3 การบริหารจัดการขับเคลื่อนการส่งเสริมการศึกษาเอกชนผ่านกลไกของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.)
“สิ่งที่น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ได้กำชับให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบ คือ ประเด็นการบริหารจัดการต่างๆที่ยังคั่งค้าง เช่น การแก้ไขปัญหาโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ที่ต้องบริหารจัดการแก้ไขปัญหาให้เรียบร้อย เป็นต้น ส่วนประเด็นการดูแลโรงเรียนเอกชนที่ขณะนี้มีโรงเรียนหลายแห่งต้องปิดกิจการจากสถานการณ์โควิด หรืออัตราการรับนักเรียนลดลงนั้น เรื่องนี้ ผมคิดว่าเราจะต้องเร่งเติมจุดแข็งให้แก่โรงเรียนเอกชนเหล่านี้ เช่น การพัฒนาครู การปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอน เป็นต้น “นายมณฑลกล่าว