โฆษกรัฐบาล แจงดราม่า ยกหนี้ 'กยศ.' นายกฯ ห่วงใย ตั้งใจแก้ไขปัญหา ชงร่างพรบ.กองทุนเงินให้กู้ยืมฯ


โฆษกรัฐบาล ชี้แจงกรณีขอยกหนี้ กยศ. นายกฯ ห่วงใย ตั้งใจแก้ไขปัญหามาโดยตลอด ทั้งมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ลดผลกระทบต่อผู้ค้ำประกัน และเสนอร่างพรบ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาฯ เพื่อโอกาสเข้าถึงการศึกษาพัฒนาทรัพยากรบุคคลไทย

19 ส.ค.2565- ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกระแสข่าวเกี่ยวกับการรวบรวมรายชื่อผ่านเว็บไซต์ “ศูนย์วิจัยรัฐสวัสดิการ” 10,000 รายชื่อ เพื่อยื่นแก้ไขกฎหมายกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยให้รัฐบาลเป็นลูกหนี้แทนผู้กู้ เพื่อให้ยกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ชี้แจงว่าการยกหนี้ กยศ. ไม่ใช่การแก้ปัญหาหนี้ กยศ. แต่จะทำให้ผู้กู้ขาดวินัยทางการเงิน ซึ่งจะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต แต่รัฐบาลเข้าใจปัญหาของหนี้ กยศ. ตามกฎหมายปัจจุบัน จึงได้เสนอแก้ไขให้การชำระหนี้ กยศ. ยังคงเป็นไปตามหลักเป็นหนี้ต้องใช้หนี้แต่ผ่อนปรนการชำระหนี้ กยศ. ให้สอดคล้องกับรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวอยู่ในชั้นการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร” โดยการชี้แจงดังกล่าวของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้ กยศ.

นายอนุชา กล่าวว่า ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยต่อประเด็นนี้ และได้สั่งการเร่งให้การช่วยเหลือลูกหนี้ กยศ. อย่างเต็มที่ครอบคลุมการลดภาระหนี้ ลดความเสี่ยงถูกดำเนินคดี แก้กฎหมายให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น ผ่านกลไกต่าง ๆ เช่น งานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ ที่กองทุน กยศ. ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม จัดขึ้นทั่วประเทศเพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมไปถึง การขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ เพื่อจูงใจให้ผู้กู้ยืมมาชำระเงินคืน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ภายใต้เงื่อนไขของมาตรการ และการที่คณะรัฐมนตรีเสนอร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามีอำนาจในการปลดภาระผู้ค้ำประกัน เมื่อผู้กู้ยืมได้ผ่อนชำระเงินต้นมาแล้วร้อยละ 25 ของเงินต้นที่ค้างชำระ รวมถึงเสนอการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยและดอกเบี้ยผิดนัดให้เหมาะสม โดยขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติฯ อยู่ในชั้นการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

“นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาหนี้ กยศ. มาโดยตลอด นอกจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ลดผลกระทบต่อผู้ค้ำประกัน และเสนอร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาฯ ที่มีเป้าหมายเพื่อปฏิรูปโครงสร้างสินเชื่อ ช่วยเหลือผู้กู้ที่เดือดร้อน สร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้กู้และผู้ค้ำประกัน ช่วยให้การชำระหนี้มีความเป็นธรรม และสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้มากยิ่งขึ้นแล้ว ประเด็นสำคัญที่นายกรัฐมนตรีห่วงกังวลคือ โอกาสในการเข้าถึงเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาและรองรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเสริมสร้างคุณภาพของทรัพยากรบุคคล เพิ่มโอกาสทางการแข่งขันของไทยให้ดียิ่งขึ้นต่อไป” นายอนุชา กล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดภารกิจ 'กิตติรัตน์' ในตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ ทำหลุดเก้าอี้ 'ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ'

กรณีที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีการ่วม 3 คณะ มีมติด้วยเสียงข้างมากเห็นว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาให้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ

'ลุงป้อม' เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ รับอวยพรปีใหม่

'ลุงป้อม' สดใส เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ รับอวยพรปีใหม่ ย้ำพระราชเสาวนีย์พระพันปีหลวง ปกป้องป่าให้ลูกหลาน ด้าน ผบ.เหล่าทัพ ทยอยอวยพร 3 ป. วานนี้

'สมชาย' ร่อนจดหมายเปิดผนึกฉบับที่2 จี้นายกฯแก้ปัญหาที่ดินอัลไพน์โอนคืนให้ 'วัดธรรมมิการาม'

นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่2) ระบุว่า

'พีระพันธุ์' ยัน รทสช.หนุนแคนดิเดตจากเพื่อไทยแต่ต้องไม่มีเรื่อง 112

'รทสช.' ยันจุดยืนหนุนแคนดิเดตเพื่อไทยเป็นนายกฯต่อ แต่ต้องไม่แก้ ม.112 ยังไม่เคาะชื่อ 'ชัยเกษม นิติสิริ' หลังถามเรื่องสุขภาพ ลั่นไม่มีข้อตกลงบ้านจันทร์ส่องหล้า ด้านนโยบายเงินหมื่นรอ 'พท.' ชี้แจง