กทม. แจง 2 รายเสี่ยงสูงฝีดาษลิง คัดกรองกักตัวแล้ว เร่งหาชายชาวต่างชาติ

5 ส.ค. 2565 – ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. แถลงข่าวกรณีรับทราบข้อมูลผลตรวจยืนยัน พบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 2 ของกรุงเทพฯ และรายที่ 4 ของประเทศไทย ว่า ผู้ป่วยมีสัญชาติไทย โดยผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา และตรวจพบเชื้อเมื่อเช้าของวันนี้ (5 ก.ค.) และตอนนี้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใกล้ชิดผู้ป่วยจำนวน 2 ราย ได้มีการกักตัวในที่พักแล้ว ด้านผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับชาวไนจีเรีย 1 คน ยังคงมีการติดตามตัวอยู่

ทั้งนี้ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดสมุทรปราการ เกิดข้อสงสัยในอาการของผู้ป่วยรายดังกล่าว จึงได้กักตัวและตรวจคัดกรองเพิ่มเติม และได้รับผลยืนยันเมื่อช่วงเช้าวันนี้ว่าติดเชื้อฝีดาษวานร และขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลจุฬารัตน์เรียบร้อยแล้ว

“ต้องขอบคุณโรงพยาบาลจุฬารัตน์ที่ประสานกับทางสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร อย่างรวดเร็ว เพื่อการสอบสวนโรคที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสำหรับผู้ป่วยรายนี้ มีผู้สัมผัสเสี่ยงร่วมบ้านชาวไทย 2 ราย ที่พบตัวแล้ว และเข้าสู่ระบบการคัดกรอง-กักตัว และอยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงชาวต่างชาติอีก 1 ราย” น.ส.ทวิดา ระบุ

ขณะที่ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเน้นย้ำให้ระมัดระวังในเรื่องการใช้ชีวิตในลักษณะที่มีความเสี่ยง เนื่องจากเริ่มมีเคสเกิดเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ กทม. ยังได้เน้นย้ำว่า โรคฝีดาษวานร มีระยะเวลาที่ต้องเฝ้าระวังหลังการสัมผัสถึง 21 วัน จึงขอให้ระมัดระวังและเฝ้าระวังอาการสำหรับผู้ที่สัมผัสให้ครบ 21 วัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กค่าฝุ่น PM 2.5 กทม. คุณภาพอากาศภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศ กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เช้านี้คุณภาพอากาศ กทม. อยู่ในเกณฑ์ดี มีเหลืองปานกลางที่หนองจอก วังทองหลาง

นักวิชาการ กระตุก 'ชัชชาติ' จะประกาศให้กรุงเทพเป็นเขตควบคุมมลพิษ ต้องคิดให้ดี

ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

น้ำลายการเมืองแก้“ฝุ่นพิษ” โปรย“งบฯ”-ลนลานรักษาฐานเสียง

รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า “ไร้น้ำยา” ในการวางแผนรับมือปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ทั้งที่รู้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นวัฏจักรรายปี ยิ่งในปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าเป็นรายสัปดาห์ จากการใช้ชุดข้อมูลเทคโนโลยีตรวจวัด สถิติต่างๆ มาประมวลเพื่อเตรียมการได้อยู่แล้ว