22ก.ค.2565- นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ผู้ติดโควิด-19 ที่มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ซึ่งในส่วนของมาตรการรักษาพยาบาลตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มอาการสีเขียวที่มีอาการเล็กน้อย รักษาแบบ “ผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้าน” (เจอ แจก จบ) หรือรักษาที่บ้าน (Home Isolation) ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเหลือง รวมถึงกลุ่มเสี่ยง กลุ่ม 608 ที่มีอาการเข้ารักษาสถานพยาบาลตามสิทธิ์ รับการรักษาตามดุลยพินิจของแพทย์ หากมีอาการรุนแรง หรือกลุ่มสีแดง เข้าหลักเกณฑ์ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติมีสิทธิทุกที่ เข้ารักษาที่โรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่อยู่ใกล้หรือโทร.แจ้งที่สายด่วน 1669 ได้
อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สปสช.ได้ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด จัดส่งยาฟาวิฟิราเวียร์ให้กับผู้ป่วยโควิด-19 อีกครั้ง โดยกระทรวงสาธารณสุขได้สนับสนุนยาฟาวิพิราเวียร์เพื่อเป็นการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการและจำเป็นต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ได้รับยาโดยเร็ว หลังจากก่อนหน้านี้เคยจัดส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ป่วยโควิด-19 ในช่วงเดือนเมษายน 2565 แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย การจัดส่งยาให้ผู้ป่วยก็ยุติลง
นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า การจัดส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ป่วยโควิด-19 ในครั้งนี้จะเป็นระบบเสริมการให้บริการของหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลที่เป็นระบบหลัก โดยจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (22 กรกฎาคม 2565) เป็นต้นไป โดยผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล 5 จังหวัด คือ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ที่ต้องการรับยาฟาวิพิราเวียร์ ให้โทร.มาที่สายด่วน สปสช. 1330 เจ้าหน้าที่จะทำการคัดกรองอาการตามหลักเกณฑ์ของกรมการแพทย์ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกร หากพบว่าผู้ติดเชื้อเริ่มมีอาการที่จำเป็นต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ สปสช.ก็จะจัดส่งยาให้ผู้ติดเชื้อทันทีภายใน 24 ชั่วโมง โดยประสานความร่วมมือการจัดส่งยากับ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด และการสนับสนุนงบประมาณการจัดส่งโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โดยได้รับการสนับสนุนยาฟาวิพิราเวียร์จากกระทรวงสาธารณสุข
“ยาฟาวิพิราเวียร์ที่จัดส่งครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเป็นระบบเสริมกับการให้บริการของหน่วยบริการที่เป็นระบบหลักในการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับยาฟาวิพิราเวียร์อย่างทันท่วงที ลดอัตราเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ ” เลขาธิการ สปสช. กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นาโนเทค สวทช.-สภาเภสัชกรรม-สปสช. ร่วมนำร่องผลักดันชุดตรวจคัดกรองโรคไตในร้านยา
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ร่วมกับสภาเภสัชกรรม