'ประวิต' ปลื้ม 'คุรุสภาวิทยาจารย์' ติดกลุ่ม 2 วารสาร TCI ประจำปี 2565

12ก.ค.65-นายประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (เลขาฯ ก.ค.ศ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ตามที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้จัดส่ง “วารสารคุรุสภาวิทยาจารย์ JOURNAL OF TEACHER PROFESSIONAL DEVELOPMEN” เพื่อร่วมประเมินเข้าฐานข้อมูลของศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย TCI (Thai Journal Citation Index – TCI) TCI และจัดกลุ่มคุณภาพวารสาร ประจำปี พ.ศ. 2565 นั้น ขณะนี้ TCI ได้ทำการประเมินและประกาศผลการประเมินคุณภาพวารสารเพื่อนำเข้าสู่ฐานข้อมูล TCI เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผลปรากฏว่าในปีนี้วารสารคุรุสภาวิทยาจารย์ได้ผ่านการพิจารณาอยู่ลำดับที่ 14 ในวารสารกลุ่มที่ 2 จากที่ปีนี้มีวารสารส่งให้ TCI ประเมินทั้งหมดจำนวน 126 วารสาร ผลประเมินมีดังนี้ วารสารที่ผ่านการพิจารณาอยู่ในกลุ่มที่ 1 จำนวน 12 วารสาร กลุ่มที่ 2 จำนวน 73 วารสาร และไม่ผ่านการประเมิน จำนวน 41 วารสาร ทางศูนย์ TCI จะแบ่งกลุ่มวารสารออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 วารสาร ที่ผ่านการรับรองคุณภาพของ TCI (จนถึง 31 ธันวาคม 2567) และอยู่ในฐานข้อมูล TCI และจะถูกคัดเลือก เข้าสู่ฐานข้อมูล ASEAN Citation Index (ACI) ต่อไป ส่วนกลุ่มที่ 2 วารสารที่ผ่านการรับรองคุณภาพของ TCI (จนถึง 31 ธันวาคม 2567) และอยู่ในฐานข้อมูล TCI และกลุ่มที่ 3 วารสารที่ไม่ผ่านการรับรองคุณภาพ และอาจไม่ปรากฏอยู่ในฐานข้อมูล TCI ในอนาคต

นายประวิต กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การที่วารสารคุรุสภาวิทยาจารย์ผ่านการประเมินคุณภาพ TCI แสดงว่าวารสารของคุรุสภามีคุณภาพจริงๆ และยังเป็นที่ยอมรับในประเทศ ดังนั้น นิสิต นักศึกษา นักวิจัย บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนที่สนใจสามารถเข้าไปดูผลการประเมิน บทความที่มีคุณภาพและน่าสนใจได้ที่เว็บไซต์ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/withayajarnjournal เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ทางการศึกษา อย่างไรก็ตามวารสารที่ผ่านการประเมินครั้งนี้จะมีระยะเวลาการรับรองคุณภาพ 3 ปี คือ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 ไปจนถึง วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 สำหรับวารสารคุรุสภาวิทยาจารย์ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2563 มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่บทความวิชาการและบทความวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ ด้านสังคมศาสตร์ และด้านมนุษยศาสตร์ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อการเปลี่ยนแปลง สร้างความตระหนัก และให้ความสำคัญ รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และวิชาชีพทางการศึกษา โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการศึกษาประจำกองบรรณาธิการ และ จะรับตีพิมพ์บทความวิชาการและบทความวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและการพัฒนาวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ สร้างความตระหนักให้ความสำคัญกับนักเรียน ครู และการศึกษา เพื่อให้วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง

“ทั้งนี้บทความวิชาการและบทความวิจัย ที่ตีพิมพ์ในเล่มได้ผ่านการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการศึกษา จำนวนอย่างน้อย 2 ท่าน โดยกำหนดเผยแพร่ 3 ฉบับต่อปี คือ ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม – เดือนเมษายน ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม – เดือนสิงหาคม และฉบับที่ 3 เดือนกันยายน – เดือนธันวาคม ตนขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา นิสิต นักศึกษาและนักวิจัย ร่วมส่งบทความกันเข้ามา เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาคุณภาพของวารสารไทย ทั้งในด้านเนื้อหาและรูปแบบให้มีมาตรฐานระดับสากล”ปฏิบัติหน้าที่เลขาฯ คุรุสภา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตือนเกียรติบัตรอบรม e-Learning ก.ค.ศ. ใช้ต่อใบประกอบวิชาชีพไม่ได้

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อมูลปรากฏถึงเรื่องอบรมออนไลน์หลักสูตร e-Learning สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

บุก ศธ. บี้ 'ตรีนุช' ฟันจริยธรรมร้ายแรง 'ครูสาว' บูลลี่ 'ป๋าเปรม'

'ศรีสุวรรณ' บุกกระทรวงศึกษาธิการ บี้ 'ตรีนุช' เอาผิดจริยธรรมร้ายแรงครูบลูลี่ 'ป๋าเปรม' เผยมีผู้ใหญ่ใจดีจ่อมอบทุนการศึกษา 1 หมื่นบาท ให้นักเรียนที่กล้าอัดคลิปมาโพสต์