4ก.ค.65 – นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยหลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าวกำหนดใหม่ใช้สำหรับการคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษา เฉพาะสังกัดสพฐ.และให้ สพฐ.เป็นผู้รับผิดชอบงบประมาณในการดำเนินการสอบแข่งขัน พร้อมให้กำหนดวันและเวลาในการดำเนินการคัดเลือกทั้งในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) และสำนักงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) จากเดิมที่ให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) แต่ละจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ โดยกรณีที่ สพป. สพม. และ สศศ. กำหนดวันและเวลาในการรับสมัครพร้อมกันให้ผู้สมัครเลือกสมัครแห่งใดแห่งหนึ่งเท่านั้น เพื่อให้เกิดเป็นมาตรฐานเดียวกันและไม่ให้มีการวิ่งรอกสอบ นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการเลื่อนระดับตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไปและตำแหน่งประเภทวิชาการ
นางสาวตรีนุช กล่าวต่อว่า สำหรับการเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการเลื่อนระดับตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) นั้น เนื่องจากก.ค.ศ. ได้กำหนดแนวทางดำเนินการเลื่อนระดับตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ทั้งในตำแหน่งประเภททั่วไป และประเภทวิชาการ ก.ค.ศ. กำหนดให้ใช้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก.พ. กำหนด โดยการเลื่อนตำแหน่งประเภททั่วไป ให้ดำเนินการตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ส่วนการเลื่อนตำแหน่งประเภทวิชาการ ให้ดำเนินการตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร.1006/ว 10 ลงวันที่ 15 กันยายน 2548 ซึ่งการเลื่อนระดับตำแหน่งตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว ส่วนราชการและหน่วยงานการศึกษายังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและมีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด และในปัจจุบันสำนักงาน ก.พ. ได้ออกกฎ ก.พ. ว่าด้วยการย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2564 และแจ้งเวียนหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2564 รวม 3 ฉบับ ก.ค.ศ. พิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีการของ ก.พ. ที่ ก.ค.ศ. นำมาบังคับใช้โดยอนุโลมมีการปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง พร้อมทั้งนำกรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ. กำหนดได้ มาประกอบการพิจารณาเพื่อกำหนดเป็นหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด เพื่อให้สามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ให้เป็นตามมาตรฐานเดียวกันกับหลักเกณฑ์ และวิธีการที่ ก.พ. กำหนด เน้นหลักการกระจายอำนาจให้ส่วนราชการเป็นผู้วางระบบการคัดเลือกบุคคลอย่างเป็นระบบ มีความเป็นธรรมยิ่งขึ้น ประเมินโดยผู้บังคับบัญชาขั้นต้น ลดระยะเวลาการประเมิน และสามารถส่งเสริมผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีผลงาน โดยหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกเน้นความรู้ ความสามารถและความชำนาญในสายงานที่จะแต่งตั้งบุคคลให้เหมาะสมกับตำแหน่ง
“ประเด็นเรื่องการเลื่อนวิทยฐานะสายสนับสนุน 38 ค.(2) ต้องการให้มีมาตรฐานเดียวกัน โดยจากนี้ ก.ค.ศ.จะไปออกหลักเกณฑ์ใช้เวลาให้สั้นขึ้น เพื่อจะได้ประหยัดเวลา สร้างขวัญกำลังใจ มีความยืดหยุ่น และออกแบบให้เหมาะสมกับกับการทำงาน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่หลากหลาย ซึ่งเดิมให้หลักเกณฑ์ ของ ก.พ. แต่ ครั้งนี้ ทาง ก.ค.ศ.จะออกหลักเกณฑ์ขึ้นเพื่อความคล่องตัว”รมว.ศธ. กล่าว
ReplyForward |
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป.ป.ช. เปิดกรุสมบัติ 'อิทธิพล-ตรีนุช' กรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรี
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายอิทธิพล คุณปลื้ม กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม โดยนายอิทธิพล แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 81,162,381 บาท มีหนี้สินทั้งหมด 543,016 บาท
ตอกหน้า! ‘ตรีนุช’ บอกสพฐ.ไฟเขียวยืดหยุ่นชุดลูกเสือ-เนตรนารี ตั้งแต่กลางปี65
โรงเรียนในสังกัด สพฐ. ของกระทรวงศึกษาธิการทั่วประเทศ ได้มีการยืดหยุ่นการแต่งชุดลูกเสือ-เนตรนารี-ยุวกาชาด ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 ที่ผ่านมา
พระเอกมา ‘พิธา’ โดดป้องนักเรียนถูกครูใช้กรรไกรเดินกล้อนผม ขู่ ลงโทษครูที่ละเมิดสิทธิ
‘พิธา’ โดดป้องนักเรียนถูกครูใช้กรรไกรเดินกล้อนผมกว่าร้อยคนจนแหว่งและเสียทรง ตั้งคำถามว่า ‘ทรงผม’ เกี่ยวอย่างไรกับการเรียนรู้ ชูนโยบายก้าวไกล กฎโรงเรียนต้องไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน ต้องมีมาตรการลงโทษครูที่ละเมิดสิทธิ