'อัมพร'ติวเข้มจี้ครูปรับการสอนสู่Active Learning รร.ต้องมีหลักสูตรของตัวเองสอดคล้องบริบทพื้นที่

22มิ.ย.65-นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวภายหลังการประชุมสื่อสารสร้างความเข้าใจ โครงการขับเคลื่อนการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 เพื่อการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน ด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ให้แก่ครู ผู้บริหาร และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ว่า การประชุมครั้งนี้ตนต้องการสร้างความเข้าใจการขับเคลื่อนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในฐานะหน่วยงานรับนโยบายและเราเป็นผู้ปฎิบัติให้เป็นไปตามแผนปฎิรูปประเทศด้านการศึกษาด้วยการกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะ โดยที่ผ่านมาเรามีการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 มาแล้วและปรับปรุงอีกครั้งในปี 2560 ด้วยการเพิ่มสมรรถนะการเรียนรู้เข้าไปเพิ่มอีก 5 ตัวจากหลักงสูตรอิงมาตรฐาน

นายอัมพร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สพฐ.จึงต้องการขับเคลื่อนหลักสูตรไปสู่กระบวนการจัดการเรียนการสอนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อผู้เรียน โดยการดำเนินการในการขับเคลื่อนกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) นั้น สพฐ.จะมุ่งพัฒนาครูให้เข้าใจ ว่า อะไรคือการเรียนรู้ในรูปแบบ Active Learning และจะจัดการเรียนการสอนอย่างไรให้ตอบโจทย์การเรียนรู้ดังกล่าว ซึ่งแม้จะมีการอบรมครูไปแล้ว กว่า 4 แสนคน แต่เราต้องการให้เกิดการขับเคลื่นในการปฏิบัติเรื่องนี้อย่างจริงจัง ดังนั้นครูและผู้บริหารจะต้องกลับไปปรับปรุงหลักสูตรของสถานศึกษาให้มุ่งสู่การเป็นสมรรถนะ ซึ่งทุกโรงเรียนจะต้องไปทำหลักสูตรของสถานศึกษาตัวเองให้เหมาะสมตามบริบทของพื้นที่ เช่น โรงเรียนในพื้นที่ภาคใต้มีการอนุรักษ์เรื่องวัฒนธรรมโนราห์ โรงเรียนก็ต้องมุ่งทำหลักสูตรท้องถิ่นให้เด็กได้เรียนรู้วัฒนธรรมของตัวเอง เป็นต้น จากนั้นเมื่อได้หลักสูตรสถานศึกษาที่เป็นหลักสูตรของตัวเองแล้วครูจะต้องนำหลักสูตรไปคลี่ เพื่อกำหนดหน่วยการเรียนออกแบบการวัดและประเมินผล เพื่อให้เกิดการประเมินผลสัมฤทธิ์ของเด็กที่แท้จริงว่าเด็กเรียนไปแล้วเกิดสมรรถนะการเรียนรู้แบบไหนอย่างไร

“จากนี้ไปครูต้องปรับแผนการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ และการวัดประเมินผลใหม่ให้สอดรับกับการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning เพราะสมัยก่อนครูจะต้องยืนสอนอยู่หน้ากระดาน เป็นผู้บอกความรู้ แต่จากนี้ไปครูต้องเป็นคนอำนวยการ และวิธีการแสวงหาความรู้เด็กต้องทำเอง โดยสิ่งเหล่านี้ที่เราอยากให้เกิดขึ้น ในส่วนเขตพื้นที่ ผอ.โรงเรียนจะต้องปรับการส่งเสริมสนับสนุนให้ครูในเรื่องการวัดและประเมินผลด้วย เพราะสุดท้ายแล้วจะทำให้เกิดการขับเคลื่อนการกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning อย่างแท้จริง”เลขาฯ กพฐ.กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

16 พ.ค.เปิดเทอมแน่แต่ให้สิทธิ์โรงเรียนเลื่อนหากมี 'โควิด-ฝุ่นพิษ-อากาศร้อน'

รัฐบาลย้ำ สพฐ.พร้อมเปิดเทอม 16 พ.ค. นี้ กำชับผู้บริหารโรงเรียนปรับรูปแบบการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม คำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นสำคัญ

สพฐ.ทำโครงการเงินอุดหนุนรายหัวลดความเหลื่อมล้ำการศึกษา

โฆษกรัฐบาลเผย สพฐ.ทำโครงการสนับสนุนเงินอุดหนุนรายหัว อนุบาล – ประถม – มัธยม – ปวช. พร้อมเงินสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ ลดภาระผู้ปกครอง

"เสมา1" มอบ สพฐ. ใช้ระบบไอทีทำใบ ปพ.5 ช่วยลดขั้นตอนเอกสารของครูผู้สอน ใบสำคัญด้านการศึกษา หวังก้าวสู่องค์กรดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้มีนโยบายลดภาระครู ซึ่งจะเร่งผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หลุดกรอบการทำเอกสารของครูผู้สอนแบบเดิม

"รมช.สุรศักดิ์" ผนึกกำลัง​ สพฐ. ลงพื้นที่กระบี่ ย้ำโรงเรียนต้องปลอดภัย อาหารกลางวันต้องได้คุณภาพ พร้อมดันนโยบาย "เรียนดี มีความสุข" ต่อเนื่อง

เมื่อวันอาทิตย์​ที่ 21 มกราคม 2567 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ จ.กระบี่