สกศ. เร่งสร้างธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ หวังเป็นหน่วยงานกลาง เหมือนธนาคารแห่งประเทศไทย สร้างมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ สามารถเชื่อมโยงการศึกษาได้ทั้งในและนอกระบบ ทั้งระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวะ อุดมศึกษา หวังการเรียนรู้ตลอดชีวิตเกิดขึ้นได้จริง
นายอรรถพล สังขวาสี เลขาธิการสภาการศึกษา (เลขาฯ สกศ.) กล่าวว่า ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้ดำเนินการศึกษา วิจัยปฏิบัติการ ทดลองนำร่อง ค้นหาต้นแบบ พัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มแบบข้ามมหาวิทยาลัยแพลตฟอร์มแรกของประเทศไทย โดยมีการดำเนินงานระบบธนาคารหน่วยกิต (Academic Credit Bank) หรือเครดิตแบงก์ หลากหลายรูปแบบ และขยายผลมาอย่างต่อเนื่อง 3 ปีเต็มนับแต่ปี 2563 ขณะนี้การขับเคลื่อนการดาเนินงานดังกล่าว มีความก้าวหน้าไปมากในหลายมิติอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นการรับนักเรียน/นักศึกษาเข้าสู่ระบบธนาคารหน่วยกิตได้เกิดขึ้นจริงในหลายมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโยบีราชมงคลธัญญบุรี เปิดรับเข้าระบบธนาคารหน่วยกิตมากกว่า 20 สาขาวิชา และในส่วนนี้ สามารถสะสมข้ามมหาวิทยาลัยในกลุ่มมหาวิทยาลัยราชมงคล 9 แห่ง 36 วิทยาเขต เชื่อมโยงกันด้วยดิจิทัล แพลตฟอร์ม และอาชีวศึกษาขณะนี้ได้มีการปรับหลักสูตรฐานสมรรถนะโดยเชื่อมโยงกับกรอบคุณวุฒิวิชาชีพ และเริ่ม ระบบธนาคารสะสมหน่วยกิตแล้ว
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สกศ.ยังได้ศึกษาแนวโน้มความต้องการกำลังคนโดยยึดพื้นที่เป็นฐานของ สกศ.พบว่า การเชื่อมโยงธนาคารหน่วยกิตทั้งระบบจะเร่งให้เกิดระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประเทศ โดยระบบธนาคารหน่วยกิตจะเกิดได้ต้องการการมีส่วนร่วม และยอมรับมาตรฐานร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานเทียบโอน และจะต้องมีหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบดูแลโดยตรง อีกทั้งต้องมีความหลากหลาย ทั้งในเรื่องรูปแบบการ ประเมิน การเทียบโอนและการดำเนินงาน และหน่วยงานกลางดังกล่าว จะต้องมีความเป็นกลาง เป็นที่ยอมรับของหน่วยงานเทียบโอนต่างๆ และสาธารณชน เพื่อให้เกิดการยอมรับซึ่งกันและกัน อีกทั้งจะต้องเชื่อมโยง การศึกษาได้ทั้งระบบทั้งพื้นฐาน อาชีวศึกษา อุดมศึกษา และเชื่อมโยงการศึกษาได้ทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย รวมถึงหน่วยงานนอกการศึกษาด้วย
“อย่างไรก็ตาม สกศ.จะดำเนินงานให้มีธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติที่สามารถ ดำรงความเป็นหน่วยงานกลางในลักษณะเดียวกับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อให้เกิดการยอมรับระหว่างกัน และเชื่อมั่นในระบบธนาคารหน่วยกิตและช่วยให้เกิดระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประเทศได้ต่อไป”นายอรรถพลกล่าว