นักศึกษาม.รามคำแหง หอบหลักฐานยืน รมว.อว ตั้งกก. ตรวจสอบ 'สืบพงษ์' ขาดคุณสมบัติการเป็นอธิการบดีหรือไม่ จากเหตุศาลฎีกาฯพิพากษายึดทรัพย์-คัดลอกผลงานตนเอง ฝ่าฝืนจริยธรรมวิชาชีพ สกว.
2พ.ค.2565- เมื่อเวลา 11.00น. กลุ่มนักศึกษาปกป้องรามคำแหง นำโดย นายชาญณรงค์ โชติชนะ นำหลักฐานเข้ายื่นหนังสือถึง นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในฐานะผู้บังคับบัญชา เพื่อขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดี ขาดคุณสมบัติการเป็นอธิการบดีหรือไม่ ผ่านเจ้าหน้าที่กระทรรวงอว.โดยเนื้อหาในหนังสือมีรายละเอียดดังนี้
1.กรณีการกระทำความผิดกฎหมายโดยร่วมกับนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ซ่อนเร้นและปิดบังทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาถึงที่สุดแล้ว ตามคำพิจารณาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ อม. 27/2560 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 210/ 2560 วันที่ 26 กันยายน 2560 และศาลฎีกาได้พิพากษายึดทรัพย์ที่ครอบครอง โดยนายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ ตกเป็นของแผ่นดิน แล้วตามคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลข 469/2561 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 อันได้แก่ที่ดินสองแปลง หมายเลขโฉนดที่ดินเลขที่ 52022 และโฉนดที่ดินเลขที่ 52023 ตำบลบางปลากด อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก กรณีดังกล่าวถือว่านายสืบพงษ์ฯ เป็นผู้ร่วมกระทำความผิด้วยหรือไม่
ดังนั้นเมื่อนายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นอธิการบดี ได้มีการรับรองคุณสมบัติ ตนเองว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีคุณสมบัติข้อใดที่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับ มหาวิทยาลัยรามคำแหงว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้บริหาร พ. ศ. 2562 ซึ่งเป็นการรับรองอันเป็นเท็จใช่หรือไม่ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีมลทินมัวหมอง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ปกปิด ซ่อนเร้นทรัพย์สิน ของผู้กระทำความผิด ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พ. ศ. 2561 ดังนั้น นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ จึงขาดคุณสมบัติของการดำรงตำแหน่งอธิบการดี ตามข้อบังคับ มหาวิทยาลัยรามคำแหงว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามผู้บริหาร พ. ศ. 2562 ข้อ 7 (4) ที่ระบุว่า “ผู้บริหารต้องไม่มีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามดังนี้ ...(4) เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดี หรือกระทำการอันเป็นการกระทำผิด จรรยาบรรณอย่างร้ายแรง”
2. กรณีที่นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ ฝ่าฝืนจริยธรรมวิชาชีพวิจัยและแนวทางปฏิบัติ ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ว่าด้วยความประพฤติ ผิดจรรยาวิชาชีพวิจัย พ.ศ. 2555 ที่ระบุว่า การประพฤติผิดจรรยาบรรณ วิชาชีพวิจัย .....(2) การคัดลอกผลงานของตนเอง โดนนักวิจัยคัดลอก หรือนำผลงานของตัวเอง ที่เหมือนเดิม ลึกเกือบเหมือนเดิม หรือนำมาเพียงบางส่วนกลับมาใช้อีกครั้ง การอ้างถึงผลงานเดิมของตน รวมทั้งนำผลงานมารายงาน เพิ่มเติมหรือปรับแต่งให้ต่างไปจากเดิม เพื่อทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง หรือเข้าใจว่าเป็นผลงานค้นพบใหม่จนเกิดความผิดพลาด รายการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล ปรากฏว่านายสืบพงษ์ ปราบใหญ่และคณะได้ทำการคัดลอกผลงานตนเอง โดยมีเจตนาอย่างชัดแจ้งที่ต้องการให้ผู้อื่นเข้าใจว่า ผลงาน 2 ชิ้นที่มีเนื้อหาเหมือนกัน เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นผลงานใหม่
โดย 1) มีการเปลี่ยนชื่อเรื่องบทความทั้งสอง ไม่ให้เหมือนกัน และ 2) สลับชื่อคณะผู้วิจัยหรือผู้เขียนบทความ เพื่อให้เข้าใจว่าเป็น คนละผลงาน การกระทำดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้ออกประกาศกำหนดให้การคัดลอกผลงานตนเองไปลงตีพิมพ์ หรือเผยแพร่ในหลาย ๆ แห่งโดยไม่มีการอ้างอิงถือว่าเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณวิชาชีพวิจัย ซึ่งนายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ ในฐานะที่เคยเป็นผู้บริหารมหาวิทยาลัย และเป็นประธานสภาอาจารย์ และเป็นคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย ควรจะต้องตระหนักในบรรทัดฐานแห่งความซื่อสัตย์สุจริตและจรรยาบรรณในการวิจัยเป็นอย่างดี การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมของความเป็นอาจารย์ สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียง ให้แก่มหาวิทยาลัย เป็นการตบตาวารสารทั้ง 2 ฉบับที่ตีพิมพ์บทความของตน จนอาจทำให้สถานะของสารดังกล่าว ได้รับความเสียหายในการจัดอันดับ และเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2547 หมวด 5 วินัยและการรักษาวินัยมาตรา 39 มาตรา 40 มาตรา 42 และมาตรา 44
“จากกรณีดังกล่าวเพื่อให้เกิดความถูกต้องชัดเจน นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ จะได้หลุดจากมนทินมัวหมอง จากการวิพากษ์วิจารณ์ การบริหารงานมหาวิทยาลัยจะได้เป็นไปอย่างราบรื่น เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงจึงเรียนมายังท่านรัฐมนตรี เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมหารตรวจสอบให้กรณีดังกล่าว”หนังสือระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ชาญชัย' จ่อยื่นศาลฎีกาฯครั้งที่ 3 เอาผิดเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำ 'ทักษิณ' เข้าคุก
'ชาญชัย' แจงข้อเท็จจริง 2 คำร้องต่อศาลฎีกาการเมือง 2 ครั้ง เหตุใด 'ทักษิณ' จึงไม่ถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาลแม้แต่วันเดียว ศาลชี้ให้ดูประเด็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทำผิดกฎหมายเรื่องใด เผยรวบรวมพยานหลักฐานได้50% จ่อยื่นครั้งที่ 3 เอาผิดเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำ'ทักษิณ'เข้าคุก
'อ.เอนก' ชวนย้อนรอยเส้นทาง Trade Route เส้นทางการค้าโลก ณ คอคอดกระ
ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เอนก เหล่าธรรมทัศน์ Anek Laothamatas ว่า
'ชาญชัย' จี้ 'ภูมิธรรม-เศรษฐา' ยึดทรัพย์พร้อมตามตัว 'ยิ่งลักษณ์' กลับมารับโทษ
'ชาญชัย' แนะ 'ภูมิธรรม-เศรษฐา' ช่วยตามตัว 'ยิ่งลักษณ์' รับโทษคดีทุจริตจำนำข้าว ยุติปมข้าวค้างโกดัง ย้ำทำให้ถูกต้อง ถ้ายังเฉยผิดมาตรา 157 ติดตัวยาวแน่
‘วันนอร์’ ชี้ ‘บิ๊กโจ๊ก’ ร้องสอบ ‘ป.ป.ช.’ ส่งศาลฎีกาฯได้เลย ไม่ต้องยื่นสภา
ประธานสภา เผยยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนพฤติ ป.ป.ช. จาก บิ๊กโจ๊ก ชี้ช่องร้องศาลฎีกาได้เลย
อสส. เห็นชอบไม่อุทธรณ์ คดีศาลฎีกาฯนักการเมือง ยกฟ้อง 'ยิ่งลักษณ์' โยกย้าย 'ถวิล'
นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า อัยการสูงสุดเห็นชอบควรไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่พิพากษายกฟ้องนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ป.ป.ช.รอคำพิพากษาศาลฎีกาคดียิ่งลักษณ์ฉบับเต็มก่อนเคาะอุทธรณ์หรือไม่!
ป.ป.ช.รอคำพิพากษาตัวเต็มคดีโรดโชว์ “ยิ่งลักษณ์” ค่อยตัดสินใจอุทธรณ์หรือไม่ เผย ยังค้างอีก 1 คดี ปมมีมติจัดสรรไฟฟ้าให้เอกชน อยู่ในชั้นอนุกรรมการไต่สวน