31มี.ค.65- นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ รักษาการประธานกรรมการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวในการแถลงข่าวดีเดย์เริ่มประเมินสถานศึกษาปี 65 ด้วยระบบ QC100 ดันสถานศึกษานำผลประเมินไปใช้จริง ตอนหนึ่งว่า ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สมศ.ยังคงรูปแบบการประเมินผ่านระบบออนไลน์ 100% โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ได้ตั้งเป้าหมายจำนวนสถานศึกษาที่เข้ารับการประเมินคุณภาพภายนอกไว้จำนวน 18,000 แห่ง แบ่งออกเป็น การศึกษาปฐมวัย (ศูนย์พัฒนาเด็ก) 6,376 แห่ง ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 10,468 แห่ง การศึกษาขั้นพื้นฐาน ประเภทวัตถุประสงค์พิเศษ 326 แห่ง การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 360 แห่ง ด้านการอาชีวศึกษา 440 แห่ง และระดับอุดมศึกษา 30 แห่ง โดยในระดับอุดมศึกษา เราได้เปิดให้สถานศึกษาเป็นผู้เสนอขอรับการประเมินเอง ขณะนี้ประเมินเสร็จแล้วจำนวน 3 แห่ง และมีการยื่นเสนอขอรับประเมิน จำนวน 50 แห่ง ซึ่งการเข้ารับการประเมินยังคงยึดหลักการเป็นกัลยาณมิตรและไม่เป็นภาระแก่สถานศึกษา
นายสมคิด กล่าวต่อว่า โดยการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษา สมศ. ได้แบ่งการประเมินเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 คือ การประเมินผลและวิเคราะห์รายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) ที่ส่งผ่านหน่วยงานต้นสังกัดตามกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นการประเมินโดยพิจารณาจาก SAR โดยไม่ร้องขอเอกสารเพิ่มเติมจากสถานศึกษา เพื่อเป็นการช่วยลดภาระของสถานศึกษา ซึ่งเกณฑ์การประเมินจะพิจารณาแยกเป็นรายมาตรฐานตามการประกันคุณภาพภายใน (IQA) และสรุปผลการประกันคุณภาพภายนอกเป็น ควรได้รับการพัฒนาให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด และ เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ระยะที่ 2 คือ การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม เมื่อสถานศึกษาเข้ารับการประเมินในระยะที่ 1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีความประสงค์ให้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษา โดยส่งคำร้องผ่านคณะผู้ประเมินภายนอกมายัง สมศ. เพื่อให้มีการตรวจสอบหลักฐานและข้อมูลผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะพิจารณาแยกเป็นรายมาตรฐานตามการประกันคุณภาพภายใน (IQA) และสรุปผลการประกันคุณภาพภายนอกเป็น ควรได้รับการพัฒนาให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด และ เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการประเมินน้อยที่สุด เพื่อเป็นไปตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
“ด้วยวิธีการประเมินในรูปแบบออนไลน์ ทำให้ สมศ.สามารถประเมินโรงเรียนได้มากขึ้น ทั้งนี้ผมขอฝากสถานศึกษาทุกแห่งที่เข้ารับการประเมิน ว่า อย่าคิดว่า สมศ.เป็นฝ่ายตรงข้าม เราเป็นกัลยาณมิตร ประเมินเพื่อการพัฒนา และ สมศ.เองก็พยายามที่จะปรับปรุงให้ระบบการประเมินออกมาดีที่สุด และ สมศ.มีความพยายามที่จะทำให้เกิดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดยหวังจะทำให้มาตรฐานการศึกษาพัฒนาและดีขึ้น นั้นคือวัตถุประสงค์ของการเกิด สมศ. และจากข้อมูลขณะนี้ พบว่า สถานศึกษาปรับปรุงหลังเข้ารับการประเมินและดีขึ้นมีร้อยละ 57 และปัจจุบัน สมศ.ตั้งเป้าที่จะตอบคำถามสังคมให้ได้ ว่า หลังจากการประเมินแล้ว การศึกษาของประเทศดีขึ้นหรือไม่อย่างไร และสมศ.เองก็จะพัฒนาตัวเองเพิ่มเติมให้ตอบโจทย์สังคม”รักษาการประธานกรรมการ สมศ.กล่าว
ด้านนางสาวนันทา หงวนตัด รักษาการผู้อำนวยการ สมศ. กล่าวว่า สมศ. ยังคงเดินหน้าประเมินภายนอกเพื่อเป็นกระจกสะท้อนคุณภาพผลการจัดการศึกษาของสถานศึกษาทุกประเภท นำไปสู่การพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพของสถานศึกษาให้ดียิ่งขึ้น กำหนดช่วงเวลาที่จะเข้าประเมินภายนอกสถานศึกษาเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 เดือนตุลาคม 2564 – มิถุนายน 2565 เป้าหมาย 12,047 แห่ง และช่วงที่ 2 เดือนมิถุนายน 2565 – กันยายน 2565 เป้าหมาย 5,953 แห่ง โดยก่อนการประเมินทาง สมศ. ได้มีโครงการส่งเสริมสถานศึกษาและประสานความร่วมมือกับต้นสังกัด เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. ให้กับสถานศึกษาประเภทต่างๆ ที่จะเข้าประเมินในรูปแบบออนไลน์ FACEBOOK LIVE ซึ่งในปีนี้ได้จัดส่งเสริมสถานศึกษาไปแล้ว 25,450 แห่ง โดย สมศ. ยังคงดำเนินโครงการส่งเสริมฯ อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับหน่วยงานต้นสังกัด และสถานศึกษาให้ได้ตามกลุ่มเป้าหมาย พร้อมกันนี้ สมศ. ขอเชิญชวนสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย (ศูนย์พัฒนาเด็ก) และ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเข้าร่วมโครงการส่งเสริมฯ ที่จะจัดขึ้นครั้งที่ 2 ในวันที่ 4 – 5 เมษายน 2565 ผ่านทาง Facebook page : สมศ. นอกจากนี้ยังได้จัดอบรมคัดเลือกและพัฒนาผู้ประเมินภายนอกเพิ่มเติม เพื่อเป็นการสร้างผู้ประเมินให้เพียงพอกับเป้าหมายการประเมิน ควบคู่ไปกับการพัฒนาหลักสูตรอบรมผู้ประเมินภายนอกให้มีความรู้ความสามารถ ในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ SAR ได้อย่างถูกต้อง เข้าใจแนวทางและวิธีการประเมินคุณภาพภายนอก การให้ข้อเสนอแนะกับสถานศึกษา ตลอดจนการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศการประเมินคุณภาพภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ
“ล่าสุด สมศ.พัฒนาระบบ AQA ให้สถานศึกษาสามารถดาวน์โหลดหนังสือรับรองการประกันคุณภาพภายนอก(E – Certificate) ได้ด้วยตนเอง ภายหลังจากที่สถานศึกษาทำการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประเมินภายนอก ผ่านระบบ QC100 เพื่อนำผลมาปรับปรุงพัฒนาผู้ประเมินภายนอกให้มีคุณภาพต่อไป นอกจากนี้ ขอฝากถึงสถานศึกษาที่ได้รับการประเมินคุณภาพภายนอกไปแล้วนั้น ขอให้นำข้อเสนอแนะที่ได้รับจาก สมศ. ในด้านต่าง ๆ ไปใช้พัฒนาและยกระดับคุณภาพสถานศึกษาให้ดียิ่งขึ้น และสำหรับสถานศึกษาที่ยังไม่ได้รับการประเมินหรืออยู่ในกระบวนการประเมินนั้น สมศ. ขอย้ำว่าไม่ต้องกังวลว่าการประเมินคุณภาพภายนอกจะสร้างภาระเพิ่ม เพราะ การประเมินของ
สมศ. จะมุ่งเน้นตามบริบทของสถานศึกษาและสอดคล้องตามเกณฑ์การประกันคุณภาพภายใน” รักษาการผอ.สมศ.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ตาม กฎหมายแล้ว สมศ.ไม่มีหน้าที่ในการติดตามสถานศึกษาหลังจากที่เข้ารับการประเมินแล้ว แต่เราก็มีความต้องการที่จะดูแลให้ผลการประเมินเกิดความคุ้มค่า โดยการร่วมมือผ่านต้นสังกัดของสถานศึกษา ซึ่งมีการหารือร่วมกันในเรื่องการติดตามผล เน้นให้มีการขับเคลื่อนไปสู่ระดับเขตพื้นที่การศึกษา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“สมศ.” เปิดผลความสำเร็จ “โครงการติดตามผลการปฏิบัติงานของผู้ประเมินภายนอก”
สมศ. เปิดผลความสำเร็จการขับเคลื่อน “โครงการติดตามผลการปฏิบัติงานของผู้ประเมินภายนอก” พบสถานศึกษาพึงพอใจการทำงานของผู้ประเมินภายนอกกว่าร้อยละ 95
สมศ. ร่วมบันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ดร.นันทา หงวนตัด (กลาง) รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)
สมศ. ร่วมบันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ดร.นันทา หงวนตัด (กลาง) รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) นำคณะผู้บริหาร
“สมศ.” ประชุมเตรียมความพร้อมสถานศึกษา 42 แห่ง สร้างความเข้าใจสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการทดลองประเมินนำร่อง ตามกรอบแนวทางการประกันคุณภาพภายนอกสถานศึกษา
สมศ. ประชุมเตรียมความพร้อมให้กับสถานศึกษาจำนวน 42 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการทดลองประเมินนำร่องตามกรอบแนวทางการประกันคุณภาพภายนอกสถานศึกษา