“ครม.” ไฟเขียวร่างกฎหมายยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ถึงสิ้นปี 2566 หลังตลาดคริปโตเคอร์เรนซีบูมสุดเหวี่ยง
8 มี.ค. 2565 – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2565 มีมติอนุมัติร่างกฎหมายตามมาตรการบรรเทาภาระภาษีให้กับประชาชนในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล รวม 3 ฉบับ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี และเป็นการรองรับแนวทางการดำเนินการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเป็นการสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินและการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล
โดยร่างกฎหมายแต่ละฉบับมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. รวม 2 ฉบับ ได้แก่ 1. ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนคริปโตเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลใน Exchange ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2565 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566 และ 2. ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนเงินสกุลดิจิทัลที่ออกโดย ธปท. (Retail CBDC) ตามโครงการพัฒนาและทดสอบการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดย ธปท. สำหรับการใช้งานภาคประชาชน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2565 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566
และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร โดยมีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผลประโยชน์ที่ได้รับจากการโอนคริปโตเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัล เฉพาะซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุน เป็นจำนวนเท่ากับผลขาดทุนจากการโอนคริปโตเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลที่เกิดขึ้นในปีภาษีเดียวกัน ทั้งนี้เฉพาะผลประโยชน์และผลขาดทุนจากการโอนคริปโตเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลใน Exchange ตั้งแต่วันที่พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 มีผลบังคับใช้ (14 พ.ค. 2561) เป็นต้นไป
“การบรรเทาภาระภาษีสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น จะช่วยให้ผู้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และได้รับความเป็นธรรมในการเสียภาษีมากขึ้น รวมทั้งช่วยให้การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของนักลงทุนที่เกิดขึ้นใน Exchange ของประเทศไทยมีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัยและให้ประชาชนได้มีทางเลือกในการใช้เงินดิจิทัลในอนาคตต่อไป เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาคริปโตเคอร์เรนซีเติบโตขึ้นเป็นลำดับ มูลค่าการซื้อขายต่อวันจาก 240 ล้านบาท เป็น 4.8 พันล้านบาท มูลค่าสินทรัพย์จาก 9.6 พันล้านบาท เพิ่มเป็น 1.4 แสนล้านบาท ผู้ใช้บริการจาก 1.7 แสนราย เป็น 1.98 ล้านราย เรียกว่าเติบโตค่อนข้างมาก”รวมทั้งเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และรูปแบบการทำธุรกรรมต่าง ๆ มีความหลากหลายและปรับเปลี่ยนตลอดเวลา” นายอาคม กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.อนุมัติร่างประกาศ มท. กำหนดจำนวนคนต่างด้าวขอมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ.
ครม.อิ๊งค์ งัดข้อ กรรมการสิทธิฯ ปมโทษประหารชีวิต!
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
'นายกฯอิ๊งค์' ตอกย้ำ 'ทักษิณ' มีอิทธิพลเหนือรัฐบาล-เพื่อไทย
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เสียโอกาส การที่นายทักษิณออกมาสับแหลกพรรคร่วมรัฐบาล
จับสัญญาณยุบสภา! 'ทักษิณ' ตบะแตก ผลักการเมืองไทยสู่จุดพลิกผัน
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเมืองไทยมาถึงจุดพลิกผัน ก้าวสู่หนทางยุบสภา
'อิ๊งค์' ร่อนข้ามน้ำท่วมใต้ ยกครม.เยือนมาเลย์
นายกฯ เกาะติดน้ำท่วมใต้ ยืนยันลงพื้นที่แต่เป็นช่วงฟื้นฟู นำรมต.เยือนมาเลเซีย 15-16 ธ.ค. กระชับความร่วมมือระหว่างสองประเทศ