
โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ยินดีกรุงเทพฯ ติดอันดับ 6 เมืองจุดหมายจัดประชุมนานาชาติระดับโลก พร้อมส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศให้พร้อมต่อยอด
24 ก.พ.2565 - นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่กรุงเทพมหานครได้รับการจัดอับดับที่ 6 ของเมืองจุดหมายจัดการประชุมนานาชาติระดับโลก จากรายงานดัชนีชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของเมืองที่เป็นจุดหมายจัดการประชุมนานาชาติ ประจำปี 2564 (International Convention Destination Competitive Index 2021) ด้วยคะแนน 642.1 จากทั้งหมด 101 เมืองทั่วโลก (International Convention Destination 2021) ซึ่งจัดทำโดยบริษัท GainingEdge บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลกด้านอุตสาหกรรมไมซ์(Meeting, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions: MICE) ซึ่ง 10 อันดับแรกของโลก ได้แก่ ปารีส นิวยอร์ก สิงคโปร์ ปักกิ่ง โตเกียว กรุงเทพฯ ลอนดอน บาร์เซโลนา อิสตันบูล และวอชิงตัน ตามลำดับ
ทั้งนี้กรุงเทพฯ ได้ขยับขึ้นมา 2 อันดับ จากเดิมอันดับ 8 ในปี 2563 และเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กรุงเทพฯ จะอยู่ในอันดับ 4 ของเมืองในทวีปเอเชียยอดนิยม (Top Asian Metropolises) ดังนี้ สิงคโปร์ ปักกิ่ง โตเกียว กรุงเทพฯ ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ กัวลาลัมเปอร์ และโซล สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการจัดการประชุมของประเทศไทยที่มีศักยภาพในการจัดประชุมทุกระดับ เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
โฆษกรัฐบาลกล่าวเพิ่มเติมว่า รายงานผลการจัดอันดับดังกล่าว ใช้การวิจัยและรวบรวมข้อมูลจากจากรายชื่อเมืองที่มีการจัดประชุมนานาชาติมากที่สุดในแต่ละปีของสมาคมการประชุมและการประชุมนานาชาติ (International Congress and Convention Association: ICCA) จากนั้นได้ประเมินคุณภาพของปัจจัยที่สำคัญในแต่ละเมือง ซึ่งพิจารณาใน 3 ปัจจัยหลัก และ 11 องค์ประกอบย่อย คือ 1. ด้านสุขอนามัย (Hygiene Factors) ได้แก่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนสำหรับการประชุม ข้อเสนอของโรงแรม/ที่พัก ตอบโจทย์การใช้งาน และการเดินทางทางอากาศซึ่งต้องมีทั้งเที่ยวบินระหว่างประเทศและในประเทศรองรับผู้เข้าร่วมการประชุม 2. ด้านความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantages) ได้แก่ เครือข่ายทางการตลาด ต้นทุนในการจัดเตรียมการประชุมคุ้มค่า และการเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว 3. ด้านการสร้างความแตกต่าง (Key Differentiators) ได้แก่ ระบบโลจิสติกส์ที่เคลื่อนย้ายได้สะดวก มูลค่าทางการตลาดของประเทศนั้น ๆ ขนาดของเศรษฐกิจโดยคำนวณจากค่า GDP/ประชากร สภาพแวดล้อมทางธุรกิจและ ความปลอดภัยและเสถียรภาพในประเทศ
นายธนกรกล่าวอีกว่า รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอุตสาหกรรมไมซ์สามารถนำมาพัฒนาจากธุรกิจท่องเที่ยว ต่อยอดไปสู่การให้บริการจัดประชุม งานแสดงสินค้าต่าง ๆ ที่สามารถนำเสนอที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศได้ด้วยเช่นกัน โดยมีสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) เป็นองค์กรภาครัฐที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์ ด้วยการอำนวยความสะดวกและพัฒนามาตรฐานการจัดงานในรูปแบบต่าง ๆ ให้มีศักยภาพในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะภายหลังช่วงสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งปัจจุบันการจัดการประชุมต่าง ๆ ได้กลับมาดำเนินการอีกครั้ง เช่น ในปีนี้ ประเทศไทยมีแผนการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (APEC 2022) ซึ่งมีการจัดการประชุมทุกระดับในแต่ละพื้นที่ของประเทศตลอดปี 2565 และงาน Thailand International Air Show ในปี 2566 ณ พื้นที่สนามบินอู่ตะเภา และพื้นที่เมืองการบินภาควันออกในเขต EEC ซึ่งถือเป็นงานแสดงอากาศยานและยุทโธปกรณ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
“นายกฯเชื่อมั่นว่าผลการจัดอันดับแสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ดีของไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ที่ไทยมีศักยภาพให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง เป็นการแสดงถึงความพร้อมของไทยในการรองรับการจัดงานทุกรูปแบบ ทั้งการประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การประชุมนานาชาติ และงานแสดงสินค้า ซึ่งนายกฯ มั่นใจว่า ทุกจังหวัดในประเทศไทยมีศักยภาพ เอกลักษณ์ และความโดดเด่นที่ต่างกัน ความพร้อม และสีสันของกรุงเทพฯ เหมาะสมกับการจัดการประชุม แต่อีกหลายจังหวัดใหญ่ๆของไทย ก็มีความพร้อมไม่แพ้กัน นอกจากนั้น แต่ละจังหวัดก็มีจุดเด่นแตกต่างกัน แต่ล้วนเป็นจุดขายสร้างรายได้ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรัฐบาลพร้อมส่งเสริม สนับสนุนความต่าง ดึงความโดดเด่นนั้นมาสร้างชื่อเสียงระดับโลก เชื่อมั่นว่าหนึ่งในเสน่ห์ของประเทศไทยก็คือคนไทยทุกคน” นายธนกรกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ แยกเรื่องถกจีบีซี กับทหารขาขาดราย 9 ชี้หน้าที่กองทัพตอบโต้
นายกฯ ชี้ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดรายที่ 9 คนละเรื่องกับประชุมจีบีซี ส่วนการตอบโต้เป็นหน้าที่กองทัพ
'ธนกร' สั่งปรับแผนช่วยผู้ประกอบการประสบอุทกภัยภาคใต้ 9 จังหวัด เน้นความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน อัดมาตรการ 3 ระยะครบวงจร เพื่อให้กลับมายืนได้อย่างเข้มแข็ง
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ทบทวนมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม กรณีประสบอุทกภัยเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยสามารถติดต่อไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด หรือธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
'นักประวัติศาตร์' ร่อนจม.เปิดผนึกถึงนายกฯแนะ 6 ขั้นตอน ขอคืน 'ปราสาทพระวิหาร'
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ จดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอคืนปราสาทพระวิหารและใช้ข้อสงวนสิทธิ์ เรียน ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี มีใจความว่า
เปิดเบื้องลึก! ทำไม 'ภูมิใจไทย' มีแคนดิเดตนายกฯแค่ 2 คน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทำไม ภูมิใจไทย มีแคนดิเดตเพียง 2 คน" โดยระบุว่า
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะดึง 4 กระทรวงแก้เผาอ้อยและพืชไร่
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะลงนาม 4 กระทรวง ควบคุมการเผาอ้อยและพืชไร่ ป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลงานเผาอ้อยเป็น 0% คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชนช่วงปีใหม่
สื่อทำเนียบฯ งดตั้งฉายา 'รัฐบาลอนุทิน'
สื่อทำเนียบฯ งดตั้งฉายา 'รัฐบาลอนุทิน' เหตุเป็นรัฐบาลรักษาการ หลังนายกฯยุบสภาฯ

