'พิชัย' ร่ายยาวเศรษฐกิจก่อนอัด 'บิ๊กตู่' หมดสภาพบริหารประเทศ

'พิชัย' โอดเศรษฐกิจแย่ ปี 2564 ขยายแค่ 1.6% ข้องใจสภาพัฒน์แถลงตัวเลขช้า  ยก 5 เหตุผลปี 2565 ฟื้นตัวต่ำ อัดบิ๊กตู่หมดสภาพอย่าดันทุรังอยู่

23 ก.พ.2565 - นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2564 ขยายตัวได้เพียง 1.6% เท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ อย่าเข้าใจผิดคิดว่าดี ต้องถือว่าย่ำแย่หนัก หลังจากที่ในปี 2563 เศรษฐกิจทรุดหนักตกไปถึง -6.2 % รวม 2 ปียังคงติดลบอยู่ถึง - 4.6% ซึ่งแสดงถึงความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์อย่างปฏิเสธไม่ได้ (ดีกว่าคาด ไม่ได้แปลว่าดี แต่หมายถึงคาดกันว่าจะเละกว่านี้) เพราะแม้ในปี 2563 ประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิดแต่ในปี 2564 ประเทศต่างๆ กลับฟื้นตัวกันได้หมดยกเว้นประเทศไทย เช่น สหรัฐฟื้นจากปี 2563 ที่เศรษฐกิจทรุด -3.5% มาขยายตัวถึง 5.7% ในปี 2564 หรือประเทศเกาหลีใต้ทรุด -0.85 % ในปี 2563 กลับมาขยายได้ถึง 4.28 % ในปี 2564 หรือประเทศสิงคโปร์ในปี 2563 เศรษฐกิจทรุดถึง - 5.4 % แต่ในปี 2564 ขยายได้ถึง 7.2 % เป็นต้น ยังไม่พูดถึงประเทศจีนที่ปี 2564 ขยายตัวได้ถึง 8.1% แต่ไทยกลับขยายตัวได้ต่ำเตี้ย แสดงถึงรายได้ของคนทั้งประเทศยังคงลดลง และยังต้องมาเจอกับภาวะแพงทั้งแผ่นดินที่ข้าวของแพงขึ้นมาก

นายพิชัยกล่าวว่า แปลกใจว่าเหตุใดสภาพัฒน์จึงแถลงตัวเลขเศรษฐกิจช้า ซึ่งปกติจะแถลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ แต่ติดวันมาฆบูชา ก็น่าจะแถลงวันที่ 17 หรือ 18 กุมภาพันธ์ แต่อาจเพราะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มาตรา 152 ในวันที่ 17-18 กุมภาพันธ์ เลยเลื่อนการแถลงตัวเลขใช่หรือไม่ น่าจะเพราะรัฐบาลอับอายและกลัวว่าจะถูกนำข้อมูลมาถล่มในการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 152 เพราะความล้มเหลวด้านอื่นๆ ก็หนักอยู่แล้ว ถ้าตัวเลขออกมาแบบนี้คงรับกันไม่ไหวแน่ นอกจากเศรษฐกิจปีที่แล้วจะยังคงหนักแล้ว เศรษฐกิจปีนี้ก็ยังไม่มีทิศทางที่จะดีขึ้นมากนัก โอกาสที่จะขยายตัวถึง 4% ตามที่รัฐบาลขายฝัน คงเป็นได้ยาก เหมือนที่รัฐบาลขายฝันตอนต้นปีที่แล้วว่าจะขยายได้ 4% แต่พอสิ้นปีขยายจริงได้เพียงแค่ 1.6% และปีนี้ก็คงไม่ต่างกัน โดยมี 5 เหตุผล ที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะขยายตัวได้ต่ำ ดังนี้

1.ราคาน้ำมันที่จะสูงขึ้นอีก ตอนนี้ราคาน้ำมันทะลุ $ 97 ต่อบาเรล เกือบแตะ $100 ต่อบาเรลแล้ว อีกไม่นานคงทะลุ $100 แน่ และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นไปอีก และราคาจะสูงไปอีกอย่างน้อย 6-9 เดือน หรืออาจจะเป็นปีๆ ได้เลย ราคาน้ำมันที่สูงจะเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับเศรษฐกิจไทย เพราะนอกจากจะทำให้ เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นแล้ว ยังจะทำให้ประเทศไทยต้องจ่ายเงินตราต่างประเทศมากขึ้นในการนำเข้าน้ำมัน โดยในปี 2564 ประเทศไทยต้องจ่ายค่านำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้นกว่า 4 แสนล้านบาท ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะเป็นสาเหตุที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้น้อยลง

2.ข้าวของแพงและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนลำบากเพราะรายได้ไม่เพิ่มแถมรายได้ยังลดลง แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยเพิ่งจะเริ่มต้นโดยในเดือนธันวาคม 2564 มีเงินเฟ้อ 2.17 % และ ในเดือนมกราคมปีนี้มีอัตราเงินเฟ้อที่ 3.23 % และน่าจะเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นไปอีก โดยที่อัตราเงินเฟ้อในต่างประเทศได้พุ่งขึ้นสูงมากเช่นในสหรัฐอัตราเงินเฟ้อเพิ่มถึง 7.5% สูงที่สุดในรอบ 40 ปี หรือ ในยุโรปอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 5% เป็นต้น โดยที่เศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจเล็กและเปิด ดังนั้นอัตราเงินเฟ้อของไทยจึงหลีกเลี่ยงได้ยากที่จะไม่เพิ่มสูงขึ้นจากผลกระทบของเงินเฟ้อของโลก ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อจะไปลดการขยายตัวของเศรษฐกิจ และ แบงก์ชาติเองก็ได้ออกมาเตือนแล้วว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายได้ไม่เกิน 3.4% จากปัญหาเงินเฟ้อนี้

3.อัตราดอกเบี้ยที่จะเพิ่มสูงขึ้น ตามอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศ โดยสาเหตุหลักมาจากที่เศรษฐกิจในสหรัฐดีมาก และก็มีเงินเฟ้อที่สูงมาก ธนาคารสหรัฐจึงมีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีกหลายหนในปีนี้ ซึ่งประเทศไทยคงจะหลีกเลี่ยงที่จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยไม่ได้ คงจะต้องขึ้นตาม มิเช่นนั้นเงินทุนอาจจะไหลออกนอกประเทศได้ ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะเป็นต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น และ เป็นภาระเพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจที่กำลังย่ำแย่อยู่แล้ว มีหนี้สงสัยจะเสียกว่า 2 ล้านล้านบาท และจะเพิ่มภาระของหนี้ครัวเรือนที่สูงกว่า 1.435 ล้านล้านบาทแล้ว ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยลดลง

4.รัฐบาลมีเงินเหลือน้อยในการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เนื่องมาจากรัฐบาลใช้เงินอย่างสิ้นเปลืองมาตลอดแต่ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ ทำให้ต้องขยายกรอบหนี้สาธารณะจาก 60% เป็น 70% ปัจจุบันมีหนี้สาธารณะใกล้ทะลุ 10 ล้านล้านบาทแล้ว ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการใช้เงิน มิเช่นนั้นอาจจะต้องขยายกรอบวงเงินกันอีก ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่ารัฐเก็บรายได้ได้เพียง 15-16% ของจีดีพีเท่านั้น ถ้ารัฐบาลกู้เงินมากจะไม่สามารถใช้หนี้ได้ การที่รัฐบาลเหลือกระสุนน้อยลงจะไม่มีเงินที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากนัก เศรษฐกิจไทยจึงจะขยายได้น้อยลง

5.คนไทยไม่มีเงินในการจับจ่ายใช้สอย ในขณะที่ประเทศอื่นเศรษฐกิจฟื้น ประชาชนเขามีรายได้เพิ่ม พอวิกฤตการณ์โควิดเริ่มจะผ่านพ้น คนของเขาจึงไปจับจ่ายใช้สอยกันมากเพราะมีรายได้เพิ่ม แต่คนไทยกลับตรงกันข้าม แม้อยากจับจ่ายใช้สอยแต่ไม่มีเงิน เพราะเศรษฐกิจไทยไม่ฟื้น ดังนั้นการที่จะคาดหวังว่าคนไทยจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจะเป็นไปได้ยาก จากรายได้ที่ลดลง แถมคนยังตกงานเป็นจำนวนหลายล้านคน การใช้จ่ายของประชาชนจึงไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้

นายพิชัยกล่าวว่า เป็น 5 สาเหตุหลักที่เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้น้อย และเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่เข้าใจ เพราะพรรคเพื่อไทยได้อภิปรายในสภาแล้ว แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบในเรื่องเหล่านี้เลย ซึ่งไม่มีทางเลยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะนำพาเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นกลับมาได้ การที่เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในแดนลบจากปี 2562 เป็นปีที่ 3 ติดกัน และอาจจะถึงปีที่ 4 ในปีหน้าเพราะความล้มเหลวในการบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์จะทำให้คนไทยลำบากกันอย่างสุดๆ ถ้าหาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่รู้ตัวว่าหมดสภาพในการบริหารประเทศแล้ว จากปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการเมืองภายในพรรครัฐบาลเอง ปัญหาข้อกฎหมาย 8 ปี แต่ก็ยังจะฝืน ประชาชนจะยิ่งลำบากกันมากขึ้น และจะทนกันไม่ไหว พล.อ.ประยุทธ์ต้องเจอกับปัญหาที่จะเพิ่มขึ้นทุกด้านซึ่งไม่น่าจะไปต่อได้แล้ว ขออย่าได้ฝืนต่อไปอีกเลย เพราะมีแต่จะแย่ลงเท่านั้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ลั่นหวังว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก ขอตรวจสอบปมซื้อขายบัตรผู้ติดตามในทำเนียบฯ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการซื้อขายตำแหน่งคณะผู้ติดตามภายในทำเนียบรัฐบาล ว่า ไม่เคยได้รับทราบข่าวนี้เลย เมื่อถามอีกว่าตรงนี้นายกฯจะมีการกำชับอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า อันนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว

'พีระพันธุ์' วอนม็อบรถบรรทุก ขอให้ใจเย็นรออีกหน่อย จะได้ใช้น้ำมันราคาถูก

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วงครึ่งหลังของปี 2567

'เศรษฐา' ชวนคนไทยเชียร์ตัวแทนทีมชาติไทยในโอลิมปิกปารีส 2024

นายกฯ ส่งกำลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาตัวแทนประเทศไทยร่วมแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ครั้งที่ 33 วันที่ 26 กรกฎาคม - 11 สิงหาคม 2567 นี้ เชิญชวนคนไทยร่วมเชียร์และรับชมถ่ายทอดสด