ทิสโก้ ชี้ความตึงเครียด “รัสเซีย-ยูเครน” กระทบต่อราคาน้ำมันและเศรษฐกิจโลกในวงจำกัด ด้านสหรัฐฯ จ่อยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่าน ฉุดราคาน้ำมันปรับฐาน กลับมาเทรดที่กรอบ 85 – 90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
23 ก.พ. 2565 – นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ปรับตัวขึ้นแรงจากราว 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในช่วงเดือนมกราคมมาอยู่เหนือ 90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในเดือนกุมภาพันธ์จากความกังวลต่อประเด็นความเสี่ยงที่รัสเซียจะบุกยูเครน ซึ่งอาจทำให้มีการตอบโต้จากประเทศตะวันตก นำโดยสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป โดยปัจจุบันรัสเซียเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบอันดับสองของโลกรองจากซาอุดิอาระเบีย และเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ไปยังยุโรป
อย่างไรก็ตาม มองว่าจะส่งผลกระทบจำกัดต่ออุปทานน้ำมันดิบโลก จาก 2 เหตุผล ได้แก่ 1.ยุโรปกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนพลังงานอย่างหนัก จึงไม่น่าเลือกใช้มาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานเพื่อตอบโต้รัสเซีย 2. มาตรการคว่ำบาตรสินค้าพลังงานที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียอย่างจำกัด
นอกจากนั้น ราคาน้ำมันดิบมีความเสี่ยงปรับฐานแรง หากสหรัฐฯ ยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน ดูมีความคืบหน้ามากขึ้น มีความเป็นไปได้ที่การเจรจาจะได้ข้อสรุปในช่วง 1 – 2 เดือนข้างหน้าเพิ่มสูงขึ้น คาดว่าอิหร่านจะสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันได้อย่างน้อย 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งอาจทำให้ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาเทรดอยู่ในช่วง 85 – 90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.ปณิธาน วิเคราะห์สถานการณ์ตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลตอบโต้กลับอิหร่าน
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง และการต่างประเทศ โพสต์คลิปสัมภาษณ์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมข้อความว่า อิสราเอลแถลงว่าการโจมตีอิหร่านสิ้นสุดลงแล้ว (พรุ่งนี้ต้องจับตาดูการเจรจาหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกันรอบใหม่ระหว่างฮามาสและอิสราเอลที่ Doha)