'สรรพากร' สั่งขยายเวลาชำระอากรแสตมป์ถึงสิ้นปี

“สรรพากร” ขยายเวลาการชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน สำหรับตราสารกระดาษและตราสารอิเล็กทรอนิกส์ เปิดช่องยื่นขอเสียอากรเป็นตัวเงินถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565

18 ก.พ. 2565 – นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรขยายกำหนดเวลาในการชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ และตราสารกระดาษ โดยตราสารอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 5 ลักษณะ ที่ได้จัดทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2562 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565 สามารถยื่นขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาด้วยแบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน ตราสารอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 18 ลักษณะ ที่ได้จัดทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. 2564 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565 สามารถยื่นขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาด้วยแบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน

ส่วนตราสารกระดาษ จำนวน 5 ลักษณะ (จ้างทำของ กู้ยืมเงินหรือการตกลงให้เบิกเกินบัญชีธนาคารใบมอบอำนาจ ใบมอบฉันทะให้ลงมติที่ประชุมของบริษัท และค้ำประกัน) ที่ได้จัดทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. 2563 ถึงวันที่ 30 ธ.ค. 2565 สามารถยื่นขอเสียอากรเป็นตัวเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยแบบขอเสียอากรเป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ (อ.ส.9)

นอกจากนี้ กรมสรรพากรได้เพิ่มลักษณะตราสารกระดาษอีก จำนวน 18 ลักษณะ ให้สามารถยื่นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ใด้ เพื่อให้มีจำนวนเท่ากับการเสียอากรเป็นตัวเงิน สำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์โดยตราสารที่ได้จัดทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ. 2565 (วันถัดจากวันประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา) ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565 สามารถยื่นขอเสียอากรเป็นตัวเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยแบบขอเสียอากรเป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ (อ.ส.9)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“กระทรวงการคลัง” ผุดอาคารสำนักงานและที่พักอาศัย ซอยสุขุมวิท 11

DAD ได้สิทธิ์พัฒนาอาคารสำนักงานและที่พักอาศัยของกรมสรรพากร ดีเดย์ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ 3 หน่วยงาน กรมสรรพากร กรมธนารักษ์ และ ธพส. เตรียมผุดอาคารขนาด 17 ชั้น ซอยสุขุมวิท 11 มูลค่าโครงการเฉียด 1,000 ล้านบาท ระยะเวลาเช่า 15 ปี

'วัชระ' ไล่บี้ ปปง. ยึดทรัพย์ 'โกฟุก ระนอง' เลี่ยงภาษีน้ำมัน สอบจนท.หากเอี่ยวต้องโดนด้วย

นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน