ส.อ.ท. ชงรัฐดึงนอนแบงก์-ไฟแนนซ์รถยนต์ เข้าโครงการ 'รถกระบะพี่ มีคลังค้ำ'

ส.อ.ท.ชงรัฐดึงนอนแบงก์-ไฟแนนซ์รถยนต์เข้าโครงการ ‘รถกระบะพี่ มีคลังค้ำ’ ให้ บสย. ค้ำกระตุ้นยอดขายในประเทศ จับตายอดผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

25 มี.ค. 2568 – นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์ในเดือน ก.พ.2568 มีทั้งสิ้น 115,487 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.62% เนื่องจากการผลิตรถยนต์เพื่อขายในประเทศอยู่ที่ 36,952 คัน ลดลงจากปีก่อน 21.26% และการผลิตเพื่อส่งออก อยู่ที่ 78,535 คัน ลดลง 9.48% ส่งผลให้ภาพรวมยอดผลิตรถยนต์ในช่วง 2 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.2568) มีจำนวนทั้งสิ้น 222,590 คัน ลดลง 19.29% เป็นการลดลงของการผลิตรถยนต์เพื่อขายในประเทศ 26.52% อยู่ที่ 69,011 คัน และการผลิตเพื่อส่งออกลดลง 15.56% อยู่ที่ 153,579 คัน

“ส.อ.ท.อยากเสนอให้ภาครัฐดึงธุรกิจการเงินที่ปล่อยสินเชื่อแก่ประชาชน แต่ไม่ได้รับเงินฝาก (นอนแบงก์) และบริษัทสินเชื่อรถยนต์ต่างๆ เข้าโครงการ ‘รถกระบะพี่ มีคลังค้ำ’ ที่ให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อซื้อรถกระบะด้วย เพิ่มเติมจากสถาบันการเงิน 7 แห่งที่อยู่ในโครงการ วงเงิน 5,000 ล้านบาท เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นรถประกอบธุรกิจของประชาชนและเกษตรกร โดยจะเริ่มรับคำขอตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2568 และอยู่ในช่วงงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเคอร์โชว์ ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2568 เพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์และส่งเสริมให้เอสเอ็มอีซื้อรถกระบะไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้” นายสุรพงษ์ กล่าว

ทั้งนี้ จะเห็นว่ายอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือน ก.พ. 2568 ก็ยังลดลงไปในทิศทางเดียวกันอยู่ที่ 49,313 คัน ลดลงจากปีก่อน 6.68% จากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินกับผู้ซื้อรถกระบะที่ยังคงลดลง 14.9% คงต้องรอยอดจองรถยนต์ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ที่เริ่มวันที่ 26 มี.ค.-6 เม.ย.2568 ที่สถาบันการเงินอาจปล่อยสินเชื่อรถกระบะมากขึ้น

นอกจากนี้ การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือนก.พ.2568 ส่งออกได้ 81,323 คัน ลดลงจากปีก่อน 8.34% เพราะจะมีการเปลี่ยนรุ่นรถของรถยนต์นั่งบางรุ่น จึงชะลอการผลิต ทำให้ส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลางและอเมริกาใต้ ยังคงต้องติดตามการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ารถยนต์ของสหรัฐอเมริกาในวันที่ 2  เม.ย.2568 ว่าจะมีประเทศไหนบ้าง และบางประเทศคู่ค้าลดคำสั่งซื้อเพื่อรอความชัดเจนในนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา บางประเทศคู่ค้ามีรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกเข้ามามีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น บางประเทศคู่ค้ามีกฎหมายควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากประเทศขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมการผลิตรถยนต์เดือนก.พ.2568 จะลดลง แต่หากพิจารณารายละเอียดจะพบว่ายอดผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งรถยนต์นั่งแบบแบตเตอรี่ (BEV) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 192.69% อยู่ที่ 2,242 คัน รถยนต์นั่งแบบปลั๊กอินไฮบริดเพิ่มขึ้น 311.65% อยู่ที่  2,227 คัน

เพิ่มเพื่อน