กพท.ดัน 2 โปรเจกต์หนุนธุรกิจ MRO ดันไทยฮับการบิน

กพท.กางแผนหนุนธุรกิจ Air Cargo สัญชาติไทย พร้อมร่างเครื่องแผนแม่บทดันอุตสาหกรรม MRO  หวังรองรับซ่อมบำรุงอากาศยานในและต่างประเทศ ช่วยลดการสูญเสียรายได้ในการส่งอากาศยานไปซ่อมบำรุงต่างประเทศชูไทยฮับการบินภูมิภาค

20 มี.ค. 2568 – พล.อ.อ.มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(CAAT) หรือ กพท. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีแนวคิดที่จะส่งเสริมธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Cargo) ให้เกิดผู้ประกอบการไทยใหม่ๆ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งจะทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง พร้อมกันนี้ กพท. ได้เตรียมจัดทำแผนแม่บทอุตสาหกรรมซ่อมบำรุงอากาศยาน(Maintenance Repair and Overhaul)   หรือ MRO เพื่อจะทำให้เครื่องบินที่ทำการบินเข้าไทย มีทางเลือกในการซ่อมบำรุงอากาศยาน โดยจะเร่งผลักดันทั้ง2 โครงการและคาดว่าจะสรุปแผนภายใน 1 ปี

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศสัญชาติไทยยังมีจำนวนน้อย กพท. จึงมีแนวคิดที่จะส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการใหม่ ๆ เติบโตในธุรกิจนี้ได้ เริ่มด้วยการลดสัดส่วนการถือหุ้นลง จากเดิมที่มีข้อกำหนดว่าต้องมีคนไทยถือหุ้น 51% เพื่อให้ผู้ประกอบการมีโอกาสในการรวบรวมทุน ค่อย ๆ เพิ่มสัดส่วนเงินทุนและเติบโตเป็นสายการบินขนส่งสินค้าสัญชาติไทยอย่างสมบูรณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำการศึกษาข้อกำหนดดังกล่าว 

“ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ เป็นธุรกิจที่ดำเนินการได้ทั้งขาเข้าและขาออก เราต้องทำให้การขนส่งสินค้าทั่วโลกมามีจุดเปลี่ยนหรือขนถ่ายสินค้าที่สุวรรณภูมิ ถ้าทำได้ตรงนี้จะกลาย ศูนย์กลางการบินของภูมิภาค (Aviation Hub)  เกิดนิเวศเศรษฐกิจในวงกว้าง  โดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมีหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอน เกิดการทำงานแบบ 24/7  (ทำงานตลอดเวลา) เพราะเครื่องบินที่ขึ้นขึ้น-ลง ต้องการความรวดเร็ว” พล.อ.อ. มนัส กล่าว

สำหรับส่งเสริมอุตสาหกรรมซ่อมบำรุงอากาศยาน หรือ MRO ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค กพท. เตรียมจัดทำแผนแม่บท ขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบัน ประเทศไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดค่อนข้างต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่าง ๆ ในเอเชียแปซิฟิก เบื้องต้นแผนแม่บทการส่งเสริมอุตสาหกรรมซ่อมบำรุงอากาศยานไทย จะประกอบไปด้วย การส่งเสริมการซ่อมบำรุงขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไปจนถึงการยกเครื่อง โดยพื้นที่ในเขตท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทางตอนใต้ขนาด 700  ไร่ อาจจะนำมาใช้ในการเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงขนาดเล็ก ขนาดกลาง

“เพื่ออำนวยความสะดวกสายการบินต่าง ๆ  ที่ต้องการเข้ามาตรวจเช็กเบื้องต้น เช่น เครื่องบินมาถึงไทยเย็นๆ ค่ำๆ ตรวจเช็กเบื้องต้น และบินออกไปช่วงเช้า  รวมไปถึงเป็นแหล่งฝึกอบรมทุกมิติเกี่ยวกับด้านการบิน เช่น ศูนย์ปฏิบัติการฝึกบินจำลองสำหรับวิศวกรรมการบิน ศูนย์ฝึกช่างซ่อมบำรุงอากาศยาน และที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา จัดเป็นพื้นที่การซ่อมบำรุงขนาดใหญ่หรือซ่อมแบบยกเครื่อง ทั้งนี้ อุตสาหกรรม MRO จะช่วยลดการสูญเสียรายได้ในการส่งอากาศยานไปซ่อมบำรุงต่างประเทศ และยังดึงดูดผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศให้เข้ามาร่วมลงทุน” พล.อ.อ. มนัส กล่าว

เพิ่มเพื่อน