
4 มี.ค. 2568- นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) จากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ว่า ในปี 2567 มีมูลค่าการส่งออก 83,285.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.83 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.05% คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิ์ 83.81% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไทยได้รับสิทธิประโยชน์ FTA ทั้งหมด
นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า โดยเป็นการส่งออกไปยังอาเซียนภายใต้ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง มูลค่า 31,438.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการใช้สิทธิ์ 78.35% รองลงมา คือ ความตกลงอาเซียน-จีน (ACFTA) มูลค่า 22,582.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วน 89.74% ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) มูลค่า 6,725.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วน 82.98% ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย (AIFTA) มูลค่า 6,209.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วน 66.40% และความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) มูลค่า 6,163.70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วน 59.05%
นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า สำหรับสินค้าที่มีการส่งออกภายใต้ FTA ในปี 2567 แยกเป็นสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป มีมูลค่าการใช้สิทธิ์ 23,030.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 27.65% ของมูลค่าการส่งออกภายใต้ FTA 12 ฉบับที่กรมติดตามการใช้สิทธิ์ จากทั้งหมด 14 ฉบับ ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันของไทย และสินค้าอุตสาหกรรม มีมูลค่าการใช้สิทธิ์ 60,254.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 72.35% โดยสินค้าที่มีการใช้สิทธิ์สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ยานยนต์สำหรับขนส่งของ (ดีเซล/กึ่งดีเซล น้ำหนักไม่เกิน 5 ตัน) 6,426.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 2.ทุเรียนสด 4,342.59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 3.ยางสังเคราะห์และแฟกติซที่ได้จากน้ำมัน 2,284.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 4.เครื่องจักรอัตโนมัติ 1,573.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 5.เนื้อไก่ปรุงแต่ง 1,556.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนั้น เครื่องซักผ้าอัตโนมัติ เป็นสินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในปี 2567 โดยมีสัดส่วนการเติบโตถึง 51.80% มีมูลค่าการใช้สิทธิ์ 1,573.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งออกไปภายใต้ FTA 7 ฉบับ โดย 3 อันดับแรกเป็นความตกลงอาเซียน มูลค่า 1,550.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อาเซียน-เกาหลี มูลค่า 7.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอาเซียน-อินเดีย มูลค่า 6.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ
นางสาวศศิกานต์ กล่าวอีกว่า นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันรัฐบาลได้เดินหน้าในการเจรจาทุกมิติกับนักลงทุนในต่างประเทศรวมทั้งอำนวยความสะดวกในการแก้ไขกฎหมายหรือข้อบังคับต่าง ๆ ที่เป็นข้อติดขัดของนักลงทุนและการค้าขายอย่างเต็มที่โดยตระหนักถึงความสำคัญของการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA เพื่อขยายตลาดการส่งออกให้กับผู้ประกอบการไทย เร่งเจรจาความตกลงการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้าใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 คาดว่าจะมี FTA เพิ่มอีก 3 ฉบับ ได้แก่ 1.ไทย-ศรีลังกา คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้ 2.ไทย-EFTA (สมาคมการค้าเสรียุโรป: สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์) คาดว่ามีผลบังคับใช้ในปี 2569 และ 3.ไทย-ภูฏาน ซึ่งได้เจรจาสำเร็จแล้วเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2568 และคาดว่าจะลงนามในเดือนเมษายน 2568
“รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจให้กับภาคธุรกิจและผู้ประกอบการไทย โดยไม่เพียงแค่ขยายตลาดส่งออกและลดต้นทุนทางภาษีเท่านั้น แต่ยังเตรียมมาตรการสนับสนุนเพื่อให้ภาคเอกชนสามารถใช้สิทธิ์ FTA ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการให้คำปรึกษา การอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร และการเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันในเวทีการค้าระหว่างประเทศได้อย่างแข็งแกร่ง ขอให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมและศึกษาการใช้ประโยชน์จาก FTA ฉบับใหม่ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าที่มั่นคงและยั่งยืน” นางสาวศศิกานต์ กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พาณิชย์โชว์ส่งออกเดือนพ.ย.โต 7.1%
พาณิชย์ปลื้มส่งออกเดือน พ.ย.68โต 7.1% มูลค่า 27,445.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวต่อเนื่อง 17 เดือนติด รวม 11 เดือน มูลค่า 310,706.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 12.6% ทำสถิตินิวไฮ คาดเดือน ธ.ค. หากทำได้ 2.5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ ทั้งปีโต 11.6% คาดทั้งปีโต 12.1% ส่วนปี 69 ประเมินขยายตัวติดลบ 3.1% ถึงบวก 1.1%
รัฐบาลปลื้ม 'กทม.' คว้าแชมป์เมืองคนเที่ยวมากสุดในโลก สั่งพร้อมรับช่วงปีใหม่
รัฐบาลปลื้ม 'กรุงเทพมหานคร' คว้าอันดับ 1 เมืองที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุด ประจำปี 68 สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรองรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้นช่วงเทศกาลปีใหม่
‘เอ็กซิมแบงก์’กางแผนงานปี69 ปั้มSMEภาคส่งออกเพิ่ม2พันราย
‘เอ็กซิมแบงก์’ ปักธงปี 69 ปั๊มลูกค้าเอสเอ็มอีภาคส่งออกเพิ่ม 2 พันราย ผ่าน 4 แนวทางบูมเต็มสูบ ชูธง Export Co-pilot ยกระดับชีดความสามารถการแข่งขันผู้ประกอบการให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ผ่านเครื่องมือการเงินและการบริหารความเสี่ยง พร้อมคาดส่งออกไทยปี 68 โต 10% ส่วนปี 69 เหลือ 0-2%
เอกฉันท์!‘กนง.’ลดดอกเบี้ย0.25% คงจีดีพีปี68ที่2.2%ครึ่งปีหลังชะลอ
เอกฉันท์! ‘กนง.’ มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จาก 1.50% ต่อปี เป็น 1.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที พร้อมคงจีดีพีปี 68 ไว้ที่ 2.2% แต่ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปี 69 เหลือ 1.5% ส่วนปี 70 ที่ 2.3%
‘ศุลกากร’ยันส่งออกน้ำมันไปลาวไม่ได้พุ่งจนผิดสังเกต
‘ศุลกากร’ แจงข้อมูลส่งออกน้ำมันไป สปป.ลาว ตรงกันทุกหน่วยงาน ยืนยันหลังตรวจสอบทุกด่านพบปริมาณไม่ได้เพิ่มขึ้นจนผิดสังเกต ย้ำชัดไทยงดส่งออกน้ำมันไปกัมพูชาแล้ว 100% ตั้งแต่ ก.ค. 2568 พร้อมขอความร่วมมือคู่ค้าไทยงดส่งต่อน้ำมันไปประเทศที่สาม
‘พลังงาน’ สั่งเข้ม! ตรวจสอบส่งออกน้ำมัน สกัดลักลอบส่งน้ำมันไปกัมพูชา
"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณการส่งออกน้ำมัน ทั้งทางบก-ทางเรือ พร้อมร่วมมือกองทัพเต็มที่ สกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา

