
‘จุลพันธ์’ ย้ำ Entertainment Complex ไม่เกี่ยวแก้กฎหมายพนันออนไลน์ ยันใช่แหล่งฟอกเงิน-ปัญหาสังคม ระบุรัฐบาลรัดกุมและคุมเข้มการดำเนินการ แจงยังไม่ได้กำหนดสัดส่วนกาสิโน แต่ต้องอยู่ในจุดที่ทำให้ธุรกิจเดินหนาได้ พร้อมหวังเป็นจุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย
31 ม.ค. 2568 – นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ว่า ขณะนี้กระบวนการพิจารณากำลังดำเนินอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้มีการหารือร่วมกับคณะกรรมการกฤษีการเพื่อยกร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งภาพรวมก็เป็นไปด้วยความราบรื่น ซึ่งกระทรวงการคลังได้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดตามข้อเท็จจริง พร้อมยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปในแนวทางนโยบายแห่งรัฐ
ทั้งนี้ ยืนยันว่ากาสิโน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาสถาบันบันเทิงครบวงจรเท่านั้น และไม่ได้มีการระบุสัดส่วนกาสิโนในร่างกฎหมายตั้งแต่แรก ซึ่งในประเด็นนี้ก็มีความเข้าใจที่ตรงกันแล้ว พร้อมยืนยันว่าโครงการนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการดึงพนันออนไลน์มาให้ขึ้นถูกกฎหมายตามที่มีการเข้าใจผิดกันในขณะนี้
“เรื่องกฎหมายพนันออนไลน์ไม่มีความเกี่ยวข้องกับEntertainment Complex เป็นคนละเรื่องกันเลย และผมก็ไม่ได้เลี่ยงบาลี โดยเฉพาะในส่วนของการแก้ปัญหาพนันออนไลน์ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นผู้ดูแลโดยตรง เป็นคนละเรื่องกันเลย และขอย้ำว่าไม่ได้มีการกำหนดสัดส่วนของกาสิโนตั้งแต่ต้น ส่วนจะกำหนดให้อยู่ที่เท่าไรก็กำหนดได้ เราไม่ซีเรียส แต่ต้องอยู่ในสัดส่วนที่ทำให้ธุรกิจขับเคลื่อนได้” รมช.การคลัง ระบุ
นายจุลพันธ์ ยังกล่าวถึงข้อกังวลว่าEntertainment Complex จะเป็นแหล่งฟอกเงินและปัญหาทางสังคม ว่า ไม่ควรใช้ความกังวลเหล่านี้มาเป็นจุดตั้งต้น ซึ่งจะอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ โดยมองว่าโครงการนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนเศรษฐกิจสำหรับประเทศไทย ส่วนอะไรที่เป็นจุดบกพร่อง หรือช่องโหว่ รัฐบาลจะดำเนินการให้รัดกุมและคุมเข้มเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการพูดถึงความเสี่ยง หรือผลกระทบทางสังคมมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้มีการวางกลไกเพื่อมาดูแลผลกระทบจากโครงการฯ มาโดยตลอด ขณะที่การลงทุนในโครงการนี้ที่ต้องใช้เม็ดเงินเป็นหลักแสนล้านบาท หากมันมีปัญหาเรื่องการฟองเงินจริง หรือไม่ถูกต้องนักลงทุนจะกล้ามาเสี่ยงเรื่องพวกนี้หรือไม่ เพราะหากทำผิดกฎหมายเรื่องการฟอกเงินในไทย นักลงทุนเหล่านั้นก็ต้องยกเลิกใบอนุญาต ผลกระทบทางธุรกิจมากกว่านั้น ดังนั้นจึงไม่อยากให้เรื่องนี้เหมือนโครงการรถไฟความเร็วสูงที่เดินหน้าไม่ได้
“ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญแค่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว โดยที่ผ่านมาได้มีการพูดถึงความเสี่ยง ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทางสังคมมาโดยตลอด ไม่ได้ปิดบังความจริง ส่วนประเด็นต่าง ๆ นั้น ขึ้นอยู่กับผู้วิจารณ์ว่าได้มีการอ่านสิ่งที่ผมพูดหมดหรือไม่ หากมีแนวความคิดที่เอาอุปสรรคเป็นตัวตั้งต้นของงาน ประเทศจะไม่สามารถเดินหน้าได้ วันนี้ประเทศไทยต้องมีจุดเปลี่ยน ซึ่งโครงการนี้เป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนที่รัฐบาลจะผลักดัน และเชื่อว่าEntertainment Complex จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเศรษฐกิจไทย” นายจุลพันธ์ กล่าว