'ดร.เรือบิน' ค้านแนวคิดรีดภาษีคริปโทฯ

'ไทยสร้างไทย' จี้รัฐศึกษาให้ดีหลังขุนคลังยืนยันเดินหน้าเก็บภาษีคริปโทฯ คาดทำเสียรายได้เข้ารัฐกว่า 1,040 ล้านบาท แนะเก็บภาษีต้องยึดหลักความเป็นธรรม-มีประสิทธิภาพ-ปฏิบัติได้ง่าย

26 ม.ค.2565 - นายธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ หรือ ดร.เรือบิน ผู้อำนวยการศูนย์ดิจิทัลเพื่อสร้างพลังของประชาชน พรรคไทยสร้างไทยกล่าวถึงกรณีที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันจะเดินหน้าเก็บภาษีสินทรัพย์ดิจิทัล หรือภาษีคริปโทเคอร์เรนซี ว่าต้องทบทวนมาตรการดังกล่าว ทันทีที่มีการประกาศแนวทางจัดเก็บภาษีคริปโทฯ เมื่อต้นเดือน ม.ค.ทำให้ปริมาณการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของ Exchange ในประเทศ ลดลงทันที 40% หากรัฐบาลยังดึงดันจะเดินหน้าเก็บภาษีคริปโทฯ แล้วทำให้นักลงทุนไทย มีความรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม หรือหันไปลงทุนในตลาดต่างประเทศที่เก็บภาษีในอัตราต่ำกว่า หรือปลอดภาษี คาดว่าจะส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลลดลงจากเดิมถึง 80% ซึ่งจากการประเมินภาษีนิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มที่รัฐจัดเก็บได้จาก Exchange ในประเทศที่จะลดลง เทียบกับภาษีบุคคลธรรมดาเฉลี่ยที่อัตรา 15% ที่จะเก็บได้เพิ่ม นำมารวมแล้วพบว่านโยบายนี้อาจทำให้รัฐสูญเสียรายได้กว่า 1,040 ล้านบาท ในปี 2565-2566 ซึ่งตัวเลขนี้ไม่นับรวมค่าเสียโอกาสที่อุตสาหกรรมบล็อกเชนจะพัฒนาต่อยอดภายในประเทศจนผลิตเม็ดเงินภาษีเพิ่มได้มากกว่านี้อีกเท่าตัว

“ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงการคำนวณเบื้องต้นจากข้อมูลที่หาได้จากแหล่งสาธารณะ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงการคลัง ศึกษาวิจัยจนได้ออกมาเป็นตัวเลขที่ชัดเจน ถึงผลบวกผลลบกับเม็ดเงินภาษีและเศรษฐกิจดิจิทัลเสียก่อนจะเดินหน้าต่อ และค่อยออกนโยบายภาษีตามหลักที่สำคัญทั้ง 3 ประการ คือ ความเป็นธรรม ความมีประสิทธิภาพ และการปฏิบัติได้จริง หลักความเป็นธรรม หากเดินหน้าเก็บภาษีคริปโทฯ เฉพาะธุรกรรมที่กำไร ไม่สามารถนำธุรกรรมที่ขาดทุนมาหักลบ เหมือนรายได้ประเภทอื่น ๆ ที่นำต้นทุน นำค่าใช้จ่ายมาหักลบได้ ก็ขาดความเป็นธรรม”

นายธรรม์กล่าวต่อว่า ในขณะที่หลักความมีประสิทธิภาพ ต้องคำนึงถึงการที่รัฐออกนโยบายแล้วสามารถจัดเก็บภาษีได้จริง ไม่เกิดความสูญเปล่าทางเศรษฐกิจ เพราะการที่ปริมาณซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลลดลง 40% หลังรัฐบาลประกาศจะจัดเก็บภาษีคริปโทฯ และนักลงทุนเริ่มย้ายไปเทรดต่างประเทศ ก็สะท้อนแล้วว่ากฎเกณฑ์ในการจัดเก็บภาษีคริปโทฯ นี้มีประสิทธิภาพหรือไม่ ส่วนหลักการการปฏิบัติได้จริง ที่นักลงทุนไทยต้องสามารถปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ได้ง่าย ทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้ให้บริการ ซึ่งการคำนวณภาษีจากธุรกรรมการเทรดคริปโทฯ มีความซับซ้อน จากความหลากหลายของคริปโทฯ โทเคนและผลิตภัณฑ์การเงินที่เกี่ยวข้อง ความหลากหลายของรูปแบบการลงทุน และจำนวน Exchange ที่ใช้เทรด อาจทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ที่เป็นรายย่อย ไม่สามารถปฏิบัติให้ถูกต้องได้ง่ายตลอดปีภาษี เพราะไม่ได้มีแผนกบัญชีเหมือนกับบริษัทที่มีความรู้ด้านบัญชี-ภาษีมาช่วยคำนวณ

“ผมอยากขอให้กระทรวงการคลังเอาตัวเลขจากการศึกษามาเปิดเผย กฎหมายใดหากออกมาแล้วไม่มีประสิทธิภาพ ต้องปรับแก้ไข ไม่ใช่ดันทุรังบังคับใช้แล้วเกิดความเสียหาย เพราะสุดท้ายหากพบว่านโยบายนี้ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จริงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ก็จะยิ่งซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลนี้ดำเนินนโยบายจน GDP ของไทยต่ำสุดในอาเซียน ต้องกู้ไปขยายเพดานหนี้ไป ในขณะที่ความเหลื่อมล้ำของไทยติดอันดับโลก ก็สามารถบ่งบอกได้แล้วว่านโยบายเศรษฐกิจที่ดำเนินการโดยรัฐบาลนี้ถูกทิศทางหรือไม่”นายธรรม์ธีร์กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'มาริษ' ขอบคุณนานาชาติเลือกไทยนั่งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

'รมว.กต.' ขอบคุณ หลังไทยได้รับเลือกนั่ง HRC วาระ 2568-2570 ยืนยันจะเป็นสะพานเชื่อมความแตกต่างของชาติสมาชิก แสดงความมุ่งมั่นส่งเสริมสถานะประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนไทยให้เป็นที่ยอมรับ

'ธนกร' หนุน 'สรวงศ์' ฟื้น 'คนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน' ยุคลุงตู่

'ธนกร' หนุน 'สรวงศ์' ฟื้นคนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกันสมัยรัฐบาล 'ลุงตู่' หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ผลักดัน 'ไทยเที่ยวไทย' ในประเทศบูมช่วงไฮซีซั่น เชื่อทำเงินสะพัดแน่ช่วงปลายปี

'เรืองไกร' จี้จุด กกต. ร้องสอบนายกฯ ตั้ง ภูมิธรรม เป็น รมว.กห. เข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริต

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึง กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) ว่า กรณีเสนอชื่อนายภูมิธรรม เวชยชัย