จำเป็นต้องใช้เงิน! 'คลัง' เสียงแข็งไม่ลด 'ภาษีน้ำมัน'

“คลัง” เสียงแข็งไม่ลด ภาษีน้ำมัน วอนขอเป็นทางเลือกสุดท้ายคุมราคาพลังงาน แจงรัฐบาลยังมีความจำเป็นต้องใช้เงิน พร้อมเดินหน้ารีดภาษีขายหุ้น-ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หลังโควิดคลี่คลาย เศรษฐกิจเริ่มฟื้น

24 ม.ค. 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังไม่มีนโยบายลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพื่อให้ราคาถูกลง เพราะเรื่องดังกล่าวรัฐบาลมีนโยบายชัดเจน โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลซึ่งมีส่วนสำคัญในภาคขนส่ง โดยจะใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งล่าสุดกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่งได้รับอนุมัติจาก ครม.ในการเปิดวงเงินเพิ่มเติม 2 หมื่นล้านบาท จากเดิม 1 หมื่นล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องให้เพียงพอดูแลระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศ

ทั้งนี้ มองว่า กองทุนน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิง ยังตรึงราคาน้ำมันได้ ไม่มีปัญหา และบทบาทของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง คือการดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมัน ซึ่งกองทุนเองก็มีรายได้จากเงินน้ำส่ง และเงินอุดหนุน ส่วนมาตรการภาษีคงเป็นหนทางสุดท้าย การจะลดภาษีต้องดูราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกว่าหากถึงจุดที่กองทุนไม่สามารถรับได้ มาตรการภาษีจึงจะเริ่มใช้ แต่คลังยืนยันว่าจะไม่เข้าไปอุดหนุนเกินความจำเป็น เพราะภาครัฐเองก็ต้องมีเม็ดเงินจากภาษี โดยเฉพาะเม็ดเงินจากภาษีน้ำมัน ดังนั้นเรื่องการลดภาษีน้ำมันจึงขอให้เป็นทางเลือกสุดท้าย” นายอาคม กล่าว

“ประวัติศาสตร์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ช่วงที่ลดภาษีน้ำมัน ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 100 เหรียญ ดังนั้นเรื่องการลดภาษีจึงต้องดูปัจจัยหลายตัว น้ำมันดิบที่ใช้ในประเทศมีหลายแหล่ง ทั้งเบรน เวสเท็กซัส ดูไบ ซึ่งปัจจุบันไทยใช้ราคาน้ำมันดิบดูไบเป็นหลักขณะเดียวกันกระทรวงพลังงานได้มีการคาดการณ์ว่า เมื่อพ้นช่วงหน้าหนาวแล้ว ทิศทางราคาน้ำมันดิบจะมีแนวโน้มลดลง” นายอาคม กล่าว

นอกจากนี้ กรมสรรพากรได้ดำเนินการเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (ภาษีคริปโต) มาตั้งแต่ปี 2561 แล้ว ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาธุรกรรมยังไม่มากจึงไม่มีปัญหาในการจัดเก็บ แต่ปี 2564 ที่ผ่านมาการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้มีผู้ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการสรุปแนวทางการยื่นแบบของผู้เสียภาษีดังกล่าวเกิดความสะดวกและถูกต้อง โดยยังมีการเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นปกติ ไม่มีการยกเว้นตามที่มีการร้องขอแต่อย่างใด

“การเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น กรมสรรพากรเก็บมาตั้งแต่ปี 2561 และก็ยังมีการเก็บปกติไม่มีการยกเว้น เพียงแต่หารือแนวทางให้การยื่นแบบง่ายขึ้นเท่านั้น” นายอาคม กล่าว

สำหรับการเก็บภาษีจากการขายหุ้นนั้น กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการศึกษา และรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะเกือบทุกประเทศในโลกมีการเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นทั้งนั้น เพียงแต่จะเก็บรูปแบบไหนเท่านั้น โดยมีการเก็บแบบภาษีธุรกิจเฉพาะเวลามีการซื้อขายเกิดขึ้น เก็บเป็นภาษีอากรแสตมป์ หรือการเก็บจากส่วนที่เป็นกำไรจากการซื้อขายหุ้น ซึ่งในส่วนของประเทศไทยก็จะดูรูปแบบที่ทำให้การเก็บภาษีหุ้นง่ายที่สุด

รมว.การคลัง ยังกล่าวถึงการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่เป็นภาระภาษีในปี 2564 และจะต้องเสียภาษีในปี 2565 ว่า ได้หารือกับกระทรวงมหาดไทยแล้ว จะไม่มีการลดหย่อน 90% หรือ เสียแค่ 10% ของภาระภาษีที่ต้องเสีย เหมือน 2 ปีที่ผ่านมา เพราะเป็นการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19ที่ตอนนี้สถานการณ์ทั้งการระบาดโควิดและเศรษฐกิจไทยเริ่มดีขึ้นแล้ว จึงให้มีการเก็บภาษีที่ดินเต็มจำนวน เพื่อที่จะไม่กระทบกับรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)เนื่องจาก 2 ที่ผ่านมา มีการลดหย่อนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำให้รายได้หายไปจำนวนมาก และไม่ได้รับการชดเชยจากสำนักงบประมาณด้วย