จ่อชง ครม.ขายสลากการกุศลหมื่นล้าน 'จุลพันธ์' ฟุ้งปลุกผีทุนODOS ส่งเด็กเรียนหนังสือ

‘จุลพันธ์’ ปักธงเตรียมชง ครม. เดินเครื่องขายสลากการกุศล 11 ล้านฉบับ วงเงิน 10,000 ล้านบาท นำเงินฟื้นนโยบายทุน ODOS ยุคทักษิณ ส่งเด็ก-เยาวชนเรียนหนังสือ เมินข้อครหาปลุกผีนโยบายเก่า แจงไม่กำหนดนโยบายด้วยศักดิ์ศรี ชี้เป็นประโยชน์กับประเทศก็พร้อมจะทำ

23 ธ.ค. 2567 – นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาโครงการสลากการกุศลชุดใหม่ วงเงิน 10,000 ล้านบาท ระยะเวลา 2 ปี จำนวน 11 ล้านฉบับ ซึ่งจะอยู่ในโควตาสลากปัจจุบันที่มีการพิมพ์ 100 ล้านใบ โดยเป้าหมายหลักจะนำเงินไปสนับสนุนเป็นทุนการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชน ในโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน (ODOS) รวมถึงนำเงินไปใช้ในภารกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์กับประเทศ เช่น ภารกิจด้านสาธารณสุขที่เคยดำเนินการในช่วงก่อนหน้า ก็ยังสามารถนำเงินในส่วนนี้ไปดำเนินการต่อได้ด้วย

ทั้งนี้ รมช.การคลัง ระบุว่า ยอมรับว่าโครงการ ODOS เป็นหนึ่งในโครงการที่เคยดำเนินการในยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และการนำโครงการดังกล่าวกลับมาดำเนินการอีกครั้ง ก็ไม่ได้รู้สึกกังวลว่าจะมีข้อครหาว่าเดินตามนโยบายเดิมของนายทักษิณแต่อย่างใด เพราะรัฐบาลมองว่าหากเป็นนโยบายหรือโครงการที่ดี ก็พร้อมที่จะนำกลับมาดำเนินการ เนื่องจากรัฐบาลยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ดังนั้นหากสุดท้ายแล้วพิจารณาว่านโยบายหรือโครงการนั้น ๆ เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ ก็พร้อมจะดำเนินการ

“ไม่ได้กังวล ไม่เคยรู้สึกอะไรเลยว่าการนำโครงการนี้กลับมาจะเป็นการเดินตามนโยบายเดิมของใคร เพราะเรามองว่าหากเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ เป็นเรื่องดีเราก็พร้อมจะทำ อย่างที่ผมเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ผมไม่ได้กำหนดนโยบายด้วยศักดิ์ศรี แต่เราเอาประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้งเป็นหลัก หากเป็นเรื่องที่ดีเราก็พร้อมจะทำ แค่นั้นเอง ซึ่งโครงการนี้เคยทำมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งสามารถช่วยเด็กและเยาวชนได้ ทำประโยชน์ได้จำนวนมาก แต่สุดท้ายเกิดการปฏิบัติ โครงการนี้ก็หายไป” นายจุลพันธ์ กล่าว

สำหรับหลักการในการออกสลากการกุศลในครั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาได้ภายในสัปดาห์นี้ หรืออย่างช้าในช่วงต้นปี 2568 และหลังจากนั้นคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลจะต้องดำเนินการตามกรอบของกฎหมาย โดยจะต้องเปิดห้วงเวลาในการยื่นคำขอ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน โดยจะอยู่ที่ราวเดือน ก.พ. 2568 จึงจะสามารถดำเนินการออกได้ ส่วนเรื่องการจัดสรรทุนการศึกษานั้น เป็นหน้าที่ของสำนักงาน ก.พ. ที่จะรับผิดชอบดูแลเรื่องทุนการศึกษา

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าเม็ดเงินจากโครงการสลากการกุศล วงเงิน 10,000 ล้านบาทนี้ ไม่ได้พุ่งเป้าหมายในการใช้แค่เรื่องการสนับสนุนด้านการศึกษาเท่านั้น แต่ยังสามารถนำเงินไปใช้ในโครงการอื่น ๆ ที่จำเป็น เหมาะสม และเป็นประโยชน์กับประเทศได้

เพิ่มเพื่อน