เฮ!! 'S&P' คงเครดิตไทยที่ BBB+ ลุ้นจีดีพีปีนี้โต 2.8% จับตาการเมือง

เฮ!! ‘S&P’ คงเครดิตประเทศไทยที่ BBB+ หลังประเมินปี 2567 เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง เคาะจีดีพีที่ 2.8% รับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นตัว ห่วงหนี้ภาครัฐปีหน้าบวม 3.3% หลังอัดมาตรการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต พร้อมจับตาเสถียรภาพการเมืองในประเทศ

12 ธ.ค. 2567 – นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P Global Ratings (S&P) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) โดยคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวและเติบโตจาก1.9 % ในปี 2566 เป็น 2.8% ในปี 2567 และ 3.1% ในปี 2568จากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริง (Real GDP Growth) จะเติบโตเฉลี่ย 3.0% ในช่วงปี 2567 – 2570 ขณะที่สัดส่วนการขาดดุลงบประมาณต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) เฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ที่ 3.3% ในช่วงปี 2568 – 2569

นอกจากนี้ S&P มองว่ารัฐบาลไทยจะยังคงเน้นการลงทุนตามยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) และโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง โดยคาดว่าการลงทุนของรัฐวิสาหกิจและความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Public-Private-Partnerships : PPP) จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และการลงทุนอย่างต่อเนื่องดังกล่าวจะยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป

สำหรับหนี้ภาครัฐบาลสุทธิต่อจีดีพี คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3% ในปี 2568 ซึ่งเป็นผลส่วนหนึ่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดย S&P คาดว่าการดำเนินงานตามมาตรการดังกล่าวจะทำให้การบริโภคของภาคเอกชนเติบโตขึ้น

ขณะที่ภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ 1.4% ในปี 2566 และคาดว่าตั้งแต่ปี 2567 – 2570 ดุลบัญชีเดินสะพัดจะยังคงเกินดุลเฉลี่ย 2.3% จากการฟื้นตัวของภาคการบริการ (Services Exports) เป็นสำคัญ

ทั้งนี้ ในส่วนของภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะ 2 ปีข้างหน้า โดยนับตั้งแต่เดือน ม.ค.– ต.ค. 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 28.8 ล้านคน หรือคิดเป็น 29.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากมาตรการของรัฐบาลในการยกเว้นการขอวีซ่าเข้าประเทศไทย

อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญที่ S&P จะติดตามสำหรับพิจารณาการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของประเทศไทย คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีรายได้ระดับเดียวกัน (Peers) รายได้ต่อหัว (Income per Capita) และเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ

เพิ่มเพื่อน