'แบงก์ชาติ' จ่อแถลงมาตรการแก้หนี้

‘แบงก์ชาติ’ กาง 3 ความไม่แน่นอน ทำนโยบายการเงินเผชิญความเสี่ยง ห่วงดันเงินเฟ้อเข้ากรอบยากขึ้น ปักธง 11 ธ.ค. นี้ เตรียมแถลงมาตรการแก้หนี้รายย่อยเพิ่มเติม

3 ธ.ค. 2567 -นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “Thailand’s Monetary and Financial Policy: Building Resiliency for an Uncertain World : นโยบายการเงินนำประเทศ รับมือบริบทโลกใหม่” ว่า การดำเนินนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า สิ่งที่โลกกำลังต้องเผชิญไม่ใช่ความเสี่ยง แต่เป็นเรื่องของความไม่แน่นอน ซึ่งสามารถคาดเดาและบริหารจัดการได้ยากกว่าว่าจะมี Shock อะไรเกิดขึ้น

ทั้งนี้ ความไม่แน่นอน ที่จะเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า มี 3 เรื่องสำคัญ คือ 1. การแยกตัวของการค้า (Geoeconomic fragmentation) เพิ่มขึ้น 2.นโยบายเศรษฐกิจประเทศหลัก โดยในช่วงโควิด-19 นโยบายไปในทิศทางเดียวกัน แต่หลังโควิด-19 นโยบายไปคนละทิศทาง และความเร็วที่ต่างกัน และ3.Markets & pricing of risk จะเห็นว่าหุ้น NVIDIA มีมูลค่าถึง 3.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหุ้นเพียงตัวเดียวมีมูลค่าตลาดมากกว่าตลาดหุ้นในประเทศแคนนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน เป็นต้น ดังนั้น การคำนวณความเสี่ยงของตลาดจะมีมากพอหรือไม่ เป็นเรื่องต้องติดตาม เพราะโอกาสที่โลกจะมีความเสี่ยง และความไม่แน่นอนมีมากขึ้น

“3 ปัจจัยนี้ จะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น จากเดิมที่คาดว่าจะเข้ากรอบได้ ก็ทำได้ยากขึ้น ดังนั้นการทำนโยบายการเงินก็จะยากขึ้น” นายเศรษฐพุฒิ กล่าว

สำหรับการดำเนินนโยบาย Resiliency ไม่ใช่แค่เสถียรภาพ แต่กว้างกว่านั้น คือ จะต้องมีความทนทาน ยืดหยุ่น ล้มแล้วลุกเร็ว ปรับตัว แต่ก็หนีไม่พ้นเรื่องของเสถียรภาพ ซึ่งเศรษฐกิจจะยืดหยุ่นได้ ต้องมี 3 องค์ประกอบ ได้แก่

1.เสถียรภาพ (stability) โดยนโยบายการเงินจะต้องเป็นนโยบายที่แข็งแรง เหมาะสมกับทุกสถานการณ์ จะช่วยเรื่อง Resiliency ได้ดีกว่า เพราะไม่ได้ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว รวมถึงทำนโยบายโดยดูจาก Outlook Dependent มากกว่า Data Dependent เพราะจะมีปัจจัยรบกวนเข้ามา ซึ่งจะทำให้นโนบายขาดเสถียรภาพ

2.มีภูมิคุ้มกันทางการเงิน (buffer) และทางเลือกอื่น ๆ เช่น หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ธปท.ได้ออกมาตรการ Responsible Lending และภายในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ จะมีการประกาศมาตรการแก้หนี้ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยเพิ่มเติม

3.เติบโตจากโอกาสใหม่ (digital & transition) โดย ธปท.ได้มีการวางรากฐานตามกระแสโลกใหม่ เช่น ระบบชำระเงินที่หลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงต้องการเชื่อมระบบการชำระเงินไปสู่การให้สินเชื่อด้วย โดยผ่านโครงการ Your Data หรือการเพิ่มธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) ที่จะมีการประกาศรายชื่อกลางปี 2568 และสามารถเริ่มดำเนินงานได้ภายในปี 2569

เพิ่มเพื่อน