ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้มีหนังสือชี้แจง จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวผ่านโซเชียลมีเดียกรณีข่าวลือว่าดีเอสไออยู่ระหว่างสอบสวนข้อกล่าวหาผู้บริหาร PTT และ OR ว่าได้ทำธุรกรรมการซื้อขายไบโอดีเซล B100 กับบริษัทในเครืออย่างผิดปกตินั้น โดยหนังสือชี้แจงระบุว่า
เรื่อง การชี้แจงข่าวตามที่ปรากฏในสื่อ
เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะกล่าวอ้างว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ “สรุปสำนวน เชื่อว่า” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (“ปตท.”) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (“OR”) (รวมเรียกว่า “ผู้บริหารฯ”) เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ลิงก์จากต่างประเทศเพื่อให้ดาวน์โหลดหนังสือจากกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น ปตท. ขอเรียนชี้แจง ดังนี้
1. ข่าวดังกล่าวมีที่มาจากการที่มีตัวแทนของกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาไม่สุจริต โดยได้เข้ามาถือหุ้นในบริษัทในเครือของ ปตท. เพียง 100 หุ้น เพื่อใช้เป็นฐานในการยื่นฟ้องคดีผู้บริหารฯ ต่อศาล โดยใช้ข้อกล่าวหาที่ปราศจากมูลความจริง และมีเจตนาสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของ ปตท. บริษัทในเครือ ปตท. และผู้บริหารฯ
2. ข่าวดังกล่าวมีเนื้อหาที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง หนังสือของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น เป็นเพียงเอกสารที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวนำมาอ้างเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ปัจจุบันศาลยังไม่ได้รับคำฟ้องดังกล่าวและกรมสอบสวนคดีพิเศษยังไม่ได้มีการสรุปสำนวนตามที่มีการการกล่าวอ้างในข่าวดังกล่าว แต่อย่างใด
3. ปตท.เชื่อว่าข่าวดังกล่าวเป็นความพยายามของกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาไม่สุจริต ซึ่งพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมทั้งพยายามกล่าวหาและโจมตีผู้บริหารฯ มาโดยตลอด โดยกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาไม่สุริตดังกล่าว ได้ยื่นเรื่องตามที่ปรากฎเป็นข่าวต่อ ปตท. ให้ ปตท. ตรวจสอบในปี 2566 ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบของ ปตท. และคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทจดทะเบียนในเครือ ปตท. ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอีก 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้ำปลีก จำกัก จำกัด (มหาชน) และบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อกล่าวหาแล้ว ผลการตรวจสอบปรากฏว่า 28 พฤศจิกายน 2567 ข้อกล่าวหาดังกล่าวปราศจากมูลความจริง ธุรกรรมที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการดำเนินธุรกิจตามปกติและเป็นไปเพื่อประโยชน์ของทั้ง OR และบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน)
4. การกระทำของกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาไม่สุจริตในการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ มีลักษณะเป็นการกระทำที่มีเป้าประสงค์เพื่อบ่อนทำลายชื่อเสียงของ ปตท. กลุ่มบริษัทในเครือของ ปตท. และผู้บริหารฯ ผ่านกลยุทธ์ที่สะท้อนถึงความไม่ไปร่งใส และเจตนาแอบแฝง เช่น การเริ่มต้นเผยแพร่หรือแชร์เอกสารผ่านบัญชี สื่อสังคมออนไลน์ที่เป็น “บัญชีอวตาร” ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นบัญชีปลอมหรือไม่สามารถระบุตัวตนผู้ใช้ไช้ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีการใช้ลิงก์จากต่างประเทศเพื่อให้ดาวน์โหลดหนังสือของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบและการดำเนินการทางกฎหมาย
5. ปตท. อยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมายเพื่อปกป้องชื่อเสียงของกลุ่ม ปตท. ขอให้นักลงทุนใช้วิจารณญาณในการพิจารณาข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ และหลีกเลี่ยงการเผขแพร่หรือส่งต่อข้อมูลที่อาจบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด สร้างความเสียหายต่อกลุ่ม ปตท. และส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น โดยสถานการณ์ดังกล่าวอาจเปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลบางกลุ่มแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ไม่เหมาะสม ในขณะที่ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ต้องผชิญกับผลกระทบด้านลบ นักลงทุนจึงควรตรวจสอบและพิจารณาข้อมูลจาก แหล่งที่น่าชื่อถือก่อนตัดสินใจดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน
ท้ายนี้ ปตท. ขอยืนยันในความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล และจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น