'คลัง' ฟุ้งเศรษฐกิจเดือน ต.ค. ยังฉลุย ส่งออก-ท่องเที่ยว-โครงการรัฐหนุน

‘คลัง’ เปิดภาพเศรษฐกิจไทยเดือน ต.ค. 67 ยังฉลุย รับอานิสงส์ส่งออกโตพรวด 14.6% ท่องเที่ยวยังขยายตัวต่อเนื่อง ฟุ้งโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐช่วยกระทุ้งเชื่อมั่นผู้บริโภคขยับเพิ่ม พร้อมจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งใน-นอกประเทศ

28 พ.ย. 2667 – นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือน ต.ค. 2567 ว่า เศรษฐกิจไทยยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวในระดับสูง โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 27,222.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 14.6% ตามการขยายตัวของสินค้าในหมวดเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สินค้ายางพารา อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป อาหารสัตว์เลี้ยง และข้าว โดยตลาดคู่ค้าหลักของไทยที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น อาทิ ตลาดอินโดจีน สหภาพยุโรป สหรัฐฯ และจีน

นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม 2.68 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 21.9% ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากจีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือน ก.ย. 2567 จำนวน 21.8 ล้านคน ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 5.2% ส่วนการบริโภคภาคเอกชนมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในเดือน ต.ค. 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 56.0 จากระดับ 55.3 ในเดือนก่อน เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ, ภาคการท่องเที่ยว ขยายตัวต่อเนื่อง และราคาสินค้าเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริงเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 4.2%

สำหรับการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 21.2% ขณะที่ภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -2.9% ตามการลดลงในหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ ข้าว ยางพารา และปาล์มน้ำมัน เป็นต้น ส่วนภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่ -0.9% ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ต.ค. 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 89.1 จากระดับ 87.1 ในเดือนก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย, โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ, ภาคการท่องเที่ยว ขยายตัวต่อเนื่อง และภาคการส่งออกขยายตัวต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในตลาดโลก

อย่างไรก็ดี ในส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ต.ค. 2567 อยู่ที่ 0.83% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.77% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2567 อยู่ที่ 63.3% ต่อจีดีพี ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน ต.ค. 2567 ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 238.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป

เพิ่มเพื่อน