'พลังงาน' จ่อมอบของขวัญปีใหม่ ตรึงค่าไฟงวดแรกของปี 68 ต่ออีก 4 เดือน

‘พลังงาน’ จ่อมอบของขวัญปีใหม่ ตรึงค่าไฟงวดแรกของปี 68 ต่ออีก 4 เดือน พร้อมอุ้มราคาน้ำมัน ภายใต้แนวทางการใช้หนี้คงค้าง กฟผ. และ ปตท. พร้อมลุยมาตรการพลังงานต่อเนื่อง ทั้งรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนและระบบสำรองน้ำมัน

25 พ.ย. 2567 – นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนนั้นกระทรวงพลังงานจะตรึงค่าไฟไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วยไปอีก 4 เดือน(ม.ค. – เม.ย.) ปี 2568 รวมทั้งจะตรึงราคาน้ำมันทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซล โดยในส่วนของค่าไฟหากสามารถลดได้อีกกระทรวงพลังงานก็จะพยายามปรับลดลงแต่จำเป็นต้องใช้หนี้ค้างสะสมของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ด้วย สำหรับการเปิดประมูลเกี่ยวกับการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน รูปแบบ Feed-in Tariff เฟสสอง รวม 3,600 เมกะวัตต์นั้น โดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เปิดรับซื้อไฟฟ้าล็อตแรก รวม 2,180 เมกะวัตต์ จากผู้ที่เคยเข้าประมูลในโครงการเฟส 1 ที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ แต่ไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้มีสิทธิ์ยื่นเสนอขายไฟฟ้าก่อน จำนวน 198 รายนั้น 

ขณะนี้ทางกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการหารือกับทางกฤษฎีกา เพื่อรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงทางด้านกฎหมาย รวมทั้งจะต้องมีการรวบรวมข้อมูลตั้งแต่ปลายปี 2565 ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ หากสามารถดำเนินการได้ก็จะเดินหน้าต่อไป คาดว่าจะมีข้อสรุปก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่โครงการรับซื้อไฟฟ้าอีก 1,500 เมกะวัตต์ เปิดรับซื้อเป็นการทั่วไป และในส่วนร่างกฎหมายน้ำมัน SPR หรือ Strategic Petroleum Reserve ระบบสำรองน้ำมันและก๊าซเชิงยุทธศาสตร์ อยู่ระหว่างการเตรียมนำเข้ารัฐสภาในต้นปี 2568 ซึ่งหากดำเนินการสำเร็จ ก็จะทำให้กระทรวงพลังงานสามารถบริหารจัดการด้านน้ำมันได้มากขึ้น

ทั้งนี้ ระบบ SPR จะเป็นแนวทางการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันแบบที่สากลใช้กันในกลุ่ม IEA หรือองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency) โดยใช้การบริหารกลไกราคาน้ำมันโดยใช้ปริมาณน้ำมันในสต็อก ซึ่งไม่ได้ใช้เงินในการอุดหนุนเหมือนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของเราที่ทำอยู่ในปัจจุบัน โดยจะทำให้ไทยมีระบบสำรองน้ำมันเป็นของประเทศไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาคเอกชนอย่างเดียว

นายพีระพันธุ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีและเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง การบูรณาการเพื่อการคุ้มครองผู้ใช้พลังงานที่เป็นผู้ป่วย ซึ่งมีความจําเป็นที่จะต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล เพื่อวางกรอบความร่วมมือในการบูรณาการทำงานคุ้มครองสิทธิผู้ใช้พลังงานเชิงรุก ให้ผู้ใช้พลังงานที่มีผู้ป่วยที่อยู่ในความดูแลได้รับการยกเว้นการงดจ่ายไฟฟ้าในทุกกรณี

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าความร่วมมือในการบูรณาการการทำงานเพื่อให้ความคุ้มครองต่อชีวิตและทรัพย์สินกับพี่น้องประชาชนในฐานะผู้ใช้พลังงานเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่รัฐบาลและกระทรวงพลังงานให้ความสำคัญ ซึ่งจะต้องทำควบคู่กันกับความพยายามที่จะลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับประชาชน และการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านพลังงาน เพื่อให้การบริการด้านไฟฟ้าให้ประชาชนคนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ

“การให้บริการด้านพลังงานเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ประชาชนผู้ใช้พลังงานต้องได้รับเท่าเทียมกันทุกคนอย่างเป็นธรรม แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ การให้ความคุ้มครองสิทธิในการดูแลความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และขอเน้นย้ำเรื่องผู้ป่วยที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาลจะต้องไม่ถูกงดจ่ายไฟฟ้าทุกกรณี เพื่อให้อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยกลุ่มนี้เป็นศูนย์” นายพีระพันธุ์ กล่าว 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พีระพันธุ์​' ไม่รู้เรื่องตั้งคกก.JTC บอกยังไม่ได้รับแจ้ง

นายพีระ​พันธุ์​ สาลี​รัฐ​วิภาค​ รองนายก​รัฐมนตรี​และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​พลังงาน​ กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค หรือ​ JTC​ เพื่อจัดสรรผลประโยชน์​ร่วมทางทะเล​ ระหว่างไทยและ

กลุ่ม ปตท. และกลุ่มฯ โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยพลังงานสะอาด และคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 68

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า งานสัมมนา The Annual Petroleum Outlook Forum