ส.อ.ท. หั่นเป้าผลิตรถยนต์อีกรอบเหลือ 1.5 ล้านคัน รับอุตฯยานยนต์ปีนี้สาหัส สะท้อนยอดผลิตต.ค. 67 ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ชี้ยอดขายในประเทศทรุดจากพิษหนี้พุ่ง แบงก์เข้มปล่อยกู้ ขณะที่ยอดส่งออกร่วงทุกตลาด เหตุสงครามยืดเยื้อ
25 พ.ย. 2567 – นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ยานยนต์เดือนต.ค. ปี 67ว่า ได้ปรับประมาณการการผลิตรถยนต์ปี 67 ลงอีก 200,000 คัน จาก 1.7 ล้านคัน เหลือ 1.5 ล้านคัน เป็นการปรับลดลงจากผลิตขายในประเทศจาก 550,000 คัน เป็น 450,000 คัน และการผลิตเพื่อส่งออกลดลงจาก 1.15 ล้านคัน เป็น 1.05 ล้านคัน ถือเป็นการปรับลดลงครั้งที่ 2 จากรอบแรกปรับไปแล้ว 200,000 คัน เท่ากับว่า ปีนี้ปรับลดลงถึง 400,000 คัน จากเป้าหมายแรกตั้งแต่ต้นปีตั้งไว้ 1.9 ล้านคัน เนื่องจากยอดขายในประเทศปรับลดลง จากการเข้มงวดในการให้กู้ซื้อรถยนต์ของสถาบันการเงิน
นอกจากนี้ ตลาดส่งออก ลดลงทุกตลาดเช่นกัน จากผลกระทบสงครามอิสราเอลกับฮามาสขยายมากขึ้น อาจจะส่งผลกระทบการส่งออกไปยังตลาดดังกล่าวน้อยลง โดยต้องจับตาตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และยุโรปเป็นพิเศษ รวมทั้งความขัดแย้งที่ต้องติดตามแบบไม่กะพริบตา ที่จะกระทบเศรษฐกิจโลกคือสงครามยูเครนกับรัสเซีย ที่อาจขยายไปประเทศอื่น ยอมรับว่า สถานการณ์รถยนต์บ้านเรา ค่อนข้างสาหัส ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
สำหรับยอดผลิตรถยนต์เดือนต.ค.67 มีทั้งสิ้น 118,842 คัน ลดลง 25.13% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการผลิตดังกล่าวต่ำสุดในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ 1.6 ล้านคัน เนื่องจากยอดผลิตเพื่อส่งออกลดลง 7% และผลิตเพื่อขายในประเทศลดลง 51.7% ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนม.ค.-ต.ค. 67 มีจำนวน 1.25 ล้านคัน ลดลง 19.28% โดยเฉพาะรถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนต.ค. 67 ผลิตได้ทั้งหมด 70,514 คัน ลดลง 27.83% ขณะที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เดือนต.ค. 67 ผลิตได้ 31,101 คัน ลดลง 51.7% และเดือนม.ค.-ต.ค. 67 ผลิตได้ 384,952 คัน ลดลง 39.89%
ด้านยอดขายถยนต์ภายในประเทศของเดือนต.ค. 67 มีจำนวน 37,691 คัน ลดลง 36.08% ต่ำสุดในรอบ 54 เดือน นับตั้งแต่ยกเลิกล็อกดาวน์จากการระบาดโควิด-19 เดือนพ.ค. 63 จากการเข้มงวดในการให้กู้ซื้อรถยนต์ของสถาบันการเงินเป็นหลัก ส่งผลให้จำนวนบัญชีผู้กู้ซื้อรถยนต์ในไตรมาสสามมี 6.36 ล้านบัญชี ลดลงจากไตรมาสสอง 75,377 บัญชี เท่ากับ 1.2% และลดลงจากไตรมาสสามปี 66 จำนวน 199,655 บัญชี หรือ 3% จำนวนเงินหนี้รถยนต์ไตรมาสสาม 2.46 ล้านล้านบาท ลดลงจากไตรมาสสอง 2.8% และลดลง 5.8% จากไตรมาสสามปี 66 รถบรรทุกลดลงจากเศรษฐกิจของประเทศที่ยังอ่อนแอเติบโตในอัตราต่ำและหนี้ครัวเรือนสูง ดัชนีภาคอุตสาหกรรมขยายตัวต่ำที่ 0.1% ในไตรมาสสาม
ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือนต.ค. 67 ส่งออกได้ 84,334 คัน เพิ่มขึ้น 5.08% แต่ลดลง ต.ค. 66 จำนวน 20.23% ซึ่งการ ส่งออกลดลง เพราะฐานสูงในเดือนเดียวกันของปี 66 ที่ส่งออกถึง 105,726 คัน ส่งผลให้ส่งออกลดลงทุกตลาด ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคือตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลางและยุโรปที่สงครามอิสราเอลกับฮามาสขยายมากขึ้น อาจจะส่งผลกระทบการส่งออกไปยังตลาดดังกล่าวน้อยลง อีกความขัดแย้งที่ต้องติดตามแบบไม่กระพริบตาที่จะกระทบเศรษฐกิจโลกคือ สงครามยูเครนกับรัสเซียที่อาจขยายไปประเทศอื่นซึ่งกระทบการส่งออกรถยนต์และสินค้าอื่นๆ