ทอท.โชว์ผลประกอบการปีงบ 67 กำไรพุ่ง 1.9 หมื่นล้านบาท โต 118.21% เทียบจากปีก่อน มั่นใจปีหน้าธุรกิจการบินโต ผู้โดยสารแตะ 130 ล้านคน ดันรายได้ขาขึ้นต่อเนื่อง คาดช่วงปีใหม่ 68 มีผู้โดยสาร 2.86 ล้านคน
22 พ.ย. 2567 – นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงผลประกอบการปีงบประมาณ 2567 ในรอบ 12 เดือนระหว่างเดือน ต.ค. 2566 ถึงเดือน ก.ย.2567 ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท.โดยมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 19,182.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,391.52 ล้านบาท คิดเป็น118.21% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน โดยมีรายได้รวม 67,827.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.01% ซึ่งรายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น 18,980.38 ล้านบาท คิดเป็น 39.43%
ทั้งนี้ แบ่งเป็นรายได้เกี่ยวกับกิจการการบินมีจํานวน 31,000.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,734.64 ล้านบาท คิดเป็น39.23% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินจํานวน 36,120.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น10,245.74 ล้านบาท คิดเป็น 39.60% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน มีค่าใช้จ่ายรวม 40,524.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,276.70 ล้านบาท หรือ 18.33% ซึ่งน้อยกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของรายได้รวมทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเทียบกับรายได้จากการดำเนินงานลดลงจาก 70.08% ในปีก่อนเป็น 59.71% แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายของ ทอท.
สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท.ของปีงบประมาณ 2567 (ต.ค.2566 – ก.ย. 2567) มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนแบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคนเพิ่มขึ้น 1.01% ขณะที่มีเที่ยวบินรวม 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.5% แบ่งเป็น เที่ยวบินระหว่างประเทศ 416,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.63% และเที่ยวบินภายในประเทศ 316,500 เที่ยวบิน ลดลง 0.73%
“ผู้โดยสารจีนตอนนี้กลับมา 76% เมื่อเทียบกับปี 2019 รวมทั้งอินเดียได้อานิสงค์ฟรีวีซ่า การเดินทางเพิ่มขึ้น และยังมีรัสเซีย ยุโรป อเมริกา อังกฤษ ที่เติบโตทุกตลาด สะท้อนว่าตัวเลขปริมาณการเดินทางผู้โดยสารเกิดขึ้นจากการฟื้นตัวของผู้โดยสารต่างชาติจริง ไม่ใช่เพียงการเดินทางของคนไทย และคาดว่าในปี 2568 นักท่องเที่ยวจีนจะฟื้นตัวต่อเนื่อง จากเศรษฐกิจจีนปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าจะมีการเดินทางฟื้นตัว 90% จากที่เคยเดินทางเข้าไทยก่อนโควิด“นายกีรติ กล่าว
ทั้งนี้ ทอท.ได้ประมาณการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท.ในปีงบประมาณ2568 (ต.ค. 2567 – ก.ย. 2568) คาดว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.17% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.18% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 453,750 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.02% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 354,530 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.02%
นายกีรติ กล่าวว่า จากประมาณการณ์การจราจรทางอากาศของปีงบประมาณ 2568 จะเห็นได้ว่าตัวเลขผู้โดยสารฟื้นตัวใกล้เคียงกับปริมาณผู้โดยสารช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ทอท.คาดว่าระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2567 – 4 ม.ค. 2568 โดย ทอท.คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ประมาณ 2.86 ล้านคน ฟื้นตัว 92.9% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 (29 ธ.ค. 2562 – 4 ม.ค. 2563) โดยแบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 1.83 ล้านคน ฟื้นตัว 95.3% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 1.03 ล้านคน ฟื้นตัว 88.8%
ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินประมาณ 17,410 เที่ยวบิน ฟื้นตัว 97.5% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 (29 ธ.ค. 2562 – 4 ม.ค. 2563) แบ่งเป็น เที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 10,370 เที่ยวบิน ฟื้นตัว 102% หรือฟื้นตัวเท่ากับช่วงก่อนโควิด-19 แล้ว และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 7,040 เที่ยวบิน ฟื้นตัว 91.6%
“มั่นใจว่าปี 2568 รายได้จะอยู่ในขาขึ้น ปัจจัยบวกคือปริมาณผู้โดยสารเติบโต ซึ่งจากสัญญาณในตอนนี้ก็พบว่ายังมีแนวโน้มการเดินทาง โดยพบว่าตารางบินฤดูหนาวที่มียอดจองการเดินทางมาแล้ว พบว่าภาพรวมมีปริมาณจองการเดินทางเพิ่มขึ้น 26% โดยแบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ เติบโต 35% และผู้โดยสารในประเทศ เติบโต 32% ส่วนปัจจัยเสี่ยงในปีหน้ามองว่ายังไม่มีปัจจัยใดที่น่ากังวล”นายกีรติ กล่าว
สำหรับแผนลงทุนระยะ 10 ปี ทอท.ประเมินไว้ราว 2 แสนล้านบาท ซึ่งจะมีโครงการที่ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) อย่างโครงการขยายท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 วงเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท และโครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่อยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการก่อสร้างขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก วงเงิน 1.25 หมื่นล้านบาท รวมไปถึงโครงการขยายขีดสามารถท่าอากาศยานเชียงใหม่ 1.8 หมื่นล้านบาท ท่าอากาศยานภูเก็ต 1.2 หมื่นล้านบาท และโครงการก่อสร้างผู้โดยสารด้านทิศใต้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม คาดว่าจะใช้งบลงทุน1.4 แสนล้าน ทั้งนี้ ทอท.จะใข้แหล่งเงินทุนจากสภาพคล่องที่มีอยู่ โดยคาดว่าจะทยอยลงทุนเฉลี่ย 1-2 หมื่นล้านต่อปี
สำหรับโครงการขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก นับเป็นโครงการแรกที่ ทอท.จะเปิดประมูลจัดหาเอกชนก่อสร้าง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเสนอ ครม. คาดว่าเริ่มจัดทำเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) ในเดือนก.พ.2568 และลงนามสัญญาในเดือน พ.ค.2568 โดยโครงการจะใช้เวลาก่อสร้างราว 3 ปี เบื้องต้นจึงกำหนดจะเร่งรัดเปิดให้บริการในเดือน ก.ค.2571 ซึ่งภายหลังเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารนี้ จะเพิ่มพื้นที่รองรับผู้โดยสาร81,000 ตารางเมตร ซึ่งจะมีการจัดสรรพื้นที่เชิงพาณิชย์ 10%