จับตา!! 'แบงก์ชาติ' ถกหั่นเงินนำส่งFIDF แลกแก้หนี้ครัวเรือน

จับตา!! ‘แบงก์ชาติ’ ถกเข้มแบงก์ชงหั่นเงินนำส่ง FIDF เหลือ 0.23% เป็นเวลา 3 ปี แลกแก้หนี้ครัวเรือน พักดอกเบี้ย 3 ปี อุ้มลูกหนี้ NPL บ้าน-รถยนต์-เอสเอ็มอี วงเงิน 1.31 ล้านล้านบาท

20 พ.ย. 2567 – นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง เปิดเผยว่า วันนี้(20 ก.ย.67) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณารายละเอียดการแก้ไขหนี้ครัวเรือน โดยปรับลดเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ของธนาคารพาณิชย์ ลงครึ่งหนึ่ง เหลือ 0.23% จากเดิม 0.46% รวมถึงเงินสนับสนุนจากภาคธนาคาร โดยเบื้องต้นคาดว่า จะลดเงินนำส่งเข้ากองทุน FIDF เป็นระยะเวลา 3 ปีเท่ากับระยะเวลาการพักดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ยืนยันว่า การลดเงินนำส่งจะไม่กระทบต่อการชำระหนี้คืนหนี้ FIDF และฐานะของประเทศ

สำหรับลูกหนี้ที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่จะได้รับความช่วยเหลือประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ 1.หนี้ที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยต้องเป็น NPL ไม่เกิน 1 ปี นับตั้งแต่ 31 ต.ค.2567 เพื่อป้องกันการตั้งใจผิดนัดชำระหนี้ 2.หนี้รถยนต์ ไม่เกิน 8 แสนบาทต่อคัน โดยต้องเป็น NPL ไม่เกิน 1 ปี และ 3.หนี้เอสเอ็มอีที่กู้เพื่อประกอบอาชีพ วงไม่เกิน 3 ล้านบาท และต้อง เป็นNPL ไม่เกิน 1 ปี

ทั้งนี้ จำนวนคนที่เป็นหนี้เสีย ประมาณ 2.3 ล้านบัญชี แบ่งเป็น หนี้บ้าน 4.6 แสนบัญชี คิดเป็นมูลหนี้ 4.8 แสนล้านบาท, หนี้รถยนต์ 1.4 ล้านบัญชี มูลหนี้ 3.75 แสนล้านบาท และหนี้เอสเอ็มอีกู้เพื่อประกอบอาชีพ  2.3 ล้านบัญชี มูลหนี้ 4.54 แสนล้านบาท โดยทั้งหมดคิดเป็นมูลหนี้ที่เข้าเกณฑ์ที่จะได้รับการช่วยเหลืออยู่ที่ 1.31 ล้านล้านบาท

“หนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแบงก์เอกชนเยอะ โดยผู้ที่ต้องการรับความช่วยเหลือจะต้องเข้าไปยืนยันตัวตนกับธนาคารเจ้าหนี้เท่านั้น จะไม่ได้รับการช่วยเหลือโดยอัตโนมัติ” นายเผ่าภูมิ กล่าว

อย่างไรก็ดี เบื้องต้นคาดว่า หลังจากการประชุมในวันนี้ทาง กนส. และ ธปท.จะมีการชี้แจ้งรายละเอียดให้ทราบต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธีระชัย' สับมาตรการแก้หนี้ 'คุณสู้ เราช่วย' หากลูกหนี้ผิดเงื่อนไข เท่ากับเอาภาษีไปหนุนสถาบันการเงิน

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการพรรคลังประชารัฐ แถลงว่า มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินของรัฐบาลในโครงการ "คุณสู้-เราช่วย" มีข้อบกพร่องสำคัญ