17 พ.ย. 2567 - นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ทำไมการดื้อเจรจาตาม MOU2544 แบ่งผลประโยชน์กัน ถ้าไม่ปักปันเขตแดนทางทะเลไทย-กัมพูชาให้ถูกต้องยุติก่อน จะทำให้ไทยเสียดินแดนรอบเกาะกูดและในอ่าวไทยอย่างแน่นอน
โดยขออ้างหลักฐานและข้อมูลที่ตรวจค้นปรากฏ ดังนี้
1)แผนที่สัมปทานพศ2510 ท้ายประกาศกระทรวงการพัฒนาการแห่งชาติ เรื่องการกำหนดเขตพื้นที่……ในการออกอาชญาบัตรผูกขาดสัมปทานปิโตรเลียมและการออกประทานบัตรทำเหมืองปิโตรเลียม ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 30 มค 2511 ทำให้กลุ่มทุนพลังงานที่มีอิทธิพลเหนือรัฐบาลลอนนอลกำกับสั่งการให้ขีดเส้นแดนรุกล้ำเข้ามาในกลางอ่าวไทย เพื่อมีส่วนแบ่งหรือยึดแหล่งพลังงาน เพื่อเก็บไว้ใช้อ้างสิทธิ์ ฯลฯ
2)รัฐบาลลอนนอล ภายใต้กำกับของมหาอำนาจตะวันตกและกลุ่มทุนพลังงาน สั่งการให้ประกาศเส้นเขตแดนทางทะเลโดยไม่ได้ยึดหลักการตามกฎหมายทางทะเล ในราชกิจจากัมพูชา 1972ประกาศรุกเกาะกูดรุกล้ำน่านน้ำไทยชัดเจน โดยอ้างว่าทำตามสนธิสัญญา สยาม -ฝรั่งเศส คศ 1907 ที่ไทยยอมเสียดินแดนพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ แลกจันทบุรี ตราดและเกาะกูดคืนจากฝรั่งเศส โดยกัมพูชาบิดเบือนตีเส้นเขตแดนทางทะเล พศ2515 แอบอ้างสนธิสัญญาคศ1907 ว่า ตีเส้นจากทางบกโดยใช้ยอดเขาสูงสุดบนเกาะกูดเป็นจุดเล็งผ่ากลางเกาะกูดเล็งไปทางจังหวัดประจวบคิรีขันธ์เกือบครึ่งอ่าวไทย ทั้งที่ข้อเท็จจริงในสนธิสัญญาคศ1907 เป็นเรื่องตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิงคือ เอกสารสนธิสัญญาระบุชัดว่า จุดสูงสุดบนเกาะกูดใช้เพื่อเล็งจากเกาะเข้าชายฝั่งทางทิศตะวันออก กำหนดว่าเส้นที่ลากไปโดนชายฝั่ง ใช้ชี้จุดแบ่งไทย-กัมพูชาเท่านั้น เพราะสมัย ร.5 ยังไม่มีกฎหมายพื้นที่ทะเล จึงเป็นไปไม่ได้ตามที่กัมพูชาอ้างสนธิสัญญาแล้วเล็งออกไปทะเล เส้นเขตแดนกัมพูชาพศ2515 จึงเป็นการอ้างโดยแกล้งเข้าใจผิด เพื่อตีเส้นไปยังแปลงสัมปทานปิโตรเลียมที่กระทรวงพัฒนาการแห่งชาติของไทยกำหนดเขตอนุญาตให้สำรวจและจะออกประทานบัตรปิโตรเลียม เพื่อสร้างเหตุให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนที่ต้องมาเจรจากัน ใช่หรือไม่
3) ทุกรัฐบาลไทย ปฏิเสธไม่ยอมรับเส้นเขตแดนทางทะเลที่กัมพูชาลากขึ้นโดยไม่มีกฎหมายทะเลใดๆ หรือสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาใดๆ รองรับ
ที่สำคัญคือในวันที่ 18 พฤษภาคม 2516 ได้มีการประกาศพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ประกาศเขตแดนทางทะเลของไทย
โดยยึดหลัก สนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส 1907และอนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ลงวันที่ 29 เมษายน 1958 หรือเรียกกันสั้นๆ ว่าอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป 1958 โดยลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 แบ่งพื้นที่เท่ากันระหว่างเกาะกูด(ไทย) และเกาะกง(กัมพูชา) แล้วลากตรงไปถึงเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเล แล้วลากเส้นเขตแดนทางทะเลไปยังทิศใต้ตามแนวเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเลจนถึงเขตทะเลมาเลเซีย ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนที่ถูกต้องและยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ 4)กองทัพไทยโดยเฉพาะกองทัพเรือได้ยึดถือเส้นเขตแดนทางทะเลตามพระบรมราชโองการวันที่ 18 พฤษภาคม 2516 นี้มาโดยตลอดไม่เปลี่ยนแปลง ทุกรัฐบาลได้นำพระบรมราชโองการเขตแดนทางทะเลของไทยด้านอ่าวไทยประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 1 มิถุนายน 2516 จากวันที่ 18 พฤษภาคม 2516 ถึงเดือนมกราคม 2544 เป็นเวลา 28 ปีเศษที่ทะเลไทยไม่เคยทับซ้อนกับทะเลกัมพูชา ผ่านนายกรัฐมนตรีถึง 13 คน จาก จอมพลถนอม กิตติขจร จนถึงนายชวน หลีกภัย
5) รัฐบาลทักษิณ ชนะการเลือกตั้งปี 2544 ได้รับโปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 ต่อมาอีกเพียง 4 เดือนกับ 9 วัน ได้มีการลงนาม MOU 44 ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยกับกัมพูชา ยอมรับว่าทะเลไทยกับทะเลกัมพูชาทับซ้อนกันเป็นพื้นที่มากกว่า 26,000 ตารางกิโลเมตร ตามเอกสารประกอบใน MOU 2544 ทำให้ประชาชนชาวไทยวิตกกังวลว่าเรื่องนี้จะซ้ำรอยเสียดินแดนเช่นเดียวกับคดีเขาพระวิหาร MOU 2544 จึงอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุของวิกฤตการเมืองไทยเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
6)แม้MOU2544 กระทรวงการต่างประเทศจะผูกเรื่องการเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์แหล่งพลังงานต้องทำควบคู่กับการเจรจาเส้นเขตแดนทางทะเลที่ต้องตกลงกันได้อย่างถูกต้องและยอมรับกันได้ก็จริง แต่จากความไม่ไว้วางใจที่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ชัดเจนว่า การตีเส้นเขตแดนกัมพูชา2515 รุกมาในอ่าวไทย หลังไทยตีเส้นแบ่งตามแผนที่แปลงสัมปทานสำรวจและขุดเหมืองปิโตรเลียม2510ที่ประกาศ มค 2511คือสาเหตุที่ทุนพลังงานข้ามชาติ ต้องการเข้ามาฮุบแหล่งปิโตรเลียมของไทยผ่านอิทธิพลทางทหารและการเมืองในกัมพูชาขณะนั้น และการที่ปรากฏท่าทีชัดเจนจากนักการเมืองไ
ทยบางกลุ่มที่มีความสัมพันธ์และประโยชน์ทับซ้อน คิดเอาผลประโยชน์ชาติไปแบ่งปันกันดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า ไทยจะไม่เสียดินแดนทางทะเล อย่างแน่นอน ในการเจรจาที่รัฐบาลจะเดินหน้าต่อไปตามMOU2544 มีข้อเสนอเพื่อพิจารณา ดังนี้ 1) ต้องเจรจาเรื่องเส้นเขตแดนทางทะเล ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศสคศ1907 อนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขตและเขตต่อเนื่อง 1958 และ อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 ให้ได้ข้อยุติเสียก่อน 2 )ควรแก้ไขปรับปรุง MOU2544 ให้ชัดเจน หรือ ยกเลิกMOU2544 ก่อน เพื่อเจรจาเส้นเขตแดนทางทะเล ให้ยุติก่อน จึงเริ่มการเจรจาแบ่งผลประโยชน์ตามเส้นเขตแดนที่ถูกต้อง โดยจะมีMOUใหม่ หรือที่ปรับปรุงแก้ไขก็ได้ 3)รัฐบาลต้องนำเรื่องMOU 2544 เดิม และกรอบการเจรจาของคณะกรรมการ JTC ที่ตั้งขึ้นใหม่เสนอเข้าที่ประชุมรัฐสภา เพื่อขอความเห็นชอบหรือไม่ หรือกำหนดกรอบก่อนการเจรจาเพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายและขัดรัฐธรรมนูญ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จี้รัฐบาลประท้วงกัมพูชา
"สนธิรัตน์" นำทีมพลังประชารัฐลงพื้นที่ตราด "ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์" ชี้อันตรายมาก แนวสันเขื่อนดินที่กัมพูชาสร้างต่อเติมออกไป หากไม่มีการประท้วงหรือไม่มีข้อคัดค้านใดๆ ก
พปชร. ลงตราด ชวนชาวบ้านในพื้นที่ร่วมคัดค้าน MOU 44
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานร่วมศูนย์นโยบาย และวิชาการ และ ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนในจังหวัดตราด โดยได้รับการประสานงานจากประชาชนในพื้นที่
อดีตนายกฯอภิสิทธิ์ ชำแหละข้อดีข้อเสีย ยกเลิก-ไม่ยกเลิก ‘MOU44’ แนะทางออกรบ.อิ๊งค์
อภิสิทธิ์ ชี้ข้อดี-ข้อเสีย ยกเลิก-ไม่ยกเลิก MOU2544 เสนอทางออกแก้ MOU มัดรัฐบาล ห้ามไปตกลงอะไรที่มีผลกระทบกับเขตแดน ชี้เปรี้ยง เป็นปมร้อนเพราะ คนหวาดระแวงรัฐบาลมีผลประโยชน์อื่นเหนือกว่าผลประโยชน์ของชาติหรือไม่
‘เกาะกูด’ สงครามที่ ‘ทักษิณ’ ไม่มีทางชนะ จับตาจะถอยอย่างไร ไม่ให้ตัวเองเสียหน้า และ ‘ฮุนเซน’ เสียใจ
ประเด็นเรื่องเกาะกูดเป็นของไทยหรือไม่ นั้น ได้ข้อยุติจากคุณทักษิณเมื่อวานนั้น ว่ารัฐบาลไทยก็เห็นด้วย ว่าเป็นของคนไทย แต่จะเห็น
'วรงค์' สวน 'ทักษิณ' โคตรควาย! จะเอาแต่ผลประโยชน์ ไม่สนใจเสียดินแดนตามมา
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า #ควายหรือโคตรควาย
'ทักษิณ' ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์ 'เกาะกูด' ของไทย ไม่บ้ายกให้กัมพูชา จ่อติวเข้ม สส. แจงปชช.
'ทักษิณ' ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์ 'เกาะกูด' เป็นของไทย โต้เฟกนิวส์ใช้เอไอปล่อยข่าวมั่ว ชี้ใครจะบ้ายกให้ เตรียมติว สส. เพื่อไทย แจงประชาชนถึงที่มา MOU 44