‘ชัยวุฒิ’ ลุยเชียงใหม่เร่งเครื่อง 5G ด้านการแพทย์-สมาร์ทซิตี้ เพิ่มศูนย์ดิจิทัลชุมชน

“ชัยวุฒิ” รมว.ดีอีเอส ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ติดตามนโยบายหนุนใช้ประโยชน์ดิจิทัล ทั้งโครงการนำร่อง 5G ต้นแบบ เพิ่มจำนวนศูนย์ดิจิทัลชุมชน และผลักดันเมืองอัจฉริยะภาคเหนือ สานเป้าหมายพัฒนาบริการประชาชนทั่วถึง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม

20 ม.ค. 2565 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 20-22 ม.ค. 65  ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติราชการ ณ  จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการที่ขับเคลื่อนโดยหน่วยงานในสังกัด ขานรับนโยบายของรัฐบาล ที่สนับสนุนให้นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ให้มีประสิทธิภาพสูงครอบคลุมทั่วประเทศที่ทุกคนเข้าถึงได้  

โดยวันนี้ (20 มกราคม 2565) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการนำร่องการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบ ในการนำเทคโนโลยีระดับโลกมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างระบบสาธารณสุขรูปแบบใหม่ให้บริการประชาชน ดำเนินการโดยโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซี่งสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ในสังกัดดีอีเอส จัดสรรงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้กรอบนโนบายการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5G ของประเทศไทย

โดยโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างดีอีเอส และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.โครงการนำร่องการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบ สำหรับให้บริการประชาชน (5G District) จังหวัดเชียงใหม่ (โครงการ 5G smart health) และ 2.โครงการจัดตั้งศูนย์บริการทางการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อขยายการเข้าถึงการให้บริการประชาชน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการปรึกษาและรักษาผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลจังหวัด และโรงพยาบาลประจำอำเภอ ในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนบนที่ร่วมโครงการ จำนวน 20 แห่ง

โดยผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพียงเดินทางไปยังโรงพยาบาลประจำอำเภอที่ใกล้เคียงที่พัก หรือที่สะดวกในการเข้ารับบริการ อีกทั้งยังทำให้สามารถลดต้นทุนด้านการเดินทาง และลดเวลาแก่ผู้ป่วยได้ ที่สำคัญผู้ป่วยยังสามารถได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง แม้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19

ในโอกาสลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ครั้งนี้ ยังได้เป็นประธานในพิธีเปิดและมอบครุภัณฑ์ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ดิจิทัลชุมชนบ้านไร่ ศูนย์ดิจิทัลชุมชนโรงเรียนวังน้ำหยาด ศูนย์ดิจิทัลชุมชน กศน. อำเภอดอยหล่อ ศูนย์ดิจิทัลชุมชนเทศบาลตำบลบ่อหลวง ศูนย์ดิจิทัลชุมชนเทศบาลตำบลท่าผา และศูนย์ดิจิทัลชุมชนเทศบาลตำบลอมก๋อย และตรวจเยี่ยมและสอบถามการใช้งานโครงการเน็ตประชารัฐกับประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ด้วย

นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า ในปี พ.ศ. 2563– 2565 สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ดำเนินการขยายผลและยกระดับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนสู่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวนรวม 500 ศูนย์ โดยจะจัดหาอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับบริบทและวัฒนธรรมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงไป เพื่อใช้ในการผลักดันประชาชนในพื้นที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่มีชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกจัดตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชนจำนวน 13 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ดิจิทัลชุมชนสถาบันพัฒนาเยาวสตรี มูลนิธิศึกษาพัฒนาชนบท

ศูนย์ดิจิทัลชุมชนวัดเจดีย์งาม ศูนย์ดิจิทัลชุมชนโรงเรียนบ้านกาด (เขมวังส์) ศูนย์ดิจิทัลชุมชนวัดจันทร์ และศูนย์ดิจิทัลชุมชนวัดพระธาตุดอยสะเก็ด ศูนย์ดิจิทัลชุมชนเทศบาลตำบลท่าผา ศูนย์ดิจิทัลชุมชนโรงเรียนวังน้ำหยาด ศูนย์ดิจิทัลชุมชนบ้านไร่ ศูนย์ดิจิทัลชุมชน กศน.อำเภอดอยหล่อ ศูนย์ดิจิทัลชุมชนเทศบาลตำบลยางเนิ้ง ศูนย์ดิจิทัลชุมชนเทศบาลตำบลอมก๋อย ศูนย์ดิจิทัลชุมชนวัดแม่ตื่นน้อย ศูนย์ดิจิทัลชุมชนเทศบาลตำบลบ่อหลวง โดยวันนี้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดศูนย์ฯ จำนวน 3 แห่ง ณ ศูนย์ดิจิทัลชุมชนบ้านไร่ โรงเรียนบ้านไร่ ต.ดอยเต่า อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ และเปิดศูนย์ดิจิทัลชุมชนโรงเรียนวังน้ำหยาด ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ และศูนย์ดิจิทัลชุมชน กศน.อำเภอดอยหล่อ ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ในรูปแบบออนไลน์

โดยมุ่งหวังให้ศูนย์ดิจิทัลชุมชน สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนในชุมชน ให้มีความเข้มแข็งในด้านต่าง ๆ อาทิ เป็นกลไกประชารัฐในการสร้างโอกาสให้ประชาชนและรัฐ ร่วมมือกันในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สร้างความร่วมมือ ร่วมใจของรัฐและประชาสังคม เพื่อร่วมพัฒนาและแก้ปัญหาเศรษฐกิจเละขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล สร้างโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีบทบาทในเรื่องของการพัฒนาและแก้ไขปัญหาชุมชนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สร้างรายได้/สร้างงาน ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมไปถึงการสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สู่เป้าหมายในการยกระดับสู่เอสเอ็มอี และการเป็นอุตสาหกรรม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิธา' เดินสายมู จ.เชียงใหม่

'พิธา' เดินสายมู ร่วมพิธีสงสนาน อาบน้ำนมพระพิฆเณศ-เวียนเทียนวัดศรีสุพรรณ เจ้าอาวาสมอบองค์พระให้ แต่ก็ต้องคืน เหตุมูลค่าเกิน 3,000 บาท พร้อมพบปะประชาชนถนนวัวลาย ป้าวัย 71 วิ่งโผกอด ร้องโอ้ยชื่นใจ ถ้าไม่มีเกมสกปรก ได้เป็นนายกฯไปแล้ว

ผวา! ไข้หวัดใหญ่พุ่ง ดับแล้ว 1 ราย เร่งฉีดวัคซีน 7 กลุ่มเสี่ยง

ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงาน ควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเปิดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง

'ธรรมนัส' บอกราคาลำไยปีนี้ราคาดี

รมว.เกษตรฯ ลงพื้นที่เชียงใหม่ติดตามสถานการณ์ลำไย ส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตอย่างมีคุณภาพ รองรับตลาดทั้งในและต่างประเทศ ภาพรวมปีนี้ราคาเปิดตลาดดีกว่าปีก่อน

เจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะแก๊งค้ายาเสพติด ดับ 1 เจ็บ 1

ฝ่ายปกครองอำเภอเชียงดาว บูรณาการหน่วยเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่เสริมปฎิบัติการ หลังเมื่อคืนวันที่ 11 ก.ค. เวลา 22:00 น. เกิดเหตุยิงกันระหว่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหวาย

อันตราย! ทุนต่างชาติรุกเขมือบค้าไม้เถื่อน

หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ ติดตามไม้มีค่าจากแหล่งซุกซ่อน บุกรวบผู้ต้องหาค้าไม้เถื่อนคาโรงงาน ส่งดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด ขยายผลเอาผิดทุนต่างชาติ

วันนี้ 'วันครีษมายัน' กลางวันยาวสุดของปี พระอาทิตย์อยู่บนท้องฟ้าเกือบ 13 ชม.

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) หรือ NARIT กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แจ้งว่า ในวันที่ 21 มิถุนายน 2567 เป็น “วันครีษมายัน”