‘พิชัย’ เตรียมรายงานบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ อัพเดทความคืบหน้าการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน รับไม่ติดหากแบงก์ยืนยันขอลดเงินนำส่ง FIDF ชี้หากจำเป็นก็ต้องทำ พร้อมถกดิจิทัลวอลเล็ต การันตีพร้อมเดินหน้าแน่นอน ยังไม่ตอบประชาชนจะได้เงินเมื่อไหร่
13 พ.ย. 2567 – นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ในวันที่ 19 พ.ย. นี้ จะมีการรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการหารือกับสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่องแล้ว โดยแนวทางสำคัญคือ การปรับโครงสร้างหนี้เก่า เช่น การให้จ่ายหนี้ลดลง การยืดหนี้ เป็นต้น เพื่อเป็นการลดภาระของลูกหนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ลูกหนี้สามารถไปต่อได้
ส่วนข้อเสนอของสถาบันการเงินในการลดเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ลง 0.23% นั้น ถือเป็นรายละเอียดใหญ่ ๆ ที่มองว่าหากเป็นเครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้ เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนก็ต้องทำ
“ตอนนี้ข้อเสนอใหญ่ ๆ มีการหารือกันแล้ว ยังเหลือบางเรื่องที่ต้องตกลงในรายละเอียด ซึ่งส่วนตั้วอยากให้จบเร็วที่สุด ถ้าจบได้ก็อยากให้จบเลย แต่ถ้าไม่จบ ก็ต้องมีความคืบหน้าที่ชัดเจน ซึ่งจะมีการรายงานในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยว่าตอนนี้ได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว โดยสิ่งหนึ่งที่ต้องเร่งทำ คือ การผลักดันให้เขาสามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบให้มากขึ้น ก็ต้องไปแก้ปัญหาที่หนี้เก่า โดยพุ่งเป้าไปที่ครัวเรือนที่พร้อมจะเดินหน้า พร้อมจำฟื้น ด้วยการเร่งปรับโครงสร้างหนี้ ที่แม้ว่าหนี้จะไม่ลด แต่ภาระของเขาจะลดลง โดยการทำงานทั้งหมดก็ต้องรักษาวินัยของลูกหนี้ด้วย” นายพิชัย กล่าว
ทั้งนี้ ไม่อยากให้พูดว่าการดำเนินการในส่วนนี้คือการแฮร์คัทหนี้ เพราะไม่ได้ถึงขนาดนั้น แต่เป็นการปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้เงื่อนไขการพูดคุยที่ลงตัวระหว่างผู้กู้กับผู้ให้กู้มากกว่า
นอกจากนี้ จะมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงความคืบหน้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วย ว่าหลังจากนี้จะมีทิศทางอย่างไรต่อไป จากที่รัฐบาลได้เร่งจ่ายเงินให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านราย ไปเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา โดยต้องยอมรับว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ซึ่งท้ายที่สุดหากเศรษฐกิจเติบโตได้แล้ว เครื่องมือเหล่านี้ก็อาจไม่ต้องใช้แล้ว แต่จากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ยังยืนยันว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังมีความจำเป็น เพราะทุกคนยังมีปัญหากันอยู่ จึงต้องมาเร่งพิจารณารายละเอียดต่อไป ส่วนประชาชนจะได้รับเงินเมื่อไหร่นั้น คงต้องขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม
อย่างไรก็ดี นายพิชัย ยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ได้เลือกนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ให้เข้ามาดำรงตำแหน่งดังกล่าว ว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบรายละเอียด ทราบจากข่าวเช่นเดียวกัน