นักวิชาการห่วงผลเลือกตั้งสหรัฐฯ กดศก.โลกดิ่ง หวั่นกีดกันการค้าปะทุ ขย่มส่งออก-ท่องเที่ยวไทย

จับตาเลือกตั้งสหรัฐฯ “นักวิชาการ” ห่วงนโยบาย “ทรัมป์-แฮร์ริส” เข็นภาพกีดกันทางการค้าปะทุ กดเศรษฐกิจโลกขยายตัวต่ำระยะสั้น หวั่นขย่มส่งออก-ท่องเที่ยวไทยปี 2568

4 พ.ย. 2567 – นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ว่า หลายสำนักวิจัยได้มีการจำลองผลการเลือกตั้ง พบว่าไม่ว่าผู้ชนะการเลือกตั้งจะเป็นนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน หรือนางกมลา แฮร์ริส ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมเครต เชื่อว่าจะเกิดภาพการกีดกันทางการค้า โดยเฉพาะกับจีน เพื่อไม่ให้จีนเติบโตขึ้นมาได้

“ส่วนใหญ่คาดว่าหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัวได้ต่ำกว่ากรณีนางกมลา แฮร์ริสชนะการเลือกตั้ง เพราะนโยบายเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) และนโยบายการเลือกข้าง แบ่งข้าง และการใช้กรอบของสหรัฐเป็นตัวตั้ง โดยไม่ได้เน้นกติกาโลกเป็นตัวตั้งมากกว่า ดังนั้นหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ก็เป็นไปได้สูงที่เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวต่ำในระยะสั้น” นายธนวรรธน์ กล่าว

ขณะเดียวกันนโยบายด้านเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีการลดภาษีนิติบุคคลลง ตรงนี้จะมีส่วนช่วยลดต้นทุนการประกอบธุรกิจให้กับภาคเอกชน และการลดความสำคัญของนโยบายเรื่องพลังงานสะอาด ก็จะทำให้ภาคธุรกิจไม่ต้องเคร่งเครียดกับปัจจัยดังกล่าว ซึ่งในส่วนนี้จะเข้ามาชดเชยการกีดกันทางการค้าจากการนำเข้าของจีน ขณะเดียวกันการขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศอีก 10% นั้น จะส่งผลให้วัตถุดิบมีราคาแพงขึ้น ซึ่งมองว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ เลือกที่จะเดินหน้านโยบายที่สนับสนุนการผลิตภายในของภาคธุรกิจ เพื่อทำให้ธุรกิจแข่งขันกับนานาชาติได้ ซึ่งนโยบายทั้งหมดจะมีส่วนช่วยทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ สามารถขยายตัวได้สูงกว่านโยบายของนางกมลา แฮร์ริส

สำหรับผลกระทบจากผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯ กับประเทศไทยนั้น นายธนวรรธน์ มองว่า จะมีผลกระทบ 2 ด้านสำคัญ คือ 1. ผลกระทบทางตรงในระยะสั้น โดยหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง มองว่าประเทศไทยจะส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ได้ยากขึ้น เพราะการถูกตั้งกำแพงภาษีที่สูงขึ้นเป็น 10% ซึ่งไทยเป็นประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ดังนั้น หากสหรัฐฯ จะเข้ามาเน้นให้ไทยมีบทบาทในการได้เปรียบในการเข้าไปในตลาดสหรัฐฯ น้อยลง ก็อาจจะเป็นปัจจัยกดดันให้ไทยจำเป็นจะต้องเปิดตลาดกับสหรัฐฯ ให้มากขึ้น

2. ผลกระทบทางอ้อม คือ เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ทำให้ภาพการส่งออกและการท่องเที่ยวไม่โดดเด่น โดยมองว่าหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง โอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเกินกรอบ 3% อาจจะไม่สูงมาก โดยจะอยู่ที่ระดับ 3-3.2% เท่านั้น แต่หากนางกมลา แฮร์ริส ชนะการเลือกตั้ง เศรษฐกิจไทยก็น่าจะขยายตัวได้ที่ 3-3.5% เนื่องจากนางกมลา แฮร์ริส จะไม่มีการกีดกันทางการค้าเข้มข้นเท่านายโดนัลด์ ทรัมป์

อย่างไรก็ดี หากท้ายที่สุดนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง สิ่งที่จะต้องจับตา คือ การเห็นภาพการเคลื่อนย้ายเงินทุนของจีนสูงขึ้น เนื่องจากจีนจะถูกควบคุมการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ มากขึ้น ส่งผลให้จีนเลือกข้างมากขึ้น ดังนั้น โอกาสที่จีนจะย้ายฐษนการผลิตเข้ามาในไทยและอาเซียนก็จะเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันจีนก็จะเร่งสร้างสัมพันธ์กับประเทศในเอเชียและอาเซียนมากขึ้นด้วย

เพิ่มเพื่อน