“ธ.ก.ส.” กางยอดเกษตรกรเข้าร่วมมาตรการพักหนี้ เฟส 2 แล้วเฉียด 5 หมื่นราย ตั้งเป้าเดินหน้าฝึกอบรมส่งเสริมฟื้นฟูอาชีพให้ลูกหนี้เพิ่ม 3 แสนราย พร้อมเดินเครื่องสินเชื่อเคหะ วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท เคาะปล่อยกู้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อหลักประกัน ผ่อนยาว 40 ปี
2 พ.ย. 2567 – นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า มาตรการพักชำระหนี้ลูกหนี้รายย่อย ระยะที่ 2 เป็นการแก้ไขปัญหาหนี้ต่อเนื่องให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมมาตรการฯ ระยะที่ 1 กว่า 1.41 ล้านราย โดยเปิดให้ลูกค้าแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการ ระยะที่ 2 ผ่านสาขา ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 – 31 ม.ค. 2568 ซึ่งธนาคารจะตรวจสอบข้อมูล ประเมินศักยภาพและความสามารถในการชำระหนี้ (Loan Review) โดยลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข จะได้รับการพักชำระหนี้ในระยะที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 – 30 ก.ย. 2568 และ ณ วันที่ 30 ต.ค. มีผู้ผ่านการสอบทานศักยภาพหนี้ (LR) เพื่อเข้ามาตรการต่อ จำนวน 49,787 ราย
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ตั้งเป้าหมายในการอบรมและส่งเสริมการฟื้นฟูประกอบอาชีพ ให้กับลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการฯ เพิ่มอีก 300,000 รายทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถนำความรู้จากการอบรมมาเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบอาชีพ ด้วยการปรับวิธีคิด วิธีทำ พัฒนาอาชีพเดิมและเติมอาชีพใหม่ ซึ่งผู้ที่ผ่านการอบรมจะสามารถขอการสนับสนุนสินเชื่อภายใต้โครงการสินเชื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพภายใต้มาตรการฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในการฟื้นฟูศักยภาพ ค่าลงทุนปรับเปลี่ยนการผลิตด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสร้างรายได้เพิ่มขึ้น จนสามารถชำระหนี้ได้หลังสิ้นสุดมาตรการ
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังสนับสนุนเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำให้แก่บุคลากรของรัฐและเอกชนที่ทำหน้าที่ในการดูแลภาคชนบทและชุมชน ในการนำไปต่อยอดและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในทุกมิติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชน และป้องกันการก่อหนี้นอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม อาทิ สินเชื่อเงินด่วนคนดีสำหรับสมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) ที่เป็นกลไกสำคัญในการดูแลสุขภาพเกษตรกร ประชาชนและสังคมส่วนรวม กรอบวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท วงเงินกู้รายละไม่เกิน 20,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.67% ต่อเดือน หรือ 8% ต่อปี ซึ่งมีการจ่ายสินเชื่อไปแล้ว 8,477 ล้านบาท จำนวนผู้กู้ 423,848 ราย และมีการต่อยอดโครงการด้วยการจัดทำสินเชื่อเงินด่วนกึ่งแสน เพื่อสมาชิก อสม. และ อสส. ที่กู้โครงการสินเชื่อเงินด่วนคนดีที่มีการชำระเงินตรงงวด ครบ 4 เดือน สามารถเพิ่มวงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 50,000 บาท กรอบวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท และสามารถขยายเวลาการชำระหนี้ออกไปจากเดิมไม่เกิน 48 งวด เป็นผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 125 งวด โดยจ่ายสินเชื่อไปแล้ว 2,836 ล้านบาท จำนวนผู้กู้ 56,726 ราย
อย่างไรก็ดี ในโอกาสฉลองครบรอบวันสถาปนาปีที่ 59 ธ.ก.ส. เตรียมเปิดตัวสินเชื่อเคหะเพื่อที่อยู่อาศัย BAAC Housing Loans กรอบวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อหลักประกัน ผ่อนชำระสูงสุด 40 ปี เพื่อสนับสนุนเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับเกษตรกรและบุคคลในครอบครัวที่มีรายได้ประจำ เป็นรายเดือน บุคลากรภาครัฐหรือพนักงานองค์กรในสังกัดหน่วยงานที่ได้ทำข้อตกลงร่วมกันกับธนาคาร (MOU) ที่มีบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนาชุมชนในการนำไปซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ปรับปรุงหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัย รวมถึงการไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจากสถาบันการเงินอื่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กระทรวงเกษตรฯ เคาะช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่! วงเงิน 3.8 หมื่นล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากกรณีมติของที่ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิตครั้งที่
โฆษก กษ. เผยข่าวดี! ปรับเงินช่วยชาวนาเป็น 1000 บาทต่อไร่แล้ว
นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยผลประ